Open Access. Powered by Scholars. Published by Universities.®

Engineering Commons

Open Access. Powered by Scholars. Published by Universities.®

Operational Research

Chulalongkorn University

Articles 1 - 30 of 242

Full-Text Articles in Engineering

Prediction Models For Beauty Products Monthly Sales With Price Promotion, Nichakan Phupaichitkun Jan 2023

Prediction Models For Beauty Products Monthly Sales With Price Promotion, Nichakan Phupaichitkun

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Promotional pricing strategy is a major marketing tool for most retails. However, predicting sales when discount is offered can be difficult since there are other factors causing demand to be uncertain or highly fluctuating. The objective of this research is to identify the most suitable prediction models for beauty product unit sales in retail and capture the effects of factors impacting sales. The dataset provided by the case study retail company was available from January 2020 to December 2022 (36 months). The prediction models, including linear regression, random forest, XGBoost, artificial neural networks (ANN), and hybrid models, are constructed and …


การจัดตารางพยาบาลแบบหลายวัตถุประสงค์ด้วยวิธีการฮิวริสติก : กรณีศึกษาของโรงพยาบาลเอกชนในประเทศไทย, นลธวัช สุคนธ์ภัทร Jan 2023

การจัดตารางพยาบาลแบบหลายวัตถุประสงค์ด้วยวิธีการฮิวริสติก : กรณีศึกษาของโรงพยาบาลเอกชนในประเทศไทย, นลธวัช สุคนธ์ภัทร

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อพัฒนาแนวทางการแก้ปัญหาการจัดตารางการทำงานของพยาบาลแบบหลายวัตถุประสงค์ (Multi-objective Nurse Scheduling Problem : NSP) ด้วยแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ ควบคู่ไปกับวิธีการฮิวริสติก ปัญหาการจัดตารางการทำงานพยาบาลแบบหลายวัตถุประสงค์นี้ เป็นปัญหาที่มีความซับซ้อน อันเป็นผลเนื่องมาจากความหลากหลายของข้อจำกัด และวัตถุประสงค์หลักของปัญหาต่างๆ ที่มีความขัดแย้งกัน นอกจากนี้ โรงพยาบาลส่วนใหญ่ยังขาดระบบสนับสนุนการตัดสินใจในการจัดตารางการทำงาน ส่งผลทำให้ผู้จัดตารางการทำงานจำเป็นต้องดำเนินการจัดตารางการทำงานด้วยตนเอง ซึ่งมักใช้เวลาในการจัดที่ยาวนาน และผิดพลาดได้ง่าย เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ผู้วิจัยได้พัฒนาแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ที่สะท้อนภาพการทำงานของผู้จัดตารางการทำงานพยาบาลแบบหลายวัตถุประสงค์ขึ้น โดยมุ่งเน้นไปที่แผนกฉุกเฉิน เนื่องจากแผนกดังกล่าวมีความซับซ้อนในการปฎิบัติงานมากกว่าแผนกอื่นๆ อย่างไรก็ดี ผู้วิจัยพบว่า เมื่อปัญหาดังกล่าวมีขนาดใหญ่ขึ้น ประสิทธิภาพของแบบจำลองทางคณิตศาสตร์มีแนวโน้มที่ลดถอยลง ทั้งในเชิงคุณภาพของคำตอบ และเวลาที่ใช้ในการหาคำตอบ อันเป็นผลเนื่องมาจากความซับซ้อนของปัญหาดังกล่าว ผู้วิจัยจึงได้ทำการพัฒนาฮิวริสติกขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และลดเวลาการหาคำตอบของปัญหาการจัดตารางการทำงานพยาบาลแบบหลายวัตถุประสงค์ โดยอ้างอิงจาก Adaptive Large Neighborhood Search (ALNS) ควบคู่ไปกับ Non-dominated Sorting Genetic Algorithm III (NSGA-III) จากผลการทดลอง ผู้วิจัยพบว่า วิธีการฮิวริสติกที่ถูกพัฒนาขึ้นมีคุณภาพเทียบเท่ากับวิธีแม่นตรงในปัญหาขนาดเล็ก โดยชุดคำตอบที่ได้จากวิธีการฮิวริสติกมีคุณภาพเทียบเท่ากับวิธีแม่นตรง หากแต่ใช้เวลาในการหาคำตอบที่สั้นกว่ามาก สำหรับปัญหาที่มีขนาดใหญ่ขึ้น วิธีการฮิวริสติกที่ถูกพัฒนาขึ้นก็สามารถสร้างชุดคำตอบที่มีความหลากหลายในระยะเวลาที่สั้นกว่าวิธีการแบบดั้งเดิมเป็นอย่างมาก


