Open Access. Powered by Scholars. Published by Universities.®

Physical Sciences and Mathematics Commons

Open Access. Powered by Scholars. Published by Universities.®

Articles 61 - 90 of 220

Full-Text Articles in Physical Sciences and Mathematics

การเตรียมฟิล์มพอลิเมอร์จากยางธรรมชาติผสมแป้งมันฝรั่ง, นัทรี ฉัตรยาลักษณ์ Jan 2019

การเตรียมฟิล์มพอลิเมอร์จากยางธรรมชาติผสมแป้งมันฝรั่ง, นัทรี ฉัตรยาลักษณ์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยนี้มีจุดประสงค์ที่จะเตรียมแผ่นฟิล์มพอลิเมอร์ผสมจากยางธรรมชาติผสมแป้งมันฝรั่งที่อัตราส่วนต่างๆ กันตั้งแต่ 100/0, 90/10, 80/20, 70/30, 60/40 และ 50/50 โดยการทดลองสามารถแบ่งออกเป็น 3 ส่วน สำหรับ 2 ส่วนแรก จะเป็นแผ่นฟิล์มยางธรรมชาติผสมแป้งมันฝรั่งทั้งที่เติมและไม่เติมกลีเซอรอล โดยส่วนแรกเตรียมได้จากการผสมสารแขวนลอยของน้ำแป้งกับน้ำยางธรรมชาติโดยจะเรียกว่า latex mixing จากนั้นทำให้แห้งแล้วนำไปผสมกับสารเคมียางในเครื่องผสมแบบสองลูกกลิ้ง ในขณะที่ส่วนที่สองยางธรรมชาติจะถูกผสมกับแป้งมันฝรั่งในเครื่องผสมแบบปิด โดยจะเรียกว่า dry mixing จากนั้นนำไปผสมกับสารเคมียางในเครื่องผสมแบบสองลูกกลิ้งต่อไป และในส่วนที่สามจะเป็นการเติมสารคู่ควบไซเลน Si-69 แทนกลีเซอรอล จากนั้นทำการขึ้นรูปตัวอย่างแผ่นฟิล์มเพื่อนำไปทดสอบสมบัติทางกายภาพ เชิงกลและความร้อนด้วยแม่พิมพ์แบบกดอัดที่อุณหภูมิ 155 oC จากการตรวจสอบแผ่นฟิล์มด้วยตาเปล่าจะเห็นได้ว่า แผ่นฟิล์มยางธรรมชาติผสมแป้งมันฝรั่งที่เตรียมได้จากเทคนิกการผสมแบบ dry mixing เกิดการแยกเฟสระหว่างยางธรรมชาติและแป้งมันฝรั่งน้อยกว่าที่เตรียมได้จากเทคนิกการผสมแบบ latex mixing นอกจากนี้ยังพบว่าการเติมกลีเซอรอลช่วยลดการเกาะกลุ่มกันของแป้งมันฝรั่งได้ จากการทดสอบการบวมตัวในน้ำพบว่า การเติมแป้งมันฝรั่งทำให้แผ่นฟิล์มยางธรรมชาติผสมแป้งมันฝรั่งดูดซับน้ำได้และปริมาณการดูดซับน้ำเพิ่มขึ้นตามปริมาณแป้งที่เติม โดยที่อัตราส่วนยางธรรมชาติต่อแป้งมันฝรั่งเดียวกัน แผ่นฟิล์มยางธรรมชาติผสมแป้งมันฝรั่งที่เตรียมได้จากเทคนิกการผสมแบบ latex mixing มีการดูดซับน้ำได้สูงกว่าแผ่นฟิล์มยางธรรมชาติผสมแป้งมันฝรั่งเตรียมได้จากเทคนิกการผสมแบบ dry mixing และการดูดซับน้ำเพิ่มขึ้นเมื่อมีการเติมกลีเซอรอล เมื่อทำการทดสอบสมบัติเชิงกล พบว่าการเติมแป้งมันฝรั่งทำให้แผ่นฟิล์มมีสมบัติเชิงกลลดลง ยิ่งเติมมากก็ยิ่งลดลงมาก แผ่นฟิล์มยางธรรมชาติผสมแป้งมันฝรั่งที่เตรียมได้จากเทคนิกการผสมแบบ dry mixing มีความทนต่อแรงดึงและความต้านทานต่อการฉีกขาดสูงกว่าแผ่นฟิล์มยางธรรมชาติผสมแป้งมันฝรั่งที่เตรียมได้จากเทคนิกการผสมแบบ latex mixing แต่ให้ความแข็งที่ต่ำกว่า การเติมกลีเซอรอลช่วยเพิ่มความทนต่อแรงดึงและความต้านทานต่อการฉีกขาดแต่ลดความแข็งของแผ่นฟิล์ม สำหรับการสลายตัวทางความร้อนพบว่า การเติมแป้งมันฝรั่งลงในแผ่นฟิล์มยางธรรมชาติทั้งที่เติมและไม่เติม กลีเซอรอลจากเทคนิกการเตรียมทั้ง 2 แบบ ส่งผลให้ยางธรรมชาติซึ่งเป็นเฟสหลักมีแนวโน้มที่จะสลายตัวที่อุณหภูมิที่สูงขึ้น เมื่อเติมสารคู่ควบไซเลน Si-69 แทนการเติมกลีเซอรอล พบว่าแผ่นฟิล์มยางธรรมชาติผสมแป้งมันฝรั่งที่ได้มีความสามารถในการดูดซับน้ำและความทนต่อแรงดึงที่ดียิ่งขึ้น แต่ความต้านทานต่อการฉีกขาดกลับมีค่าต่ำที่สุด


การกำจัดโมโนกลีเซอไรด์ชนิดอิ่มตัวในไบโอดีเซลด้วยการดูดซับและผลต่อสมบัติที่อุณหภูมิต่ำของน้ำมันไบโอดีเซลผสม, พีระภักดิ์ ศรีขวัญใจ Jan 2019

การกำจัดโมโนกลีเซอไรด์ชนิดอิ่มตัวในไบโอดีเซลด้วยการดูดซับและผลต่อสมบัติที่อุณหภูมิต่ำของน้ำมันไบโอดีเซลผสม, พีระภักดิ์ ศรีขวัญใจ

