Open Access. Powered by Scholars. Published by Universities.®

Medicine and Health Sciences Commons

Open Access. Powered by Scholars. Published by Universities.®

Chulalongkorn University

2018

Discipline
Keyword
Publication
Publication Type

Articles 571 - 591 of 591

Full-Text Articles in Medicine and Health Sciences

จุฬาลงกรณ์เวชสารก้าวสู่ปีที่ 62, สิทธิศักดิ์ หรรษาเวก Jan 2018

จุฬาลงกรณ์เวชสารก้าวสู่ปีที่ 62, สิทธิศักดิ์ หรรษาเวก

Chulalongkorn Medical Journal

จุฬาลงกรณ์เวชสาร มกราคม – กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 ฉบับนี้ก้าวขึ้นสู่ปีที่ 62 ของการจัดพิมพ์เผยแพร่วารสาร โดยในฉบับนี้ได้เพิ่มหัวข้อขึ้นใหม่ภายใต้ชื่อ “จุฬาลงกรณ์เวชประวัติ” (History Medicine) ซึ่งเป็นการรำลึกถึงพระคุณของบุพพาจารย์หรือบูราพาจารย์อาจารย์ท่านก่อนในยุคบุกเบิกก่อตั้งคณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ได้มีคุณูปการต่อเหล่าบรรดาลูกศิษย์รุ่นแล้วรุ่นเล่า โดยในฉบับนี้ได้รับเกียรติจากศาสตราภิชาน นายแพทย์นภดล นพคุณ เขียนรำลึกศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์สุนิตย์ เจิมศิริวัฒน์ซึ่งเป็นปรมาจารย์ผู้บุกเบิกทางการแพทย์ด้านผิวหนัง และร่วมก่อตั้งชมรมแพทย์ผิวหนังเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมพ.ศ. 2499 และต่อมาเป็นสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย เอกลักษณ์สำคัญของท่านคือ การแต่งกายสะอาด สุภาพ ผูกหูกระต่ายอย่างสง่างาม ใจดี มีอัธยาศัยเป็นกันเองกับลูกศิษย์ และมีอารมณ์ขัน ผู้เขียนได้มีโอกาสเรียนรู้โรคผิวหนังที่ตึกผู้ป่วยนอกกับท่านเมื่อครั้งเป็นนิสิตแพทย์ และเคยได้เดินจูงมือท่านกลับมายังห้องทำงานของท่านที่ตึกกายวิภาคศาสตร์หลังเก่า ท่านเป็นผู้ตั้งชื่อโรคผิวหนังเป็นภาษาไทย เช่น โรคขี้กลากหนุมาน (Tinea imbricata) และโรคสะเก็ดเงิน (psoriasis) เป็นต้น ท่านอาจารย์เคยเขียนบทความร่วมกับรองศาสตราจารย์นายแพทย์วินัย พากเพียร เรื่องการบำรุงและรักษาผิวหนัง รวมทั้งได้เขียนบทความเรื่องศิลปและจรรยาแพทย์ ร่วมกับศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์ภิรมย์ กมลรัตนกุล ซึ่งได้นำมาลงตีพิมพ์เผยแพร่อีกครั้งในวารสารฉบับนี้.


Isolated Histoplasmosis Of The Tongue: A Case Report, Prattana Sittiwattanawong, Marisa Pongprutthipan Jan 2018

Isolated Histoplasmosis Of The Tongue: A Case Report, Prattana Sittiwattanawong, Marisa Pongprutthipan

Chulalongkorn Medical Journal

Histoplasmosis is an endemic, systemic mycosis caused by Histoplasma capsulatum. Clinical manifestations are various depending on immunity status. We reported a case of isolated histoplasmosis of the tongue. A 48-year-old Thai woman, steroid-dependence systemic lupus erythematosus, presented with rapid-growing, painful mass on the right lateral aspect of the tongue without systemic symptoms. Histologic examination confirmed the diagnosis of histoplasmosis and tissue culture identified Histoplasma capsulatum. The patient received oral itraconazole for 6 months until the lesion was completely healed. The oral lesions of histoplasmosis could be a part of localized form or disseminated form. We should investigate for possible dissemination …


การคัดกรองการสูญเสียการได้ยินในเด็ก, เชิญขวัญ ฐิติรุ่งเรือง, ภาณินี จารุศรีพันธุ์, เสาวรส ภทรภักดิ์ Jan 2018

การคัดกรองการสูญเสียการได้ยินในเด็ก, เชิญขวัญ ฐิติรุ่งเรือง, ภาณินี จารุศรีพันธุ์, เสาวรส ภทรภักดิ์