การวางแผนและจัดตารางการทำงานสำหรับการทดสอบความคงตัวของผลิตภัณฑ์ยา ด้วยเทคนิคการหาค่าเหมาะสมที่สุด, วริศรา วรฤทัย Jan 2023

การวางแผนและจัดตารางการทำงานสำหรับการทดสอบความคงตัวของผลิตภัณฑ์ยา ด้วยเทคนิคการหาค่าเหมาะสมที่สุด, วริศรา วรฤทัย

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยนี้ศึกษาการวางแผนและจัดตารางการทำงานสำหรับการทดสอบความคงตัวของยา โดยมีแนวคิดในการแบ่งการทำงานออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1 การหารูปแบบมอบหมายงานให้กับพนักงานและเครื่องทดสอบ ในการแก้ปัญหาดังกล่าวแบบจำลองกำหนดการเชิงเส้นจำนวนเต็มแบบผสมได้ถูกนำมาใช้ในการหาคำตอบของปัญหา แต่เนื่องจากมีหลายวัตถุประสงค์ที่ใช้ในการตัดสินใจ อีกทั้งแต่ละวัตถุประสงค์มีหน่วยที่ต่างกัน ทำให้แก้ปัญหาด้วยแบบจำลองคณิตศาสตร์เดียวทำได้ยาก จึงได้มีการพัฒนาแบบจำลองคณิตศาสตร์จำนวน 2 โมเดลเพื่อใช้ในการแก้ปัญหาดังกล่าว โมเดลที่ 1 มีวัตถุประสงค์เพื่อการลดความแตกต่างของภาระงานสูงสุด และต่ำที่สุด และการทำงานล่วงเวลาของพนักงานให้น้อยที่สุด ในขณะที่โมเดลที่ 2 มีวัตถุประสงค์เพื่อพิจารณาลำดับความสำคัญของการทดสอบยา ส่วนที่ 2 เป็นการจัดตารางการทำงานของพนักงานและเครื่องทดสอบด้วยวิธีการฮิวริสติก โดยมีข้อมูลนำเข้าจากผลคำตอบที่ได้รับในงานส่วนที่ 1 และได้นำกฎการจัดลำดับความสำคัญ จำนวน 2 วิธี ได้แก่ กฎการเลือกงานที่ใช้เวลาน้อยที่สุดทำก่อน และกฎการเลือกงานที่ใช้เวลาทำนานที่สุดทำก่อน มาใช้ในการเรียงลำดับงานจำนวน 3 รูปแบบ ได้แก่ เวลาปฏิบัติงานรวมของการทดสอบ เวลาปฏิบัติงานเวลาในขั้นตอนแรกของการทดสอบ และเวลาปฏิบัติงานตามหัวข้อทดสอบ ผลการวิจัยจากงานส่วนที่ 1 พบว่ารูปแบบการการมอบหมายงานให้พนักงานและเครื่องทดสอบจากแบบจำลองคณิตศาสตร์ทั้ง 2 โมเดลให้ค่าคำตอบที่เหมือนกัน โดยยาแต่ละชนิดมีการเลื่อนทดสอบไปในเดือนถัด ๆ ไปมากขึ้น ภายใต้เงื่อนไขยาแต่ละชนิดต้องทดสอบภายใน 4 เดือน โดยมีจำนวนยาที่เลื่อนการทดสอบออกไปจำนวน 2,013 ล็อต ในส่วนของภาระงานที่พนักงานได้รับพบว่ามีสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน และในเดือนที่ 4 มีจำนวนภาระงานเกิดขึ้นสูงสุด ซึ่งทำให้เกิดการทำงานล่วงเวลาทั้งเภสัชกรและนักวิทยาศาสตร์ จากการจัดตารางการทำงานและวัดผลด้วยตัวชี้วัดประสิทธิภาพ พบว่าการจัดตารางการทำงานจากเวลาปฏิบัติงานเวลาในขั้นตอนแรกของการทดสอบ ด้วยวิธี SPT ให้ผลเฉลยที่ดีที่สุดตามวัตถุประสงค์ โดยไม่จำเป็นต้องทำงานล่วงเวลา โดยผลการศึกษานี้เป็นเพียงทางเลือกหนึ่งที่ใช้ในการจัดตารางการทำงานของพนักงานและเครื่องทดสอบ