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

โมโนกลีเซอไรด์ชนิดอิ่มตัว (Saturated monoglyceride; SMG) คือสาเหตุหลักของการเกิดตะกอนเหนือจุดขุ่นในไบโอดีเซล (B100) ซึ่งนำไปสู่ปัญหาการอุดตันไส้กรองในเครื่องยนต์ดีเซล ในงานวิจัยนี้ทำการศึกษาผลกระทบของ SMG ใน B100 ช่วงความเข้มข้น 0.0-0.7 wt% ที่มีต่อจุดขุ่นในไบโอดีเซลผสม B7, B10 และ B20 ที่ใช้น้ำมันดีเซลมาตรฐานยูโร4 และ ยูโร5 ที่มีความเข้มข้นของแอโรแมติกสูงและต่ำตามลำดับ พบว่า SMG มีผลต่อจุดขุ่นในไบโอดีเซลผสมมาตรฐานยูโร5 มากกว่า การเพิ่มความเข้มข้นของ SMG ที่ช่วงความเข้มข้นต่ำในไบโอดีเซลผสมจะทำให้ค่าจุดขุ่นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ การกำจัด SMG ใน B100 ด้วยการดูดซับโดยใช้ตัวดูดซับซีโอไลต์ธรรมชาติที่มีราคาถูกกว่าตัวดูดซับทางการค้า Magnesium silicate (MS) และ Silica gel พบว่าประสิทธิภาพการดูดซับของตัวดูดซับ MS ดีกว่าตัวดูดซับซีโอไลต์ธรรมชาติในการกำจัด SMG ใน B100 ที่อุณหภูมิ 45 oC เมื่อพัฒนาความจุในการดูดซับ SMG ของซีโอไลต์ธรรมชาติ NZ-325m โดยการบำบัดด้วยกรดไนตริก 1 M ที่อุณหภูมิ 60 oC เป็นเวลา 6 ชั่วโมง ทำให้พื้นที่ผิวจำเพาะของตัวดูดซับเพิ่มขึ้นเป็น 141.85 m2/g และยังเพิ่มปริมาณ SiO2 ที่วิเคราะห์จากเทคนิค X-ray fluorescence spectroscopy เนื่องจากผลกระทบจากการกำจัดอะลูมิเนียมในโครงสร้าง นอกจากนี้ยังพบว่าความจุการดูดซับ SMG มีค่าเท่ากับ 38.0 mgSMG/gads ในขณะที่สามารถลดปริมาณ SMG ใน B100 จาก 0.7 wt% เป็น 0.5 wt% เมื่อใช้ตัวดูดซับ 5 wt% ที่สภาวะการดูดซับ 45 oC เป็นเวลา 50 นาที ผลที่ตามมาหลังจากนำไปผสมเป็น B7 พบว่าจุดขุ่นลดลงอย่างมีนัยสำคัญ


การสร้างแบบจำลองเชิงรูปนัยของเครือข่ายแถวคอยแบบหลายหน่วยบริการ โดยใช้สโตแคสติกเพทริเน็ตส์, พิมพร บุญอินทร์ Jan 2019

การสร้างแบบจำลองเชิงรูปนัยของเครือข่ายแถวคอยแบบหลายหน่วยบริการ โดยใช้สโตแคสติกเพทริเน็ตส์, พิมพร บุญอินทร์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ระบบเครือข่ายแถวคอยเชิงรูปนัยครอบคลุมแบบจำลองระดับสูง เพื่อช่วยในการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของความพร้อมใช้งานของลูกค้าที่เข้ามารับบริการ และทรัพยากรที่ให้บริการ ผู้ออกแบบกระบวนการทางธุรกิจสามารถปรับการสร้างเครือข่ายแถวคอยเพื่อรับมือกับข้อจำกัดด้านเวลาในลักษณะแบบสุ่ม ผู้วิจัยตั้งเป้าหมายที่จะจัดทำสโตแคสติกแถวคอยเชิงรูปนัยแบบหลายหน่วยบริการในวิทยานิพนธ์นี้ เพื่อรองรับระบบเครือข่ายแถวคอยที่ซับซ้อนแบบหลายหน่วยบริการ พฤติกรรมการให้บริการแบบสุ่มจะถูกพิจารณาและแปลงเป็นสโตแคสติกเพทริเน็ตส์ ชุดของกฎการจับคู่ถูกกำหนดเพื่อแปลงเครือข่ายแถวคอยแบบหลายหน่วยบริการเป็นสโตแคสติกเพทริเน็ตส์ อีกทั้งผู้วิจัยได้สาธิตการสร้างกราฟมาร์คอฟพร้อมการแจกแจงความน่าจะเป็นของเครือข่ายแถวคอย


เครื่องมือประเมินความสามารถในการใช้งานเชิงฮิวริสติกสำหรับแอปพลิเคชันแอนดรอยด์เพื่อเด็กอายุ 6 – 12 ปี, ณัฏฐิกา ศรีเกียรติวงศ์ Jan 2019

เครื่องมือประเมินความสามารถในการใช้งานเชิงฮิวริสติกสำหรับแอปพลิเคชันแอนดรอยด์เพื่อเด็กอายุ 6 – 12 ปี, ณัฏฐิกา ศรีเกียรติวงศ์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การออกแบบโมไบล์แอปพลิเคชันสำหรับเด็กนั้นมีความแตกต่างจากการออกแบบโมไบล์แอปพลิเคชันสำหรับผู้ใช้งานที่เป็นผู้ใหญ่เนื่องจากเด็กมีพฤติกรรมและพัฒนาการที่ต่างกับผู้ใหญ่ และยังต้องคำนึงถึงประสบการณ์ของผู้ใช้และความสามารถในการใช้งานอีกด้วย การประเมินเชิงฮิวริสติกเป็นวิธีการประเมินความสามารถในการใช้งานส่วนต่อประสานกับผู้ใช้ที่ได้รับความนิยม โดยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านความสามารถในการใช้งานทำการเปรียบเทียบการออกแบบส่วนต่อประสานกับผู้ใช้กับแนวทางการออกแบบหรือฮิวริสติกว่ามีความขัดแย้งกับแนวทางการออกแบบแต่ละข้อหรือไม่ แต่เนื่องจากแนวทางการออกแบบมีเป็นจำนวนมากจึงทำให้เป็นภาระในการประเมิน ทำให้บ่อยครั้งเกิดการตรวจพบข้อผิดพลาดได้ไม่ครบถ้วน จึงทำให้การประเมินเชิงฮิวริสติกมีประสิทธิภาพไม่ดีนัก งานวิจัยนี้ได้ทำการรวบรวมและปรับปรุงแนวทางการออกแบบความสามารถในการใช้งานเชิงฮิวริสติกสำหรับโมไบล์แอปพลิเคชันเพื่อเด็กอายุ 6–12 ปี มาจากหลายแหล่ง แล้วนำไปประเมินความเหมาะสมโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบส่วนต่อประสานกับผู้ใช้สำหรับโมไบล์แอปพลิเคชัน แนวทางการออกแบบที่ได้จะแบ่งออกเป็น 12 หมวด รวมทั้งหมด 94 รายการ จากนั้นได้ทำการพัฒนาเครื่องมือประเมินความสามารถในการใช้งาน ซึ่งสามารถประเมินจากรหัสต้นฉบับของแอปพลิเคชันแอนดรอยด์ตามแนวทางการออกแบบเฉพาะในส่วนที่สามารถตรวจสอบได้อย่างอัตโนมัติจำนวน 25 รายการ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของผู้ประเมินในการประเมินความสามารถในการใช้งานส่วนต่อประสานกับผู้ใช้ จากการทดสอบการประเมินความสามารถในการใช้งานของ 5 แอปพลิเคชันสำหรับเด็กบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ตามรายการประเมิน 25 รายการที่สามารถตรวจสอบได้อย่างอัตโนมัติพบว่า เครื่องมือสามารถตรวจหาข้อผิดพลาดในการออกแบบที่ผู้ประเมินทั้งที่เป็นผู้มีประสบการณ์ด้านการออกแบบส่วนต่อประสานกับผู้ใช้และที่เป็นนักพัฒนาแอปพลิเคชันไม่สามารถตรวจพบได้ ในขณะที่เครื่องมือเองยังมีข้อจำกัดที่ทำให้ตรวจไม่พบข้อผิดพลาดที่ผู้ประเมินตรวจพบได้เช่นกัน ถึงอย่างนั้นก็ตามค่าเฉลี่ยของจำนวนจุดที่พบข้อผิดพลาดในการออกแบบเมื่อประเมินด้วยเครื่องมือมีค่ามากกว่าค่าเฉลี่ยของผู้ประเมินทั้งสองกลุ่มที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 และจากการทดสอบประสิทธิภาพด้านเวลายังพบว่า เครื่องมือสามารถช่วยลดเวลาในการประเมินได้อีกด้วย