Chulalongkorn Medical Journal

การสูญเสียการได้ยินในเด็กเป็นปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งของระบบสาธารณสุข ซึ่งถ้าได้รับการตรวจพบและให้การดูแลอย่างทันท่วงทีจะส่งผลดีต่อพัฒนาการด้านภาษาและพัฒนาการอื่น ๆของเด็ก เป้าหมายในการตรวจคัดกรองการได้ยินในเด็กทารกควรจะได้รับการคัดกรองการได้ยินก่อนอายุ 1 เดือน ทารกที่ตรวจคัดกรองเบื้องต้นไม่ผ่านควรได้รับการยืนยันว่าสูญเสียการได้ยินภายในอายุ3 เดือน และควรได้รับการฟื้นฟูการได้ยินภายในอายุ 6 เดือน ปัจจุบันเครื่องมือที่ใช้ในการตรวจคัดกรองการได้ยินในเด็กมี 2 ชนิด คือ automated evoked otoacoustic emission และ automatedauditory brainstem response ส่วนการตรวจเพื่อยืนยันการสูญเสียการได้ยินนั้นประกอบด้วยการตรวจหลายชนิดร่วมกันทั้ง diagnostic evoked otoacoustic emission, diagnostic auditory brainstemresponse และ Tympanometry นอกจากนี้เด็กควรได้รับการตรวจหาสาเหตุการสูญเสียการได้ยินซึ่งเกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น ความผิดปกติทางพันธุกรรม การติดเชื้อขณะอยู่ในครรภ์และแรกคลอด การได้รับยาบางชนิดที่ส่งผลต่อหู ฯลฯ เด็กที่ผ่านการประเมินการได้ยินยังต้องได้รับการติดตามประเมินพัฒนาการทางด้านภาษาที่อายุ 9, 18, 24 - 30 เดือน หรือเมื่อผู้ปกครองสงสัยว่ามีปัญหาการได้ยิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการสูญเสียการได้ยินควรได้รับการตรวจประเมินการได้ยินอีกครั้งที่อายุประมาณ 24 - 30 เดือน เนื่องการสูญเสียการได้ยินอาจเกิดในภายหลังได้ เด็กที่บกพร่องทางการได้ยินควรได้รับการฟื้นฟูการได้ยินและกระตุ้นพัฒนาการ ซึ่งปัจจุบันมีอุปกรณ์ช่วยฟังหลายชนิดด้วยกัน ได้แก่ เครื่องช่วยฟัง เครื่องช่วยฟังชนิดฝังในกระดูก และประสาทหูเทียมอย่างไรก็ตามเนื่องจากประเทศไทยมีข้อจำกัดทั้งด้านบุคลากรทางการแพทย์ นักตรวจการได้ยินเครื่องมือที่ใช้ตรวจคัดกรองและประเมินการได้ยิน การเข้าถึงอุปกรณ์ช่วยฟังซึ่งส่วนใหญ่มีราคาสูงจึงจำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนแนวทางการคัดกรองให้เหมาะสมกับแต่ละสถาบัน.


ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกมีคุณค่าในตนเองของผู้สูงอายุในตำบลบางนางลี่ จังหวัดสมุทรสงคราม, สุรางค์ เชื้อวณิชชากร, พูนสุข ช่วยทอง, เปรมวดี คฤหเดช Jan 2018

ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกมีคุณค่าในตนเองของผู้สูงอายุในตำบลบางนางลี่ จังหวัดสมุทรสงคราม, สุรางค์ เชื้อวณิชชากร, พูนสุข ช่วยทอง, เปรมวดี คฤหเดช

Chulalongkorn Medical Journal

เหตุผลของการทำวิจัย : ผู้สูงอายุที่มีความรู้สึกมีคุณค่าต่อตนเองจะมีพลังเชิงบวกในการพัฒนาตนเอง สามารถดูแลตนเองได้ และลดการเป็นภาระในสังคม ผู้วิจัยจึงมีความสนใจศึกษาเรื่องความรู้สึกมีคุณค่าในตนเองและปัจจัยที่เกี่ยวข้องของผู้สูงอายุในเขตชนบท ซึ่งมีรูปแบบการดำเนินชีวิตอีกลักษณะหนึ่ง เพื่อใช้เป็นแนวทางในการส่งเสริมความรู้สึกมีคุณค่าในตนเองที่สอดคล้องกับบริบทของสังคมผู้สูงอายุในเขตชนบทวัตถุประสงค์ : เพื่อศึกษาระดับความรู้สึกมีคุณค่าในตนเองของผู้สูงอายุ และเพื่อศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความรู้สึกมีคุณค่าในตนเองของผู้สูงอายุวิธีการทำวิจัย : ผู้สูงอายุ อายุเท่ากับหรือมากกว่า 60 ปีขึ้นไปจำนวน 340 ราย ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (simple random sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถามปัจจัยส่วนบุคคล และแบบประเมินความรู้สึกมีคุณค่าในตนเองของ Coopersmith มีค่าความเชื่อมั่นดังนี้ ความรู้สึกมีคุณค่าในตนเอง 0.90 การใช้หลักธรรมะในการดำเนินชีวิต 0.85 สัมพันธภาพกับบุคคลในครอบครัว 0.84สัมพันธภาพกับบุคคลในสังคม 0.76 และสิ่งแวดล้อมในสังคม 0.78ผลการศึกษา : กลุ่มตัวอย่างเป็นเพศหญิงร้อยละ 59.1 กลุ่มอายุ 60 – 69 ปี มากที่สุดร้อยละ 56.2 มีความรู้สึกมีคุณค่าในตนเองระดับปานกลางมากที่สุดร้อยละ 62.9 รองลงมาต่ำและสูงร้อยละ 21.8 และ 15.3 ตามลำดับปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความรู้สึกมีคุณค่าในตนเองอย่างมีนัยสำคัญ (P < 0.05) ภาวะสุขภาพ ความสามารถในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันโรคประจำตัว การรับรู้ภาวะสุขภาพกายเมื่อเทียบกับคนวัยเดียวกัน การใช้เวลาว่างในการทำกิจกรรม งานอดิเรก กีฬา และการพบปะติดต่อกับบุตร บทบาทในครอบครัว ได้แก่ ช่วยทำงานประกอบอาชีพ เป็นที่ปรึกษาครอบครัว เลี้ยงดูบุตรหลาน ช่วยเหลืองานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ สัมพันธภาพกับบุคคลในครอบครัว (r = 0.56)สัมพันธภาพกับบุคคลในสังคม (r = 0.59) และสิ่งแวดล้อมในสังคม(r = 0.55) มีความสัมพันธ์ทางบวกปัจจัยที่ไม่มีความสัมพันธ์ทางสถิติกับความรู้สึกมีคุณค่าในตนเอง (P >0.05) ได้แก่ อายุ รายได้เฉลี่ยต่อเดือน การใช้หลักธรรมะในการดำเนินชีวิตสรุป : หน่วยงานที่มีบทบาทหน้าที่ในการดูแลผู้สูงอายุ ควรดูแลผู้สูงอายุในเรื่องภาวะสุขภาพความสามารถในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันโรคประจำตัว การรับรู้ภาวะสุขภาพเมื่อเทียกับคนวัยเดียวกัน การใช้เวลาว่างในการทำกิจกรรม การพบปะติดต่อกับบุตร การมีบทบาทในครอบครัว เรื่อง ช่วยทำงานประกอบอาชีพ เป็นที่ปรึกษา เลี้ยงดูบุตรหลาน ช่วยเหลืองานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ มีสัมพันธภาพกับบุคคลในครอบครัว มีสัมพันธภาพกับบุคคลในสังคม และสิ่งแวดล้อมในสังคม.


ระลึกถึงศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์สุนิตย์ เจิมศิริวัฒน์, นภดล นพคุณ Jan 2018

ระลึกถึงศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์สุนิตย์ เจิมศิริวัฒน์, นภดล นพคุณ

Chulalongkorn Medical Journal

เมื่อ 60 ปีก่อนนิสิตแพทย์และคนไข้ต่างคุ้นเคยกับการเห็นคุณหมอค่อนข้างท้วม ผูกหูกระต่าย อารมณ์ดี สอนหนังสือหรือตรวจคนไข้ อยู่ที่ห้องตรวจเล็ก ๆ ที่ชั้นล่าง ตึกจักรพงษ์ คุณหมอท่านนั้นคือ ศาสตราจารย์กิตติคุณนายแพทย์ สุนิตย์ เจิมศิริวัฒน์ ปรมาจารย์ทางโรคผิวหนังของประเทศไทย และคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ท่านอาจารย์จบมัธยม 8 จากโรงเรียนอัสสัมชัญ และสำเร็จการศึกษา จากคณะแพทยศาสตร์และศิริราชพยาบาล (ศิริราชรุ่น 53) ท่านอาจารย์ได้ไปศึกษาต่อสาขาโรคเขตร้อน ที่เมืองกัลกัตตา ประเทศอินเดีย หลังจากนั้นได้รับทุนฟูลไบรท์ ไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัย Pensylvania ประเทศสหรัฐอเมริกา และไปเรียนโรคผิวหนังที่ Case Western Reserve University, เมือง Cleveland, มลรัฐ Ohio ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากเรียนจบท่านอาจารย์กลับมาทำงานเป็นแพทย์โท ที่โรงพยาบาลบางรัก และเป็นบุญวาสนาของเราที่ท่านอาจารย์ได้รับการแต่งตั้งให้มาทำงานที่ภาควิชาอายุรศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ท่านได้รับปริญญาแพทยศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในปีการศึกษา 2532.


Effects Of Selected Volatile Oils In Thailand On Physiological Activities And Emotions, Nida Nuiden Jan 2018

Effects Of Selected Volatile Oils In Thailand On Physiological Activities And Emotions, Nida Nuiden

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

The effects of aromatherapy especially essential oil inhalation are believed to be almost instantaneous on physiological and emotional effects but clinical research on the effects of the essential oil inhalation on ANS parameters, brain wave activities and emotional states are still limited. So, this study aimed to examine the physiological and emotional effects of essential oil inhalation namely Cinnamonum porrectum oil, Michelia alba oil, Litsea cubeba oil and one carrier oil as sweet almond oil using scientific techniques on autonomic nervous system (ANS), brain wave activities, and self-evaluated questionnaire on emotional states. This research was an experimental study using A-B …


Factors Affecting Utilization Of Family Planning Services Among Married Women Of Reproductive Age Living In The Rural Area Of Kayin State, Myanmar, Sabai Tun Jan 2018

Factors Affecting Utilization Of Family Planning Services Among Married Women Of Reproductive Age Living In The Rural Area Of Kayin State, Myanmar, Sabai Tun

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

The rewards of promoting family planning services not only restricted to improving maternal or child health but also significantly advanced the fitting occasion to gain higher educational status, better employment, empowerment and greater socioeconomic status especially for girls and women. The main purpose of this study was to assess the utilization proportion of family planning services for contraception and to determine the factors affecting the utilization of contraception among 388 married women of reproductive age living in the rural area of Hpa-an Township, Kayin state, Myanmar. The data was collected by face to face interview in this quantitative cross-sectional descriptive …


The Effect Of Monosodium Glutamate On Brain, Liver, Kidney, Testis, Ovary, Fertilization And Hatching Rate In Zebrafish (Danio Rerio), Chortip Sajjaviriya Jan 2018

The Effect Of Monosodium Glutamate On Brain, Liver, Kidney, Testis, Ovary, Fertilization And Hatching Rate In Zebrafish (Danio Rerio), Chortip Sajjaviriya

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Monosodium glutamate (MSG) is composed of sodium salt and amino acids that is commonly used to enhance food taste. Although it is safe at consumption level, the adverse effect of MSG had been reported. The present research was intended to evaluate the effect of MSG on the brain, liver, kidney, testes, and ovaries of zebrafish (Danio rerio) which were exposed from embryo stage to adult stage, along with the analyzing of the fertilization rate and hatching rate of zebrafish embryos. From the observation of histopathological changing of different organs of zebrafish after exposed to 10, 100, and 1000 ppm MSG …