Strategic Distribution Centres Location For Traffic Safety Products, Pakaporn Bunwit Jan 2023

Strategic Distribution Centres Location For Traffic Safety Products, Pakaporn Bunwit

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

This research aims to determine suitable locations to build distribution centers for a specific company that distributes traffic safety products to highway offices across every province in Thailand using strategic methods. In this problem set, the predetermined location of customers and each corresponding demand were given. With customer locations spreading widely across Thailand, this research aims to find locations of distribution centers, which will result in the lowest cost to travel from the company's headquarter to the distribution centers and the cost of travelling to and from customers from those distribution centers by considering the transportation cost, vehicle cost and …


Aircraft Arrival Delay Prediction Using Machine Learning Method, Patara Charnvanichborikarn Jan 2023

Aircraft Arrival Delay Prediction Using Machine Learning Method, Patara Charnvanichborikarn

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Flight delays pose a significant challenge to the growth and efficiency of the US airline industry, which is a central focus of our thesis that extends to the broader global airline sector. This study aims to predict aircraft arrival delays utilizing machine learning models. In addressing the substantial challenge of aircraft delays within the US airline industry, our research relied on Kaggle datasets. Following comprehensive data reorganization and cleanup processes, a crucial aspect of our approach involved integrating weather data from the arrival airport at the time of arrival into the model, thereby enhancing our dataset to bolster predictive accuracy. …


การจัดลำดับความสำคัญของเกณฑ์สำหรับการจัดหาเครื่องจักรหนักในการก่อสร้างถนน โดยใช้การตัดสินใจแบบกลุ่มและการวิเคราะห์เชิงลำดับชั้น, กาญจนพัฒน์ ตั้งสิทธิโชค Jan 2023

การจัดลำดับความสำคัญของเกณฑ์สำหรับการจัดหาเครื่องจักรหนักในการก่อสร้างถนน โดยใช้การตัดสินใจแบบกลุ่มและการวิเคราะห์เชิงลำดับชั้น, กาญจนพัฒน์ ตั้งสิทธิโชค

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

นโยบายการจัดหาเครื่องจักรหนักมีผลต่อความสำเร็จของผู้รับเหมาก่อสร้างถนนระดับท้องถิ่น การกำหนดนโยบายที่เหมาะสมสามารถช่วยลดความเสี่ยงที่เครื่องจักรหนักไม่พร้อมใช้งาน งานไม่เสร็จตามกำหนด และป้องกันปัญหาต้นทุนสูงที่กว่าแผนงานก่อสร้างลงได้ งานวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อเลือกเกณฑ์ที่มีผลต่อการตัดสินใจต่อนโยบายการจัดหาเครื่องจักรหนัก เครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัยได้แก่ การวิเคราะห์เชิงลำดับชั้นและการตัดสินใจของกลุ่มผู้รับเหมาระดับท้องถิ่น ขั้นตอนการดำเนินงานเริ่มจาก (1) แบ่งกลุ่มผู้รับเหมาระดับท้องถิ่นเป็นสองกลุ่ม ตามขนาดทุนจดทะเบียนและตามศักยภาพในการซ่อมบำรุงเครื่องจักรหนัก (2) สำรวจปัจจัยต่าง ๆ เพื่อกำหนดเป็นเกณฑ์ที่สัมพันธ์กับนโยบายของการจัดหาเครื่องจักร (3) สร้างผังโครงสร้างเชิงลำดับชั้นประกอบด้วยเกณฑ์หลัก 6 เกณฑ์ และนโยบาย 3 ทางเลือก ในงานวิจัยนี้ได้ใช้เครื่องจักรหนักกรณีศึกษา ได้แก่ รถเกลี่ยดิน รถตัก รถบรรทุกน้ำ และรถโม่คอนกรีตที่มีอายุงานสูง (4) ทำการวิเคราะห์เชิงลำดับชั้นและทำการประเมินความเสี่ยงของโครงการควบคู่กัน ผลการวิจัยพบว่ากรณีรถเกลี่ยดิน รถตักและรถโม่คอนกรีต กลุ่มผู้รับเหมาขนาดกลางให้ความสำคัญมากต่อเกณฑ์หลักได้แก่ "ค่าใช้จ่ายทั้งหมดของโครงการ" (0.309, 0.297, 0.322) และเกณฑ์รองได้แก่ "ค่าใช้จ่ายจากการส่งงานล่าช้า" (0.405, 0.368, 0.371) ในขณะที่กลุ่มผู้รับเหมาขนาดเล็กให้ความสำคัญมากต่อเกณฑ์หลัก "ประสิทธิภาพของทีมซ่อมบำรุง" (0.419, 0.402, 0.376) และเกณฑ์รอง "ค่าใช้จ่ายในการจัดหา" (0.226, 0.203, 0.311) ส่วนกรณีรถบรรทุกน้ำกลุ่มผู้รับเหมาขนาดกลางให้ความสำคัญมากต่อเกณฑ์หลักได้แก่ "ประสิทธิภาพทีมซ่อมบำรุง" (0.313) และเกณฑ์รองได้แก่ "ค่าใช้จ่ายจากการส่งงานล่าช้า" (0.335) ในขณะที่กลุ่มผู้รับเหมาขนาดเล็กให้ความสำคัญมากต่อเกณฑ์หลัก "ประสิทธิภาพของทีมซ่อมบำรุง" (0.404) และเกณฑ์รอง "ค่าใช้จ่ายในการจัดหา" (0.273) ทั้งนี้ผู้รับเหมาขนาดกลางเลือกนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการซื้อเครื่องจักรใหม่เมื่อมีความเสี่ยงสูงต่อการเสียค่าปรับงานไม่เสร็จตามกำหนด ส่วนผู้รับเหมาขนาดเล็กเลือกนโยบายที่เน้นการซ่อมแซมเครื่องจักรที่มีอยู่เดิมเนื่องจากความกังวลกับค่าใช้จ่ายในการจัดหาเครื่องจักรสูง