การทำนายยอดการดูวิดีโอโดยใช้การแบ่งกลุ่มยอดการดูวิดีโอและแบบจำลองเชิงเส้นหลายตัวแปร, เอกพล วงศ์ศุภรัตน์กุล Jan 2019

การทำนายยอดการดูวิดีโอโดยใช้การแบ่งกลุ่มยอดการดูวิดีโอและแบบจำลองเชิงเส้นหลายตัวแปร, เอกพล วงศ์ศุภรัตน์กุล

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ในงานวิจัยนี้ เราตั้งเป้าหมายในการออกแบบแบบจำลองที่ทำนายยอดการดูระยะสั้นของวิดีโอบนยูทูบ เราเสนอแบบจำลองเอฟ7เอ็นเอ็มแอลซึ่งเป็นแบบจำลองที่สามารถจัดกลุ่มรูปแบบยอดการดูวิดีโอและกำจัดรูปแบบที่ผิดปกติ แบบจำลองนี้ประกอบด้วย 4 อย่าง อย่างแรกคือการจัดกลุ่มรูปแบบโดยใช้แบบจำลองการจัดกลุ่ม จากนั้นกลุ่มที่มีจำนวนน้อยซึ่งถูกกำหนดเป็นรูปแบบที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยจะถูกกำจัดออกไป ต่อมาจัดกลุ่มรูปแบบวิดีโอจากชุดข้อมูลทดสอบโดยใช้แบบจำลองเพื่อนบ้านใกล้เคียงที่สุด 1 อันดับ อย่างสุดท้ายคือรูปแบบแต่ละกลุ่มจะกลายเป็นชุดข้อมูลสำหรับแบบจำลองเชิงเส้นหลายตัวแปรซึ่งนำไปใช้ฝึกฝนเฉพาะกลุ่ม ผลการทดลองพบว่าแบบจำลองเอฟ7เอ็นเอ็มแอลที่ใช้แบบจำลองการจัดกลุ่มที่เหมาะสมทำให้ค่าความผิดพลาดจากการทำนายยอดการดูในวันที่ 30 ลดลง 27% จากแบบจำลองที่ดีที่สุดที่นำมาเปรียบเทียบจากงานวิจัยอื่น


กลยุทธ์การตัดบนโยโลวีสามสำหรับการตรวจจับวัตถุแบบทันกาล, ณัฐนนท์ กฤตยานวัช Jan 2019

กลยุทธ์การตัดบนโยโลวีสามสำหรับการตรวจจับวัตถุแบบทันกาล, ณัฐนนท์ กฤตยานวัช

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ในงานตรวจจับวัตถุ แบบจำลอง YOLOv3 จัดว่าเป็นแบบจำลองที่มีประสิทธิภาพดีในด้านความแม่นยำ แต่ทว่าด้วยจำนวนตัวแปรในแบบจำลองที่มีมากกว่าสิบล้านตัวแปร ส่งผลให้ตัวแบบจำลองไม่เหมาะสมที่จะนำไปใช้งานบนกล้องหรืออุปกรณ์ขนาดเล็ก โดยงานวิจัยชิ้นนี้นำเสนอกลไกการบีบอัดแบบจำลองที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับแบบจำลอง YOLOv3 เพื่อตัดตัวกรองที่ไม่จำเป็นออกจากตัวแบบจำลอง แต่เนื่องจากแบบจำลอง YOLOv3 นั้นประกอบไปด้วยองค์ประกอบ 2 ส่วน คือ โครงข่ายกระดูกสันหลัง และโครงข่ายพีระมิดฟีเจอร์ งานวิจัยชิ้นนี้จึงนำเสนอกลยุทธ์ 3 อย่างดังต่อไปนี้ 1) การตัดแบบแยกส่วน 2) การจำกัดการตัด และ 3) เกณฑ์การหยุด หลังจากนั้นจึงนำกลยุทธ์ทั้ง 3 อย่างมารวมกันเป็นกลไกการตัดแบบทนทานเพื่อตัดแบบจำลองแบบแยกส่วนกัน ด้วยวิธีการนี้ สามารถช่วยป้องกันการตัดส่วนใดส่วนหนึ่งของแบบจำลองมากเกินไป ส่งผลให้แบบจำลองมีเสถียรภาพมากขึ้น


วิธีการสำหรับการสร้างหุ่นยนต์สนทนาไทยโดยใช้หน่วยความจำระยะสั้นแบบยาวแบบสยามและการแต่งเติมข้อมูลเชิงข้อความ, ธนัญญา พีรพัฒนาการ Jan 2019

วิธีการสำหรับการสร้างหุ่นยนต์สนทนาไทยโดยใช้หน่วยความจำระยะสั้นแบบยาวแบบสยามและการแต่งเติมข้อมูลเชิงข้อความ, ธนัญญา พีรพัฒนาการ

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

แนวคิดการนำหุ่นยนต์สนทนามาช่วยในการตอบคำถามปัญหาที่พบบ่อยให้กับผู้รับบริการ เช่น การสอบถามข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับผู้ให้บริการ เป็นต้น เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นในยุคปัจจุบัน อีกทั้งในการเรียนรู้ของเครื่องสำหรับสร้างหุ่นยนต์สนทนานั้น ชุดข้อมูลที่ใช้สำหรับการเรียนรู้ของแบบจำลอง ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้แบบจำลองให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในงานวิจัยนี้ได้รับการสนับสนุนข้อมูลจากการไฟฟ้านครหลวงแห่งประเทศไทยที่ได้รวบรวมข้อมูลการให้บริการการตอบปัญหาลูกค้าผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยจำนวนของชุดคำถามที่ได้นั้นมีปริมาณน้อยกว่า 1,500 คำถาม ทำให้จำนวนและความหลากหลายของข้อมูลที่มีนั้นส่งผลกับการเรียนรู้ของเครื่องโดยตรง งานวิจัยนี้จึงนำเสนอแนวคิดในการแต่งเติมข้อมูลด้วยวิธีการแทนที่คำด้วยคำที่มีความหมายคล้ายกันด้วยการวัดระยะห่างระหว่างเวกเตอร์น้อยที่สุดเมื่อเทียบกับคำที่ต้องการจะนำไปแทนที่ในประโยคเดิม เพื่อเพิ่มจำนวนและความหลากหลายของข้อมูล จากนั้นจึงนำชุดข้อมูลที่ได้ไปประยุกต์ใช้กับแบบจำลองหน่วยความจำระยะสั้นแบบยาว (Long Short-Term Memory: LSTM) ที่ใช้ร่วมกับการหาระยะทางร่วมกับการทดลองหาระยะทางของเวกเตอร์ทั้ง 3 แบบ ได้แก่ การหาระยะทางแบบยุคลิด (Euclidean Distance) การหาระยะทางแบบแมนฮัตตัน (Manhattan Distance) และ การหาค่าความคล้ายโคไซน์ (Cosine Similarity) เพื่อนำไปใช้ในการค้นคืนคำตอบของคำถามที่ได้รับมาจากผู้ใช้งาน ซึ่งผลการทดลองแสดงให้เห็นว่าชุดข้อมูลที่ปรับปรุงด้วยวิธีการแต่งเติมข้อมูลเชิงข้อความที่นำเสนอนั้นสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของแบบจำลองได้ดีกว่าชุดข้อมูลตั้งต้น