เภสัชจลนศาสตร์ประชากรของยาแวนโคมัยซินในผู้ป่วยเด็กชาวไทย, ชนิกา ชูพันธ์ Jan 2018

เภสัชจลนศาสตร์ประชากรของยาแวนโคมัยซินในผู้ป่วยเด็กชาวไทย, ชนิกา ชูพันธ์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษาแบบเก็บข้อมูลย้อนหลังนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างแบบจำลองทางเภสัชจลนศาสตร์และหาปัจจัยที่มีผลต่อค่าพารามิเตอร์ทางเภสัชจลนศาสตร์ของยาแวนโคมัยซินในผู้ป่วยเด็กชาวไทย ค่าความเข้มข้นของ ยาแวนโคมัยซินในซีรั่มจานวน 348 ตัวอย่าง จากผู้ป่วยเด็กอายุระหว่าง 1 เดือน ถึง 18 ปี ที่เข้ารับการรักษา ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ระหว่างปี พ.ศ. 2555-2560 จานวน 212 คน วิเคราะห์ข้อมูลเภสัช จลนศาสตร์ประชากรด้วยโปรแกรม NONMEM® โดยวิธี first-order conditional estimation with interaction ลักษณะทางเภสัชศาสตร์ของยาแวนโคมัยซินอธิบายได้ด้วยแบบจำลองชนิดหนึ่งห้องที่มีการกำจัดยา แบบปฏิกิริยาอันดับหนึ่ง ค่าเฉลี่ยอัตราการกำจัดยาแวนโคมัยซิน (CL) มีค่า 0.13 ลิตร/ชั่วโมง/กิโลกรัม และ ค่าเฉลี่ยปริมาตรการกระจายยา (Vd) มีค่า 0.88 ลิตร/กิโลกรัม ปัจจัยที่มีผลต่อค่าพารามิเตอร์ทางเภสัชศาสตร์ ได้แก่ น้ำหนัก (กิโลกรัม) และอัตราการกรองของไต (มิลลิลิตร/นาที/1.73 ตารางเมตร) ดังแสดงในสมการ CL (ลิตร/ชั่วโมง) = 1.66*(น้ำหนัก/14)[superscript 0.75]*(อัตราการกรองของไต/108.9) และ V (ลิตร) = 12.7*(น้ำหนัก/14) ค่า ความผันแปรระหว่างบุคคลของ CL เท่ากับร้อยละ 34.8 ค่าความผันแปรระหว่างบุคคลของ V เท่ากับร้อยละ 39.6 และแบบจำลองสุดท้ายถูกตรวจสอบความสมเหตุสมผลด้วยวิธี bootstrap และ visual predictive check (VPC) ค่าพารามิเตอร์จากแบบจำลองสุดท้ายมีค่าใกล้เคียงกับค่าพารามิเตอร์ที่ได้จากการทำ bootstrap 1,000 ครั้ง และอยู่ในช่วงความเชื่อมั่นที่ร้อยละ 95 ผลการจำลองข้อมูลด้วยวิธี VPC 1,000 ครั้ง พบค่าความเข้มข้นของ ยาแวนโคมัยซินร้อยละ 6 ที่อยู่นอกช่วงความเชื่อมั่นที่ร้อยละ 90 แสดงถึงความเหมาะสมของแบบจำลองดังกล่าว ในการอธิบายเภสัชจลนศาสตร์ของยาแวนโคมัยซิน


Comparative Study Between Vitamin B 1-6-12 And Vitamin B 12 For Neurosensory Recovery After Bilateral Sagittal Split Ramus Osteotomy, Worawee Trising Jan 2018

Comparative Study Between Vitamin B 1-6-12 And Vitamin B 12 For Neurosensory Recovery After Bilateral Sagittal Split Ramus Osteotomy, Worawee Trising

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

A major complication from Bilateral Sagittal Split Ramus Osteotomy (BSSRO) is inferior alveolar nerve injured that manifest as neurosensory disturbance (NSD) on the lower lip, chin. Although the NSD is not a life-threatening problem but it impacts the patient's daily life. Vitamin B is commonly used to treat peripheral neuropathy but it is only few study for NSD from BSSRO. The aim of this study was to evaluate the effect of oral vitamin B1-6-12 and vitamin B12 on NSD after BSSRO. The study design was as a randomized, single blinded control trial of 75 patients who were NSD from BSSRO …


Association Between Chronic Periodontitis And Hypertension Among Thai Adults, Ploysiri Rassamee Jan 2018

Association Between Chronic Periodontitis And Hypertension Among Thai Adults, Ploysiri Rassamee

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Previous studies suggest that periodontitis may be associated with an increasing risk of hypertension. However, data from large epidemiological studies are limited. The aim of this cross-sectional study was to examine the association between periodontitis and hypertension using data from a cohort study in a Thai population. The study population comprised of 1,378 employees of the Electricity Generating Authority of Thailand (EGAT), aged 53 to 73 years old, were categorized into no/mild, moderate, or severe periodontitis groups. Hypertension was determined as having systolic blood pressure 140 mmHg or more or diastolic blood pressure 90 mmHg or more, or taking antihypertensive …


Alpha-Glucosidase Inhibitors From Dendrobium Scabrilingue, Chalermporn Sarakulwattana Jan 2018

Alpha-Glucosidase Inhibitors From Dendrobium Scabrilingue, Chalermporn Sarakulwattana

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Phytochemical study of the methanol extract of the whole plant of Dendrobium scabrilingue Lindl. (Orchidaceae) resulted in the isolation of a new phenanthrene and a new bisbibenzyl namely dendroscabrols A and B, respectively, along with eight known compounds, identified as (Z)-ferulic acid tetracosyl ester, (E)-ferulic acid tetracosyl ester, gigantol, batatasin III, coelonin, aloifol I, lusianthridin and RF-3192C. The structures of these isolated compounds were determined mainly by spectroscopic data. All isolates were examined for alpha-glucosidase inhibitory activity. Dendroscabrol B and RF-3192C exhibited the most potent activity. In addition, dendroscabrol A, gigantol, coelonin and lusianthridin displayed strong activity compared with the …


Novel Regulatory Mechanisms Of Protein Kinase B On Apoptosis Susceptibility And Cancer Dedifferentiation, Arnatchai Maiuthed Jan 2018

Novel Regulatory Mechanisms Of Protein Kinase B On Apoptosis Susceptibility And Cancer Dedifferentiation, Arnatchai Maiuthed

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

No abstract provided.