การออกแบบสถานีงานพุททูไลท์สำหรับศูนย์กระจายสินค้า วัสดุตกแต่งบ้าน, กิตาการ จิตรเอื้ออารีย์กุล Jan 2023

การออกแบบสถานีงานพุททูไลท์สำหรับศูนย์กระจายสินค้า วัสดุตกแต่งบ้าน, กิตาการ จิตรเอื้ออารีย์กุล

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

จากภาวะขาดแคลนแรงงาน บริษัทค้าปลีกหลายแห่งประยุกต์ระบบขนถ่ายวัสดุแบบกึ่งอัตโนมัติในศูนย์กระจายสินค้าเช่นเดียวกับบริษัทค้าปลีกวัสดุก่อสร้างกรณีศึกษาซึ่งนำระบบหยิบสินค้าด้วยแสง หรือ พุททูไลท์ (Put-to-Light) ซึ่งเป็นระบบขนวัสดุประเภทตะกร้าและระบุจำนวนที่ต้องการหยิบสำหรับพนักงาน ระบบดังกล่าวประกอบด้วยหลายสถานีงานซึ่งใช้สายพานร่วมกัน ในแต่ละสถานีงานประกอบไปด้วยตำแหน่งวางตะกร้าซึ่งระบุร้านสาขากับประเภทสินค้า รวมถึงลูกค้าในช่องทางอีคอมเมิร์ซ การวิเคราะห์เบื้องต้นพบว่าจำนวนการหยิบสินค้าเฉลี่ยต่อชั่วโมงแรงงานต่ำกว่าเป้าหมายประมาณ 5-10% เนื่องจากนโยบายการคัดสรรสินค้าในสถานีงาน การกีดขวางของตะกร้าสินค้าซึ่งมีการใช้สายพานร่วมกัน และประสิทธิภาพการหยิบของพนักงานรายบุคคล ดังนั้นงานวิจัยชิ้นนี้จึงนำเสนอชุดนโยบายด้านการดำเนินงาน ซึ่งครอบคลุม จำนวนและการกำหนดสถานีงาน การจัดการลูกค้าในช่องทางอีคอมเมิร์ซและประเภทตะกร้าสินค้า ความจุของตะกร้า และ ประสิทธิภาพของพนักงาน หลังจากการวิเคราะห์ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ข้อมูลในอดีตได้ถูกประยุกต์เข้ากับแบบจำลองสถานการณ์แบบ Monte Carlo เพื่อทดลองและเปรียบเทียบนโยบาย การทดลองพบว่าตำแหน่งของตะกร้าและการกำหนดสาขามีผลต่อจำนวนการกีดขวางและการเผาผลาญพลังงาน อย่างไรก็ตามความจุตะกร้าและประสิทธิภาพของพนักงานมีอิทธิพลเหนือปัจจัยอื่น ๆ โดยลดการกีดขวาง 39%, เวลาดำเนินงาน 16%, และการเผาผลาญพลังงาน 9% ข้อสรุปดังกล่าวเน้นย้ำถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์กับเครื่องจักรในระบบพุททูไลท์