การจำแนกเพศจากชื่อผู้ใช้งานภาษาไทยบนเฟซบุ๊ก, สุพิชชา ยืนยงค์ Jan 2019

การจำแนกเพศจากชื่อผู้ใช้งานภาษาไทยบนเฟซบุ๊ก, สุพิชชา ยืนยงค์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

วิทยานิพนธ์นี้นำเสนอการนำการเรียนรู้ของเครื่องมาประยุกต์ในการจำแนกเพศผู้ใช้งานเฟซบุ๊กโดยใช้เพียงชื่อผู้ใช้งานเท่านั้น ซึ่งข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานของโซเชียลเนตเวิร์คมีความสำคัญในการนำมาวิเคราะห์ แต่บางครั้งไม่มีการเปิดเผยข้อมูล เช่น อายุ หรือเพศ โดยการศึกษาส่วนใหญ่มักจะนำเอาข้อความบนเว็บเพจมาวิเคราะห์ แต่การศึกษานี้เลือกใช้ชื่อผู้ใช้งานในการจำแนกเพศ โดยเพศสามารถอนุมานได้จากทั้งชื่อจริงและชื่อแฝงของผู้ใช้งาน โดยงานวิจัยนี้สนใจเฉพาะชื่อที่เป็นภาษาไทย ซึ่งชื่อของคนไทยจะมีรูปแบบที่สามารถแสดงตัวตนความเป็นเพศได้ การรวมกันของแบบจำลองสำหรับการจำแนกเพศจากชื่อผู้ใช้งานภาษาไทยบนเฟซบุ๊กที่แตกต่างกัน ในแต่ละแบบจำลองมีการเรียนรู้โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบจำลองเชิงทำนาย ได้แก่ การจำแนกเพศจากชื่อจริง การจำแนกเพศจากชื่อแฝง การจำแนกชื่อจริงและชื่อแฝง และการจำแนกชื่อทั้งหมด โดยผลการจำแนกทั้งหมดจะถูกรวมในแบบจำลองสุดท้าย เมื่อใช้วิธีนี้แบบจำลองมีความถูกต้องที่ 85.85% ซึ่งได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการจำแนกเพศโดยคน ที่มีความถูกต้องที่ 77.03%


พอลิอะนิลีน/เหล็กออกไซด์/รีดิวซ์แกรฟีนออกไซด์เจือไนโตรเจนคอมพอสิตเพื่อเป็นขั้วไฟฟ้าตัวเก็บประจุยิ่งยวด, กัณจน์ชญาน์ ทุ่งส่วย Jan 2019

พอลิอะนิลีน/เหล็กออกไซด์/รีดิวซ์แกรฟีนออกไซด์เจือไนโตรเจนคอมพอสิตเพื่อเป็นขั้วไฟฟ้าตัวเก็บประจุยิ่งยวด, กัณจน์ชญาน์ ทุ่งส่วย

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ในงานวิจัยนี้เป็นการพัฒนาขั้วประจุไฟฟ้ายิ่งยวดจากวัสดุเหล็กออกไซด์/ไนโตรเจนเจือรีดิวซ์ แกรฟีนออกไซด์/พอลิอะนิลีน โดยมีการใช้สารสกัดเซริซินจากกระบวนการลอกกาวไหมเป็นแหล่งไนโตรเจนอะตอมในการเจือ ซึ่งจากกระบวนการเตรียมไนโตรเจนเจือรีดิวซ์แกรฟีนออกไซด์ด้วยกระบวนการรีฟลักซ์และรีดิวซ์ด้วยกรดวิตามินซี พบว่าสามารถเจือไนโตรเจนถึง 11.68% ในโครงสร้างของไนโตรเจนเจือรีดิวซ์แกรฟีนออกไซด์ที่สังเคราะห์ได้ วัสดุขั้วไฟฟ้าเหล็กออกไซด์/ไนโตรเจนเจือรีดิวซ์แกรฟีนออกไซด์/พอลิอะนิลีนคอมพอสิตที่ได้จากการพอกพูนทางไฟฟ้าเคมีแสดงลักษณะสัณฐานวิทยาของนาโนไฟบริลพอลิอะนิลีนร่วมกับโครงสร้างแผ่นไนโตรเจนเจือรีดิวซ์แกรฟีนออกไซด์ และถูกยืนยันองค์ประกอบต่าง ๆ ด้วยเทคนิคการวัดการกระจายพลังงานของรังสีเอกซ์ ฟูเรียร์ทรานส์ฟอร์มอินฟราเรดสเปกโตรสโคปี และการเลี้ยวเบนของรังสีเอกซ์ เมื่อนำขั้วไฟฟ้าที่เตรียมได้จากวัสดุไนโตรเจนเจือรีดิวซ์วัสดุพอลิอะนิลีน แกรฟีนออกไซด์/พอลิอะนิลีน และเหล็กออกไซด์/ไนโตรเจนเจือรีดิวซ์แกรฟีนออกไซด์/พอลิอะนิลีนคอมพอสิตมาประเมินความประสิทธิภาพในการกักเก็บพลังงาน พบว่าให้ค่าเก็บประจุที่ 151.76, 190 และ221 ฟารัดต่อกรัมที่ 1 แอมป์ต่อกรัมตามลำดับ บ่งชี้ถึงประสิทธิภาพในการกักเก็ลพลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นเมื่อมีการเติมไนโตรเจนเจือรีดิวซ์แกรฟีนออกไซด์ และเหล็กออกไซด์ นอกจากนี้ขั้วเหล็กออกไซด์/ไนโตรเจนเจือรีดิวซ์แกรฟีนออกไซด์/พอลิอะนิลีนคอมพอสิตยังสามารถแสดงเสถียรภาพของประสิทธิภาพต่อรอบการใช้งานทางไฟฟ้าได้สูงถึงร้อยละ 79 หลังการใช้งาน 5000 รอบ ซึ่งจากผลการทดลองบ่งชี้ให้เห็นขั้วไฟฟ้าเหล็กออกไซด์/ไนโตรเจนเจือรีดิวซ์แกรฟีนออกไซด์/พอลิอะนิลีนคอมพอสิตมีความเหมาะสมในการนำไปประยุกต์ใช้ในขัอุปกรณ์กักเก็บพลังงานชนิดตัวเก็บประจุยิ่งยวดประสิทธิภาพสูง