Knowledge, Attitude And Health Care Practices For Gender-Based Violence Cases In Yangon, Myanmar, Aye Nyein Ei Jan 2018

Knowledge, Attitude And Health Care Practices For Gender-Based Violence Cases In Yangon, Myanmar, Aye Nyein Ei

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Gender-based violence has negative impact on physical, psychological and social wellbeing of the survivor. The initial response can lessen the magnitude of the effect and thus the health care sector's readiness to response GBV cases is important. Hence, a study to explore the knowledge, attitude and practice level regarding GBV response among health care personnel was conducted. A cross-sectional study was conducted in 48 public hospitals in Yangon, Myanmar during April and May 2019 involving 398 health care personnel (doctors and nurses). The measurement tool is self-administered structured questionnaires for demographic assessment, knowledge, attitude, supportive environmental factors and practice. Analysis …


อนาคตภาพฝ่ายการพยาบาลของศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติเอกชน พุทธศักราช 2565-2569, ปุญญิศา ถือคุณ Jan 2018

อนาคตภาพฝ่ายการพยาบาลของศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติเอกชน พุทธศักราช 2565-2569, ปุญญิศา ถือคุณ

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาอนาคตภาพฝ่ายการพยาบาลของศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติเอกชน พุทธศักราช 2565-2569 โดยใช้เทคนิคการวิจัยอนาคตแบบ Ethnographic Delphi Futures Research (EDFR) จากกลุ่มผู้เชี่ยวชาญการบริหารทางการพยาบาลโรงพยาบาลเอกชน 9 คน กลุ่มผู้บริหารโรงพยาบาลเอกชน 3 คน กลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายระบบสุขภาพ 3 คน และกลุ่มพยาบาลวิชาชีพที่มีประสบการณ์ทำงานในโรงพยาบาลเอกชน 3 คน รวมทั้งสิ้นจำนวน 18 คน วิธีการดำเนินการวิจัยประกอบด้วย 3 รอบ คือ รอบที่ 1 สัมภาษณ์ความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอนาคตภาพฝ่ายการพยาบาลของศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติเอกชน พุทธศักราช 2565-2569 รอบที่ 2 นำข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์มาวิเคราะห์เนื้อหาและสร้างแบบสอบถาม เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญแสดงประมาณค่าแนวโน้มความสำคัญในแต่ละข้อ และรอบที่ 3 นำข้อมูลที่ได้จากรอบ 2 มาคำนวณค่ามัธยฐาน ค่าพิสัยระหว่างควอไทล์ จัดทำแบบสอบถามให้ผู้เชี่ยวชาญยืนยันความคิดเห็น ผลการวิจัยพบว่า อนาคตภาพฝ่ายการพยาบาลของศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติเอกชน พุทธศักราช 2565-2569 ประกอบด้วย 6 ด้าน ดังนี้ 1) ด้านโครงสร้างการบริหารฝ่ายการพยาบาล ได้แก่ มีการกำหนดความรับผิดชอบ เน้นการบริหารแบบมีส่วนร่วม โครงสร้างมีความยืดหยุ่นสูงตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลง และมีสายงานบังคับบัญชาที่สั้น 2) ด้านการพัฒนาและบริหารทรัพยากรบุคคล ได้แก่ การพัฒนาด้านทักษะทางจริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ การคัดสรรบุคลากรมีการกำหนดบทบาทหน้าที่ให้ชัดเจน การดูแลผู้รับบริการที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม 3) ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี ได้แก่ มีนโยบายที่ชัดเจนในการพัฒนาความรู้และส่งเสริมการเรียนรู้ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี การใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ 4) ด้านรูปแบบการบริการ ได้แก่ การจัดรูปแบบการบริการในการดูแลสุขภาพที่ตอบสนองต่อสังคมสูงอายุ จัดบริการที่เป็นการส่งเสริมสุขภาพ การดูแลระยะยาวและประคับประคองเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้รับบริการทุกกลุ่มทั้งกลุ่มสุขภาพดี กลุ่มเสี่ยง และระยะสุดท้าย 5) ด้านการจัดการเชิงกลยุทธ์ทางการพยาบาล ได้แก่ มีระบบติดตามงานอย่างต่อเนื่อง มีการกำหนดวิสัยทัศน์และพันธกิจเชิงกลยุทธ์ทางการพยาบาลให้ชัดเจน และ 6) ด้านคุณภาพการบริการที่เป็นเลิศ ได้แก่ มีการกำหนดนโยบายด้านคุณภาพในการบริหารความปลอดภัยของผู้ป่วย มีการกำหนดตัวชี้วัดคุณภาพการดูแล และมีการเทียบเคียงระดับสากล อนาคตภาพฝ่ายการพยาบาลของศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติเอกชน พุทธศักราช 2565-2569 ทั้ง 6 ด้าน มีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี (สาธารณสุข) …