Machine Reading Comprehension For Multiclass Questions On Thai Corpus, Theerit Lapchaicharoenkit Jan 2019

Machine Reading Comprehension For Multiclass Questions On Thai Corpus, Theerit Lapchaicharoenkit

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Previous Thai question answering and machine reading comprehension researches focus on small scale dataset and do not utilize the deep learning approach to build the models. In this research, we develop a Thai machine reading comprehension (MRC) model on Thai MRC dataset provided by NECTEC. This dataset consists of 17,000 question-answer pairs and has two classes of questions, which are factoid and yes-no questions. We use BIDAF as the based MRC architecture. We have performed experiments with 3 different multiclass model designs, which includes special tokens, joint, and cascade model. We also utilize contextual embeddings for Thai language to enhance …


Determining The Effective Authentication Factors Using Touchscreen Phones' Random Numeric Keypad, Nareerat Benjapatanamongkol Jan 2019

Determining The Effective Authentication Factors Using Touchscreen Phones' Random Numeric Keypad, Nareerat Benjapatanamongkol

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

For the past decade, the increased usage of touchscreen phone devices has driven the mobile application market that prompted the financial institutes to release their own mobile banking applications to better serve their customers. To date, there are two ways a Thai bank customer can access his/her account(s) via the mobile banking application i) using a 6-digit Personal Identification Number (PIN) or ii) using fingerprint. To help to strengthen the current PIN-only authentication which may be exposed to smudge and shoulder-surfing attacks, the research studied and determined the effective authentication factors using a random numeric keypad. The results from the …


Oxidation States Of Trace Elements In Synthetic Corundum, Ontima Yamchuti Jan 2019

Oxidation States Of Trace Elements In Synthetic Corundum, Ontima Yamchuti

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Natural and synthetic corundums have various colors due to trace elements in their structures. Despite the abundance of research on impurities in natural corundum, little is known about trace elements in synthetic corundum. This project is aimed to quantify trace elements and identify their oxidation states related to coloration in red, blue, and yellow synthetic corundums. A total of 15 corundums, synthesized by melt growth process, were investigated by advanced analytical techniques. X-ray diffraction results indicate that all synthetic corundums contain crystalline Al2O3. Measurements from Electron Probe Micro-Analyzer, UV-Vis-NIR, and X-ray Absorption Near Edge Structure spectrometry suggest that Cr3+ is …


Purchasing Behavior Of Led Lightbulbs Of Thai Consumers, Nuttakrij Apipuchayakul Jan 2019

Purchasing Behavior Of Led Lightbulbs Of Thai Consumers, Nuttakrij Apipuchayakul

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Electricity use in residential sectors has become one of major demands for global energy production and consumption.One of today’s most energy-efficient lighting products is a Light-Emitting Diode (LED) lighting technology. The efficiency of LED lighting technology has already surpassed all other forms of lighting products such as traditional incandescent and Compact Fluorescent Lamp (CFL). Replacement with highly efficient lighting appliances like LED products could generate more than 10-15 billion USD of national energy-savings a year, or save up to 801 Mt of CO2 emissions annually. Even though LED technology have been introduced in the lighting market since 2014 coupled with …


Suid Fossils And Sedimentology From The Chaloem Phra Kiat And Phimai Sandpits, Nakhon Ratchasima Province, Thunchanok Kawinate Jan 2019

Suid Fossils And Sedimentology From The Chaloem Phra Kiat And Phimai Sandpits, Nakhon Ratchasima Province, Thunchanok Kawinate

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

The suid fossils were recorded in fluvial sediments at the Chaloem Phra Kiat and Phimai Districts, Nakhon Ratchasima Province. In this study, numerous suid fossils were identified systematically by the measurement and description in detail of the external morphology of teeth, and comparison with other related species. Sedimentary facies and facies association from stratigraphy of fluvial depositional environment from sandpits have also been studied. As a result, sediments from Chaloem Phra Kiat and Phimai sandpits comprise very fine to coarse-grained sand with dominate sedimentary structures of the fluvial deposits. The cumulative stratigraphical thickness of the studied successions was 12-15 m. …


Reconstruction Of Sea Level Fluctuation And Environmental Change In Khao Sam Roi Yot National Park, Changwat Prachuap Khiri Khan During The Late Holocene, Worakamon Nudnara Jan 2019

Reconstruction Of Sea Level Fluctuation And Environmental Change In Khao Sam Roi Yot National Park, Changwat Prachuap Khiri Khan During The Late Holocene, Worakamon Nudnara

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

The Gulf of Thailand is generally provided the efficiency evidences of sea level fluctuation according to the lack of tectonic events. Sam Ro Yot National Park (SRY) is located in the west coast of the Gulf of Thailand with its elevation approximately at sea level. Sedimentary sequences from SRY wetland has been obtained. This sedimentary sequence can be divided into 3 units, comprised dark grey silty to sandy clay of unit A, beige clay of unit B, and gyttja sediment of unit C. An intensive analysis was focused on core CP-4 because it is the longest core and compose of …


Numerical Methods For Jump-Extended Cox-Ingersoll-Ross And Constant Elasticity Of Variance Models, Purin Klunklar Jan 2019

Numerical Methods For Jump-Extended Cox-Ingersoll-Ross And Constant Elasticity Of Variance Models, Purin Klunklar

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

The jump-extended Cox-Ingersoll-Ross and jump-extended constant elasticity of variance models are stochastic differential equations (SDEs) used to forecast interest rates or stock prices. We simulate these SDEs directly by eight numerical methods: Euler Maruyama method, simplified Euler method, jump-adapted Euler method, jumpadapted simplified Euler method, jump-adapted order two weak method, jump-adapted simplified order two weak method, jump-adapted order two derivative free method and jump-adapted simplified order two derivative free method. The transformed approach is also applied with these eight numerical methods. We compare their performance by testing the positivity preserving of numerical solutions and finding their weak orders of convergence …


Solving Interval-Valued Returns Mean Absolute Deviation Portfolio Selection Model Under Basis Stability, Songkomkrit Chaiyakan Jan 2019

Solving Interval-Valued Returns Mean Absolute Deviation Portfolio Selection Model Under Basis Stability, Songkomkrit Chaiyakan

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

This work discusses a portfolio selection model with interval linear programming arising from the uncertainty of future rates of return and the disagreement over their estimates. The risk of the overall portfolio is proposed as an objective function to obtain a well-diversified portfolio with a certain threshold rate of return. The optimization problem employs mean absolute deviation as a risk measure for the sake of risk diversification and time complexity. The possible ranges of optimal portfolio returns and associated risks are derived. The duality theory contributes to an enclosure of the optimal portfolios. When the bounds on future rates of …


Covers For Leo Moser's Worm Problem, Thitipong Kanchai Jan 2019

Covers For Leo Moser's Worm Problem, Thitipong Kanchai

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Leo Moser’s worm problem was posted in 1966 stating that “What is the region of the smallest area that can cover every unit are?”. In 2018, N. Ploymaklam and W. Wichiramala illustrated a new cover, which is currently smallest. Their cover was adapted from the cover of R. Norwood and G. Poole. In this work, we modify the region from the work of R. Norwood and G. Poole and the work of N. Ploymaklam and W. Wichiramala. Our regions are modified by changing their upper boundary. However, the regions remain satisfying properties in the work of R. Norwood and G. …


Effects Of Synthetic Glyceryl Ester Additives On Cold Flow Properties Of Diesel Oil, Ruchapong Kaweewut Jan 2019

Effects Of Synthetic Glyceryl Ester Additives On Cold Flow Properties Of Diesel Oil, Ruchapong Kaweewut

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

The synthesis of solketal derivatives with some selected fatty acid (stearic acid, palmitic acid, lauric acid, myristic acid, oleic acid and linolenic acid) to glyceryl esters was conducted. All compounds were characterized by spectroscopic means. Cold flow properties of diesel oil with these glyceryl ester additives were studied in terms of pour point (PP). Glyceryl laurate was the most effective pour point decreasing at 1,000 mg/kg (DPP = 3°C). However, the blended diesel of 1,000 mg/kg glyceryl laurate could not commercialize finishing product because that was hazy diesel at room temperature. The combination of glyceryl laurate and commercial additive was …


Curling Probe Measurement In Plasma, Chatchai Sirithipvanich Jan 2019

Curling Probe Measurement In Plasma, Chatchai Sirithipvanich

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

The curling probe is one of the active resonance absorption spectroscopic methods, the methods utilized the probe reflection coefficient spectrum to determine the plasma density. The proposed model of the curling probe uses the deviation of the most matched frequency, the frequency in which the minimum reflection coefficient occurs, when the probe is submerged in different mediums. The probe structure is simple and claimed to be robust and efficient. The experiments of a curling probe were performed and the simulations for the probe reflection coefficient for both previously reported probe and the constructed probe configuration have been conducted. The previously …


Structural Phase Transitions And Electronic Properties Of Li2o2 And Na2o2 Under High Pressure For Co2 Capture Application, Pornmongkol Jimlim Jan 2019

Structural Phase Transitions And Electronic Properties Of Li2o2 And Na2o2 Under High Pressure For Co2 Capture Application, Pornmongkol Jimlim

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Since pressure induces exotic chemical and physical properties of materials, investigation of the high-pressure effect on structural phase transition and the related properties is paramount. Structural phase transitions and electronic properties of Li2O2 and Na2O2 under high pressure were investigated using first-principles calculations based on the density functional theory. Structural phase transitions of Li2O2 up to 500 GPa were predicted at ~75 GPa from the P63/mmc to the P21 structures and at ~136 GPa from the P21 to the P21/c structures. The calculated band gaps of all phases increase with elevated pressure. At 11 and 40 GPa, the band gaps …


Charged Fermion In Two-Dimensional Wormhole With Axial Magnetic Field, Trithos Rojjanason Jan 2019

Charged Fermion In Two-Dimensional Wormhole With Axial Magnetic Field, Trithos Rojjanason

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

We investigate the effects of magnetic field on a charged fermion in a (1+2)-dimensional wormhole. Applying external magnetic field along the axis direction of the wormhole, the Dirac equation is set up and analytically solved in two scenarios, constant magnetic flux and constant magnetic field through the throat of the wormhole. For the constant magnetic flux scenario, the system can be solved analytically and exact solutions are found. For the constant magnetic field scenario, with the short wormhole approximation, the quantized energies and eigenstates are obtained. The system exhibits both the spin-orbit coupling and the Landau quantization for the stationary …


การเตรียมพีเอ็มเอ็มเอ-ซิลิกานาโนคอมพอสิตผ่านราฟต์อิมัลชันพอลิเมอไรเซชันและไฮบริดเมมเบรนสำหรับเพอร์แวพอเรชัน, เกื้อชนม์ ศรีสัมฤทธิ์ Jan 2019

การเตรียมพีเอ็มเอ็มเอ-ซิลิกานาโนคอมพอสิตผ่านราฟต์อิมัลชันพอลิเมอไรเซชันและไฮบริดเมมเบรนสำหรับเพอร์แวพอเรชัน, เกื้อชนม์ ศรีสัมฤทธิ์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

พีเอ็มเอ็มเอ-ซิลิกานาโนคอมพอสิตอิมัลชันถูกสังเคราะห์ผ่านราฟต์อิมัลชันพอลิเมอไรเซชันควบคู่กับเทคนิคดิฟเฟอเรนเชียลไมโครอิมัลชันพอลิเมอไรเซชัน งานวิจัยนี้ศึกษาผลของความเข้มข้นของสารมาโคร-ราฟต์ และปริมาณอนุภาคซิลิกา ต่อร้อยละการเปลี่ยนมอนอเมอร์ ขนาดอนุภาคเฉลี่ย และประสิทธิภาพการห่อหุ้มซิลิกา พบว่า พีเอ็มเอ็มเอ-ซิลิกา นาโนคอมพอสิตมีค่าร้อยละการเปลี่ยนมอนอเมอร์ที่สูง ขนาดอนุภาคเฉลี่ยมีค่า 57.6 นาโนเมตร ที่ภาวะการเติมอนุภาคซิลิการ้อยละ 10 โดยน้ำหนักของมอนอเมอร์ ภาพจากกล้องจุลทรรศน์ อิเล็กตรอนแบบส่องผ่าน แสดงลักษณะทางสัณฐานวิทยาของพีเอ็มเอ็มเอ-ซิลิกานาโนคอมพอสิตแสดง โครงสร้างอนุภาคแกน-เปลือกระดับนาโน จากนั้นเตรียมยางธรรมชาติ/พีเอ็มเอ็มเอ- ซิลิกาไฮบริดเมมเบรนด้วยวิธีผสมโดยตรง ผลที่ได้แสดงให้เห็นความสามารถ ในการพัฒนาสมบัติเชิงกลและสมบัติเชิงความร้อนของพีเอ็มเอ็มเอ-ซิลิกา นาโนคอมพอสิตในไฮบริดเมมเบรน และมากไปกว่านั้นการประยุกต์ใช้ไฮบริด เมมเบรนในกระบวนการเพอร์แวพอเรชัน อนุภาคพีเอ็มเอ็มเอ-ซิลิกานาโนคอมพอสิต สามารถเพิ่มค่าการซึมผ่านของน้ำและประสิทธิภาพการแยกใน ยางธรรมชาติ/พีเอ็มเอ็มเอ-ซิลิกาไฮบริดเมมเบรน โดยการปรับปรุงพื้นผิวของเมมเบรน ยางธรรมชาติให้มีค่าสมบัติชอบน้ำสูงขึ้น ดังนั้นพีเอ็มเอ็มเอ-ซิลิกานาโนคอมพอสิตมี ศักยภาพที่จะนำไปใช้เป็นสารตัวเติมประสิทธิภาพสูงสำหรับเทคโนโลยีการแยกสาร


การดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์โดยใช้โพแทสเซียมคาร์บอเนตบนตัวรองรับแกมมาอะลูมินาและการฟื้นฟูสภาพตัวดูดซับของแข็งในเครื่องปฏิกรณ์ฟลูอิไดซ์เบด, ชาติยา ตรีพูนสุข Jan 2019

การดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์โดยใช้โพแทสเซียมคาร์บอเนตบนตัวรองรับแกมมาอะลูมินาและการฟื้นฟูสภาพตัวดูดซับของแข็งในเครื่องปฏิกรณ์ฟลูอิไดซ์เบด, ชาติยา ตรีพูนสุข

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ปัจจุบันโลกต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่รุนแรง เนื่องจากการปล่อยแก๊สเรือนกระจกออกสู่ชั้นบรรยากาศสูงขึ้น โดยเฉพาะแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ดังนั้นเทคโนโลยีการดักจับแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์จึงมีความสำคัญในการลดปริมาณการปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่ชั้นบรรยากาศ ซึ่งการใช้ตัวดูดซับของแข็งในการดักจับแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์เป็นทางเลือกหนึ่งที่มีความเหมาะสม ในงานวิจัยนี้ทำการศึกษาผลกระทบของตัวแปรดำเนินการต่าง ๆ ในการฟื้นฟูสภาพตัวดูดซับของแข็งโพแทสเซียมคาร์บอเนตบนตัวรองรับแกมมาอะลูมินาในเครื่องปฏิกรณ์ฟลูอิไดซ์เบด เพื่อหาภาวะที่เหมาะสมและสร้างจลนพลศาสตร์ของการฟื้นฟูสภาพ โดยตัวแปรดำเนินการที่ทำการศึกษาได้แก่ ขนาดอนุภาค 90 109 และ 124 ไมโครเมตร อุณหภูมิที่ใช้ในการฟื้นฟูสภาพ 100 200 และ 300 องศาเซลเซียส และความดันเริ่มต้นที่ใช้ในการฟื้นฟูสภาพ 0.35 0.61 และ 0.88 บาร์ ผลที่ได้พบว่า ขนาดอนุภาคไม่ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อการฟื้นฟูสภาพตัวดูดซับของแข็งในภาวะดำเนินการที่อุณหภูมิการฟื้นฟูสภาพสูงและความดันเริ่มต้นในการฟื้นฟูสภาพต่ำ อุณหภูมิที่ใช้ในการฟื้นฟูสภาพมีผลเชิงบวกต่อการฟื้นฟูสภาพตัวดูดซับของแข็ง เมื่ออุณหภูมิที่ใช้ในการฟื้นฟูสภาพเพิ่มขึ้น ความสามารถในการฟื้นฟูสภาพของตัวดูดซับสูงขึ้น ส่วนความดันเริ่มต้นที่ใช้ในการฟื้นฟูสภาพมีผลเชิงลบต่อการฟื้นฟูสภาพตัวดูดซับของแข็ง นั่นคือเมื่อความดันเริ่มต้นที่ใช้ในการฟื้นฟูสภาพมีต่ำ ความสามารถในการฟื้นฟูสภาพของตัวดูดซับสูงขึ้น ดังนั้น ภาวะที่เหมาะสมในการฟื้นฟูสภาพสำหรับตัวดูดซับของแข็งชนิดนี้ อุณหภูมิที่ใช้ในการฟื้นฟูสภาพเท่ากับ 300 องศาเซลเซียส และความดันเริ่มต้นเท่ากับ 0.35 บาร์ แบบจำลองปฏิกิริยาที่เหมาะสมสำหรับใช้อธิบายจลนพลศาสตร์ของการฟื้นฟูสภาพตัวดูดซับของแข็งคือแบบจำลองปฏิกิริยาอันดับสองเทียม


การขจัดกำมะถันและไนโตรเจนแบบดูดซับของน้ำมันดีเซลโดยใช้ซีโอไลต์วายแบบแลกเปลี่ยนไอออนในระบบสองขั้นตอน, บวรชัย เจริญธีรบูรณ์ Jan 2019

การขจัดกำมะถันและไนโตรเจนแบบดูดซับของน้ำมันดีเซลโดยใช้ซีโอไลต์วายแบบแลกเปลี่ยนไอออนในระบบสองขั้นตอน, บวรชัย เจริญธีรบูรณ์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ในปัจจุบัน หลายประเทศให้ความสำคัญเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมด้านมลพิษทางอากาศเพิ่มมากขึ้น และหนึ่งในปัญหาสำคัญด้านมลพิษทางอากาศ คือ สารประกอบกำมะถันและสารประกอบไนโตรเจนที่เกิดจากการเผาไหม้น้ำมันดีเซลและเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องควบคุมอย่างเข้มงวด การดูดซับเป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดระดับของสารประกอบกำมะถันและสารประกอบไนโตรเจนในน้ำมันดีเซล ดังนั้นในงานวิจัยนี้จึงมุ่งเน้นไปที่ประสิทธิภาพการดูดซับของวายซีโอไลท์ที่แลกเปลี่ยนไอออนด้วยโลหะหลายชนิด เช่น Na-Y, Ni-Y, Cu-Y, Co-Y, La-Y, Ce-Y และ Fe-Y ที่มีผลต่อการขจัดสารประกอบกำมะถัน และการขจัดสารประกอบกอบไนโตรเจน ใช้ระบบขั้นตอนเดียวและระบบสองขั้นตอน ภายใต้ภาวะแวดล้อมในระบบคอลัมน์แบบระบบขั้นตอนเดียวโดยซีโอไลต์ La-Y มีประสิทธิภาพการดูดซับสารประกอบไนโตรเจนที่ดีที่สุดในน้ำมันจำลองที่ 4 และ ซีโอไลต์ Na-Y มีความสามารถในการดูดซับสารประกอบกำมะถันสูงที่สุดในน้ำมันจำลองที่ 1 และสำหรับระบบสองขั้นตอน ในขั้นตอนแรกจะบรรจุ La-Y ซีโอไลต์ สำหรับการการขจัดสารประกอบไนโตรเจน และคอลัมน์ที่สองบรรจุซีโอไลต์ Na-Y สำหรับการขจัดสารประกอบกำมะถันในน้ำมันจำลองที่ 4 และพบว่ามีค่าร้อยละการดูดซับของสารประกอบควิโนลีน อินโดวและอะคริดีนเท่ากับ 65.6, 49.2 และ 39.9 ตามลำดับ และร้อยละในการดูดซับของสารประกอบไดเบนโซไทโอฟีน (DBT) และ 4,6 ไดเมทิลไดเบนโซไทโอฟีน (4,6-DMDBT) คือ 38.8 และ 37.7 ตามลำดับ จากผลการทดลองพบว่าระบบคอลัมน์แบบสองขั้นตอนโดยใช้ซีโอไลต์ La-Y และ Na-Y เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับการดูดซับสารประกอบกำมะถัน และสารประกอบไนโตรเจนของน้ำมันดีเซล ทั้งนี้ยังสามารถเพิ่มอุณหภูมิในการดูดซับเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการดูดซับในระบบขั้นตอนเดียว และระบบสองขั้นตอน และนอกจากนี้ยังสามารถนำตัวดูดซับกลับมาใช้ใหม่ได้ด้วยวิธีสกัดด้วยตัวทำละลายในระบบสองขั้นตอน