ประสบการณ์การตีตราตนเองในผู้ติดแอลกอฮอล์, ศโรชา บุญยัง Jan 2018

ประสบการณ์การตีตราตนเองในผู้ติดแอลกอฮอล์, ศโรชา บุญยัง

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การวิจัยเชิงคุณภาพ ตามแนวคิดปรากฏการณ์วิทยาของ Husserl มีวัตถุประสงค์เพื่อบรรยายประสบการณ์การตีตราตนเองในผู้ติดแอลกอฮอล์ ทั้งชายและหญิง อายุระหว่าง 20-59 ปี ที่เข้ารับการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพแบบผู้ป่วยใน มากกว่า 1 ครั้ง ไม่มีโรคทางจิตเวชอื่นร่วมด้วย และไม่มีภาวะถอนพิษแอลกอฮอล์ รวบรวมข้อมูลโดยวิธีการสัมภาษณ์เชิงลึก แบบมีแนวทางการสัมภาษณ์ร่วมกับการบันทึกเสียง นำข้อมูลที่ได้มาถอดความแบบคำต่อคำ และวิเคราะห์ข้อมูลตามวิธีของ Colaizzi จนข้อมูลอิ่มตัวจากผู้ให้ข้อมูล จำนวน 15 ราย ผลการวิจัยพบว่า ความหมายของการตีตราตนเองในผู้ติดแอลกอฮอล์ คือ ความคิด ความรู้สึกที่มีต่อตนเองว่าเป็นคนไม่ดีเพราะติดแอลกอฮอล์ การตีตราตนเองเริ่มจากการที่ตนเองต้องเผชิญกับปฏิกิริยาต่างๆ จากครอบครัวและสังคม แล้วนำปฏิกิริยาที่ตนเองได้รับรู้ให้เข้ามามีผลต่อความคิด ความรู้สึกภายในของตนเอง และสุดท้ายยอมรับว่าตนเองไม่ดีจริงตามที่คนอื่นว่า สำหรับประสบการณ์การตีตราตนเองในผู้ติดแอลกอฮอล์ ประกอบด้วย 3 ประเด็นหลัก คือ 1) การรับรู้มุมมองจากครอบครัวและสังคม 2) การยอมรับตนเองตามที่สังคมมอง และ 3) ผลกระทบจากการยอมรับ (การตีตราตนเอง) ผลการวิจัยครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความคิด ความรู้สึก และประสบการณ์การตีตราตนเองในผู้ติดแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นความรู้พื้นฐานสำหรับพยาบาลและทีมสุขภาพในการพัฒนากระบวนการบำบัดรักษา และวางแผนการดูแลได้อย่างเหมาะสม และสอดคล้องกับความต้องการของผู้ติดแอลกอฮอล์ที่มีการตีตราตนเอง อันจะนำไปสู่การป้องกันการกลับดื่มซ้ำต่อไป


การส่งเสริมการตลาดที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเข้าร่วมแข่งขันของนักวิ่งมาราธอนในประเทศไทย, ณัฐพันธุ์ อุไรลักษมี Jan 2018

การส่งเสริมการตลาดที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเข้าร่วมแข่งขันของนักวิ่งมาราธอนในประเทศไทย, ณัฐพันธุ์ อุไรลักษมี

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษาเรื่อง การส่งเสริมการตลาดที่ส่งผลต่อการตัดสินเข้าร่วมแข่งขันของนักวิ่งมาราธอนในประเทศไทย มีจุดประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการส่งเสริมการตลาดกับการตัดสินใจเข้าร่วมแข่งขันของนักวิ่งมาราธอนในประเทศไทย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือผู้ที่เข้าร่วมแข่งขันในรายการวิ่งมาราธอนในประเทศไทยทั้งเพศชายและหญิง จำนวน 400 คน ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือซึ่งมีค่า ดัชนีควาสอดคล้องเท่ากับ 0.98 และมีค่าความเที่ยงเท่ากับ 0.88 และนำผลที่ได้มาวิเคราะห์ด้วยการแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์การถดถอยเชิงพหุคูณ (Multiple Regression Analysis) ผลการวิจัย พบว่า ระดับความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมการแข่งขันวิ่งมาราธอนเกี่ยวกับการส่งเสริมการตลาดที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเข้าร่วมแข่งขันของนักวิ่งมาราธอนในประเทศไทย โดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านการประชาสัมพันธ์ ด้านการขายโดยใช้บุคคล ด้านการโฆษณา และด้านการส่งเสริมการขาย มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ตามลำดับ ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า การส่งเสริมการตลาดสามารถพยากรณ์การตัดสินใจเข้าร่วมแข่งขันของนักวิ่งมาราธอนในประเทศไทยได้ร้อยละ 22.1 ค่าสหสัมพันธ์พหุคูณ (R) มีค่าเท่ากับ 0.470 โดยการส่งเสริมการตลาดรายด้านที่มีความสัมพันธ์เชิงบวกต่อการตัดสินใจเข้าร่วมแข่งขันของนักวิ่งมาราธอนในประเทศไทยอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ประกอบด้วย ด้านการขายโดยใช้บุคคล ด้านการโฆษณา และด้านการประชาสัมพันธ์


ส่วนประสมทางการตลาดที่ส่งผลต่อความเต็มใจจ่ายค่าบริการรายเดือนในการใช้บริการฟิตเนส 24 ชั่วโมง ในเขตกรุงเทพมหานคร, ปรัชญา กลิ่นอบ Jan 2018

ส่วนประสมทางการตลาดที่ส่งผลต่อความเต็มใจจ่ายค่าบริการรายเดือนในการใช้บริการฟิตเนส 24 ชั่วโมง ในเขตกรุงเทพมหานคร, ปรัชญา กลิ่นอบ

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาส่วนประสมทางการตลาดที่ส่งผลต่อความเต็มใจจ่ายค่าบริการรายเดือนในการใช้บริการฟิตเนส 24 ชั่วโมงในเขตกรุงเทพมหานคร กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยคือผู้ที่ใช้บริการ ฟิตเนสแบบ 24 ชั่วโมงที่ชำระค่าบริการแบบรายเดือนที่พักอาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครจำนวน 400 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามที่ปรับปรุงจากการวิจัยของอาทิตยา วงศ์วานิช (2559) เพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การวิจัย ซึ่งมีค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) เท่ากับ 0.88 และค่าความเที่ยงโดยการหาสัมประสิทธิ์อัลฟาของครอนบาคเท่ากับ 0.95 นำผลที่ได้มาวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติร้อยละ และใช้การวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณเพื่อคัดเลือกส่วนประสมทางการตลาดที่ส่งผลต่อความเต็มใจจ่ายค่าบริการรายเดือนในการใช้บริการฟิตเนส 24 ชั่วโมง ในเขตกรุงเทพมหานคร ผลการทดสอบส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อความเต็มใจจ่ายค่าบริการรายเดือนในการใช้บริการฟิตเนส 24 ชั่วโมงในเชิงบวก พบว่า เมื่อวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณส่วนประสมทางการตลาด 7Psทั้ง 7 ด้าน (X) ที่ส่งผลต่อความเต็มใจจ่ายค่าบริการรายเดือนในฟิตเนสแบบ 24 ชั่วโมง (Y)สามารถทำนายความเต็มใจจ่ายค่าบริการรายเดือนได้ร้อยละ 60.4 และมีค่าความคลาดเคลื่อนของการทำนายที่ร้อยละ 41.72และพบว่า ด้านลักษณะทางกายภาพ (Physical Evidence) และด้านผลิตภัณฑ์และบริการ (Product) มีผลต่อความเต็มใจจ่ายค่าบริการรายเดือนในฟิตเนสแบบ24 ชั่วโมงในเชิงบวก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ส่วนด้านส่งเสริมการตลาด (Promotion)มีผลต่อความเต็มใจจ่ายค่าบริการรายเดือนในฟิตเนสแบบ24ชั่วโมงในเชิงลบ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05