การเตรียมฟิล์มยางธรรมชาติที่มีสภาพไม่ชอบน้ำสูงโดยการกราฟต์ด้วยมอนอเมอร์ออร์กาโนซิลิกอน, พัชรรุจี งามดี Jan 2019

การเตรียมฟิล์มยางธรรมชาติที่มีสภาพไม่ชอบน้ำสูงโดยการกราฟต์ด้วยมอนอเมอร์ออร์กาโนซิลิกอน, พัชรรุจี งามดี

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ยางธรรมชาติที่มีสภาพไม่ชอบน้ำสูงสามารถเตรียมผ่านกระบวนการปรับปรุงสภาพผิวด้วยไฮดรอกซิเลชัน (hydroxylation) และการกราฟต์ (graft) ด้วยมอนอเมอร์ออร์กาโนซิลิกอน หลังจากเตรียมฟิล์มยางธรรมชาติวัลคาไนซ์ (vulcanized natural rubber, VNR) แล้วทำการปรับปรุงพื้นผิวฟิล์มยาง VNR ผ่านไฮดรอกซิเลชันเพื่อให้ได้เป็นยาง ธรรมชาติไฮดรอกซิเลต (hydroxylated natural rubber, VNR-OH) โดยใช้หมู่ไฮดรอกซิลเป็นตำแหน่งกัมมันต์ในการ กราฟต์กับมอนอเมอร์ออร์กาโนซิลิกอนประเภทต่างๆ ผ่านปฏิกิริยาไฮโดรไลซิสและพอลิคอนเดนเซชัน ศึกษาผลของชนิด และความเข้มข้นของกรด รวมถึงเวลาที่ใช้ในการแช่กรดต่อปริมาณหมู่ไฮดรอกซิลบนโครงสร้างของฟิล์มยาง VNR-OH การแช่ฟิล์มยาง VNR ในสารละลายกรดซัลฟิวริก 75% โดยน้ำหนัก นาน 1 ชั่วโมง ทำให้ฟิล์มยาง VNR-OH ที่ได้มีปริมาณ ของหมู่ไฮดรอกซิลมากที่สุดเท่ากับ 7.83 โมล% สำหรับการวิเคราะห์ความไม่ชอบน้ำ พบว่าฟิล์มยาง VNR และ VNR-OH มีค่ามุมสัมผัสหยดน้ำเท่ากับ 97.3° และ 63.5° ตามลำดับ และภายหลังการกราฟต์ด้วย 3.70% โดยน้ำหนัก ของมอนอเมอร์ออร์กาโนซิลิกอนชนิดต่างๆ ได้แก่ เมทิลไตรเมทอกซีไซเลน (MTMS), เฮกซะเดซิลไตรเมทอกซีไซเลน (HDTMS) และ 3-(ไตรเมทอกซีไซลิล)โพรพิลเมทาคริเลท (MPS) เปรียบเทียบกับการใช้เมทิลไตรคลอโรไซเรน (MTCS) พบว่าฟิล์มยาง VNR-OH ที่กราฟต์ด้วย MTCS (VNR-OH-MTCS) ให้ค่ามุมสัมผัสหยดน้ำเพิ่มขึ้นเป็น 149° เมื่อศึกษา ปริมาณ MTCS ที่ความเข้มข้นต่างกัน (1-5% โดยน้ำหนักในตัวทำละลายเฮกเซน) พบว่าที่ 2% โดยน้ำหนักของ MTCS ในเฮกเซน ทำให้ฟิล์มยาง VNR-OH-MTCS ที่เตรียมได้มีค่ามุมสัมผัสหยดน้ำสูงที่สุดเท่ากับ 155° และพบว่าการนำฟิล์ม ยาง VNR ไปกราฟต์โดยตรงด้วย MTCS ที่ความเข้มข้นเดียวกัน (VNR-MTCS) ให้ค่ามุมสัมผัสหยดน้ำเพียง 118° แสดงให้ เห็นว่าหมู่ไฮดรอกซิลในโครงสร้างของฟิล์มยาง VNR-OH เป็นหมู่ฟังก์ชันที่ทำหน้าที่ในการเกิดปฏิกิริยากับ MTCS และ …


Finite Integration Method With Chebyshev Expansion For Finding Numerical Solution Of Nonlinear And Fractional Order Differential Equations, Ampol Duangpan Jan 2019

Finite Integration Method With Chebyshev Expansion For Finding Numerical Solution Of Nonlinear And Fractional Order Differential Equations, Ampol Duangpan

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

In this dissertation, we develop the finite integration method by using Chebyshev polynomial expansion (FIM-CPE) for solving one- and two-dimensional nonlinear differential equations. The developed FIM-CPE can be used on any domains. Then, we utilize our FIM-CPE to deal with the spatial variable and the forward difference quotient to handle the derivative involving temporal variable. Thus, the numerical algorithms based on this idea are devised to overcome three nonlinear problems including one-dimensional Burgers' equation with shock wave, time-fractional Benjamin-Bona-Mahony-Burgers' equation and two-dimensional nonlinear Poisson equation over irregular domains. Moreover, we examine our algorithms with several experimental examples by comparing the …


Automatic Model Identification For Time Series Analysis Using Deep Learning, Paisit Khanarsa Jan 2019

Automatic Model Identification For Time Series Analysis Using Deep Learning, Paisit Khanarsa

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Most time series data can be characterized by a linear process via the autoregressive integrated moving average model requiring a three-component vector which are the autoregressive, differencing, and moving average orders before fitting coefficients. A model identification which determines those orders is analyzed via the partial autocorrelation function to identify the autoregressive order, the autocorrelation function to identify the moving average order and an extended sample autocorrelation function to identify both orders which is a challenging problem for statisticians. Accordingly, the auto-ARIMA model was proposed to automatically vary those orders and estimates their corresponding coefficients. This thesis proposes three architectures …


Integer-Valued Time Series Risk Model With Surrender And Investment, Nuntanut Foosarmpok Jan 2019

Integer-Valued Time Series Risk Model With Surrender And Investment, Nuntanut Foosarmpok

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

In this study, we construct the discrete-time risk models based on integer-valued time series models by incorporating the concepts of surrender and investment. The surrender considered in this study is the situation that the policyholder decides to exit the policy before maturity date. In our study, we provide the probabilistic properties of the model. Moreover, we derive approximation of ruin probabilities of the constructed risk model. Finally, we discuss the trends of the ruin probability and the value at risk of the model by numerical simulations.


Parameter-Free Outlier Scoring Using Acute Angle Ordered Difference Distance, Pollaton Pumruckthum Jan 2019

Parameter-Free Outlier Scoring Using Acute Angle Ordered Difference Distance, Pollaton Pumruckthum

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

An anomaly scoring algorithm assigns a score to an instance that provides a large value for an outlier in order to help detecting anomalies within a dataset. In 2013, one of the parameter-free techniques called the order difference distance outlier factor was proposed (OOF). OOF was computed using the ordered difference distance derived from the distance matrix sorted in each row, before calculating the difference. The minimum distance was included to avoid false detection but it also decreased the score of anomalies forming a small cluster. To avoid the use of the minimum distance, the new technique is proposed base …