การเปรียบเทียบข้อมูลทางชีวกลศาสตร์ขณะลงสู่พื้นในท่าฟาดลูกตะกร้อแบบครึ่งรอบและแบบซันแบคในนักกีฬาเซปักตะกร้อหญิง, รัชยา ศุภลักษณ์ Jan 2018

การเปรียบเทียบข้อมูลทางชีวกลศาสตร์ขณะลงสู่พื้นในท่าฟาดลูกตะกร้อแบบครึ่งรอบและแบบซันแบคในนักกีฬาเซปักตะกร้อหญิง, รัชยา ศุภลักษณ์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

วัตถุประสงค์ เพื่อเปรียบเทียบแรงปฏิกิริยาจากพื้นในแนวดิ่งและองศาการเคลื่อนไหวของข้อเข่าในทิศทางต่าง ๆ ขณะลงสู่พื้นจากการกระโดดฟาดลูกตะกร้อในท่าฟาดลูกตะกร้อระหว่างแบบครึ่งรอบและแบบซันแบค วิธีการทดลอง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักกีฬาเซปักตะกร้อหญิงทีมชาติไทย อายุเฉลี่ย 25.63 ± 6.02 ปี จำนวน 8 คน โดยเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง ทำการฟาดลูกตะกร้อทั้ง 2 รูปแบบ ได้แก่ การกระโดดฟาดแบบครึ่งรอบและแบบซันแบครูปแบบละ 5 ครั้ง มีระยะเวลาห่างกันอย่างน้อย 10 นาที ในสนามตะกร้อจำลอง ที่ติดตั้งกล้องความเร็วสูงจำนวน 9 ตัว และแผ่นวัดแรงปฏิกิริยาในแนวดิ่งจำนวน 1 แผ่น นำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ค่า t (pair sample t-test) โดยกำหนดนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ผลการวิจัย 1. ค่าเฉลี่ยของค่าแรงปฏิกิริยาจากพื้นในแนวดิ่งสูงสุดขณะลงสู่พื้นในท่าฟาดลูกตะกร้อแบบซันแบค แสดงแรงปฏิกิริยาในแนวดิ่งมากกว่าแบบครึ่งรอบ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2. ค่าเฉลี่ยของค่ามุมองศาการบิดหมุนข้อเข่าเข้าด้านในขณะลงสู่พื้นในท่าฟาดลูกตะกร้อแบบครึ่งรอบ แสดงองศาการหมุนเข่าเข้าด้านในมากกว่าแบบซันแบค อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 สรุปผลการวิจัย แรงปฏิกิริยาจากพื้นในแนวดิ่งแบบซันแบคไม่สอดคล้องกับสมมุติฐานงานวิจัย เนื่องจากมีค่ามากกว่าแบบครึ่งรอบอย่างมีนัยสำคัญ โดยพบว่า การเคลื่อนไหวของข้อเข่าของการฟาดลูกแบบซันแบคขณะลงสู่พื้นมีแนวโน้มการงอเข่ามากกว่าแบบครึ่งรอบ แต่การฟาดแบบครึ่งรอบแสดงองศาการหมุนเข่าเข้าด้านในมากกว่าแบบซันแบคอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นองศาการเคลื่อนไหวของข้อเข่าจึงน่าจะมีผลโดยตรงต่อแรงปฏิกิริยาจากพื้นในแนวดิ่ง


แรงจูงใจที่มีผลต่อการเข้าชมการแข่งขันกีฬากอล์ฟอาชีพ, วีรภัทร์ โจ้นโทน Jan 2018

แรงจูงใจที่มีผลต่อการเข้าชมการแข่งขันกีฬากอล์ฟอาชีพ, วีรภัทร์ โจ้นโทน

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาปัจจัยด้านแรงจูงใจในการเข้าชมการแข่งขันกอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย และเปรียบเทียบความแตกต่างในปัจจัยด้านต่างๆ โดยจำแนกตาม เพศ อายุ รายได้ และประสบการณ์ในการเล่นกอล์ฟของผู้เข้าชม วิธีดาเนินการวิจัย กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้เข้าชมกีฬากอล์ฟอาชีพ 5 ทัวร์นาเม้น เป็นชาวไทยที่มีอายุมากกว่า 18 ปี ทั้งหมด 403 คน เครื่องมือวิจัยเป็นแบบสอบถามในปัจจัยด้านต่างๆทั้ง 7 ปัจจัยได้แก่ ปัจจัยด้านความสำเร็จ (achievement) ด้านความสวยงาม (aesthetics) ด้านความเร้าใจ (drama/eustress) การหลีกหนี (escape) ความรู้ (knowledge) ทักษะด้านสรีระ (physical skills) ปฏิสัมพันธ์ทางสังคม (social interaction) ค่าสถิติที่ใช้ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที และการวิเคราะห์ความแปรปรวน ผลการวิจัย จากการศึกษาพบว่า แรงจูงใจที่มีผลส่งผลต่อกลุ่มผู้เข้าชมมีมากที่สุดคือ แรงจูงใจด้านความสำเร็จแทน (Mean = 4.37) เมื่อเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยทางสถิติกับปัจจัยด้านอื่น ๆ ซึ่งแรงจูงใจในด้านต่าง ๆ จะส่งผลต่อตัวแปรที่แตกต่างกัน ผลการวิจัยพบว่า เพศชายและเพศหญิงมีแรงจูงใจที่แตกต่างกัน โดยเพศชายมีปัจจัยด้านการหลีกหนีมากที่สุด ส่วนเพศหญิงมีปัจจัยด้านความสาเร็จแทนมากที่สุด ส่วนปัจจัยด้านความเร้าใจ ส่งผลต่อบุคคลที่อยู่ในช่วงอายุ 46–55 ปี และ 56 ปีขึ้นไปมากที่สุด เช่นเดียวกับ บุลคลที่มีรายได้ 45001 บาทขึ้นไป ในขณะที่ปัจจัยด้านความรู้ ส่งผลต่อบุคคลที่มีประสบการณ์การเล่นกอล์ฟ 3–5 ปี สรุปผลการวิจัย ผู้วิจัยพบว่าการแข่งขันกอล์ฟอาชีพในประเทศไทยมีปัจจัยที่ส่งผลต่อกลุ่มผู้เข้าชมโดยแรงจูงใจด้านความสำเร็จแทน การหลีกหนี ความเร้าใจ และความรู้ แสดงให้เห็นว่าการแข่งขันในประเทศไทยมีปัจจัยด้านเหล่านี้อยู่ โดยผู้จัดสามารถส่งเสริมแรงจูงใจเหล่านี้ให้กับผู้เข้าชมได้ด้วยการสร้างบรรยากาศการรับชมให้ดีขึ้นสภาพแวดล้อมในสนามให้ดีขึ้นหรือสิ่งอานวยความสะดวกด้านต่างๆ ให้ทันสมัยมากขึ้น กลุ่มของผู้เข้าชมก็จะสามารถเข้าถึงและมีแรงจูงใจในการเข้าชมมากขึ้น


การเปลี่ยนแปลงของตัวแปรทางชีวกลศาสตร์ของการว่ายน้ำ 200 เมตร ท่าฟรอนท์ ครอลในรยางค์ส่วนบนของนักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติไทย, อัครยา ศีลสังวรณ์ Jan 2018

การเปลี่ยนแปลงของตัวแปรทางชีวกลศาสตร์ของการว่ายน้ำ 200 เมตร ท่าฟรอนท์ ครอลในรยางค์ส่วนบนของนักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติไทย, อัครยา ศีลสังวรณ์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

วัตถุประสงค์ เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของตัวแปรทางชีวกลศาสตร์ของนักกีฬาว่ายน้ำท่า ฟรอนท์ ครอลที่ระยะต่างๆในระยะทาง 200 เมตร วิธีดำเนินการวิจัย กลุ่มตัวอย่างเป็นนักกีฬาว่ายน้ำท่าฟรอนท์ ครอลทีมชาติไทย เพศชายที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 29 ณ ประเทศมาเลเซีย ปี 2560 จำนวน 7 คน ผู้วิจัยทำการวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของตัวแปรทางชีวกลศาสตร์ โดยใช้ชุดกล้องวิเคราะห์การเคลื่อนไหวบนบกและใต้น้ำรวม 16 ตัวโดยเก็บข้อมูลในอุโมงค์น้ำ คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กลุ่มตัวอย่างทุกคนใส่ชุดว่ายน้ำติดมาร์คเกอร์ และว่ายน้ำท่าฟรอนท์ ครอลระยะ 200 เมตร ในความเร็วที่ 75%ของความเร็วเฉลี่ยที่ว่ายในสระว่ายน้ำ มุมและความเร็วเชิงเส้นของข้อต่อของรยางค์ส่วนบนถูกนำมาวิเคราะห์เปรียบเทียบความแตกต่างที่ระยะต่างๆ 5 ช่วง คือ 15-35 เมตร 65-85 เมตร 115-135 เมตร 65-85 เมตรและ 196-200 เมตร ด้วยการทดสอบทางสถิติวิธี One-way ANOVA ที่ระดับ .05 ผลการวิจัย ค่าเฉลี่ยของมุมข้อต่อและความเร็วของข้อต่อแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อเปรียบเทียบทั้งระยะ 5 ช่วง ผู้วิจัยจำลองวิถีมุมของข้อต่อและความเร็วของข้อต่อด้วยสมการพยากรณ์จากสมการการเคลื่อนที่แบบ Simple Harmonic Motion ซึ่งสามารถพยากรณ์ค่าเฉลี่ยของการเคลื่อนที่ได้ถูกต้องมากกว่า 80% จากสมการพยากรณ์แสดงให้เห็นว่าเวลาที่ใช้ในการเคลื่อนที่ให้ครบรอบเปลี่ยนไปเมื่อระยะว่ายเปลี่ยนแปลงไป สรุปผลการวิจัย การว่ายที่ระยะทางต่างๆส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของมุมและความเร็วของข้อต่อช่วงบน การเปลี่ยนแปลงของมุมการเคลื่อนไหวของแต่ละข้อต่อเทียบกับระยะว่ายที่เพิ่มขึ้นพบว่ารูปแบบการเคลื่อนที่ของข้อต่อเหมือนเดิมแต่เวลาในการเคลื่อนที่ของข้อต่อจะแตกต่างกันไป จากการวิเคราะห์ด้วยสมการพยากรณ์แบบ Simple Harmonic Motion พบว่าเมื่อระยะทางว่ายน้ำเพิ่มขึ้น เวลาการเคลื่อนที่ของข้อต่อในแต่ละสโตรกมากขึ้น แสดงว่ากลุ่มตัวอย่างมีความล้าที่เพิ่มขึ้น