ตัวแบบการวางแผนจัดโปรโมชันลดราคาหลายช่วงเวลา สำหรับสินค้าร้านค้าปลีก, ชนิกานต์ ทั่งทอง Jan 2023

ตัวแบบการวางแผนจัดโปรโมชันลดราคาหลายช่วงเวลา สำหรับสินค้าร้านค้าปลีก, ชนิกานต์ ทั่งทอง

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ สำหรับการวางแผนจัดโปรโมชันลดราคาหลายช่วงเวลาสำหรับสินค้าในร้านค้าปลีกกรณีศึกษา ซึ่งปัจจุบันวางแผนการจัดโปรโมชัน โดยใช้ผู้มีประสบการณ์ ทำให้การจัดโปรโมชันแต่ละครั้งใช้เวลานาน ดังนั้นผู้วิจัยจึงนำเสนอแบบจำลองโปรแกรมเชิงเส้นจํานวนเต็มไบนารี ในการแก้ปัญหาภายใต้ข้อจำกัดต่างๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มผลกำไรรวมสูงที่สุด งานวิจัยนี้ใช้ตัวแบบการประมาณการยอดขายแบบลอการิทึม ในการประมาณการยอดขายรายเดือนและจำแนกกลุ่มสินค้าตามค่าความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อราคา ผลการวิจัยพบว่าการจัดโปรโมชันโดยพิจารณารวมทุกกลุ่มกำไรพร้อมกัน สามารถให้ผลกำไรรวมได้ดีที่สุด โดยพัฒนาผลกำไรรวมเพิ่มขึ้น 1,194,517.75 บาท หรือคิดเป็น 3.94 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับการจัดโปรโมชันของร้านค้าปลีกกรณีศึกษาในปัจจุบัน และใช้เวลาประมวลผลได้เหมาะสม นอกจากนั้นผู้วิจัยได้ใช้วิธีจำลองสถานการณ์มอนติคาร์โล เพื่อจำลองสถานการณ์ค่าสัมประสิทธ์ของความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อราคาเพื่อใช้ในการศึกษาผลกระทบของปัจจัยต่างๆ ผลจากการทดลองเชิงคำนวณพบว่าปัจจัยความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อราคา เป็นปัจจัยที่สำคัญที่ต่อการเลือกประเภทความลึกของการลดราคาที่เหมาะสม นอกจากนั้นผู้วิจัยได้ทำการพัฒนาและสร้างแม่แบบในโปรแกรมเอ็กเซล เพื่อใช้ในการรับข้อมูลเพื่อส่งต่อไปยังโปรแกรม IBM ILOG CPLEX Optimization จากนั้นก็ทำการแปลงข้อมูลผลลัพธ์ของตัวแปรตัดสินใจกลับมาใน Excel ให้อยู่ในรูปแบบตารางที่ง่ายต่อการนำไปใช้งาน


การพัฒนารายการตรวจสอบคุณสมบัติของเทคโนโลยีอีเลิร์นนิง แบบประสานเวลาเชิงรุก: ความสอดคล้องระหว่างระบบและ โลกแห่งความจริง, ธันยพัฒน์ ศรลัมพ์ Jan 2023

การพัฒนารายการตรวจสอบคุณสมบัติของเทคโนโลยีอีเลิร์นนิง แบบประสานเวลาเชิงรุก: ความสอดคล้องระหว่างระบบและ โลกแห่งความจริง, ธันยพัฒน์ ศรลัมพ์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ส่งผลให้สถาบันการศึกษาหลายประเทศทั่วโลกตัดสินใจปิดตัวลงและเปลี่ยนรูปแบบการเรียนจากการเรียนรู้ในห้องเรียนแบบกายภาพไปเป็นการเรียนในรูปแบบออนไลน์ โดยอาศัยเทคโนโลยีการเรียนรู้แบบประสานเวลาเป็นสื่อกลาง แต่อย่างไรก็ตามมีการศึกษาประสิทธิผลของการเรียนรู้ในห้องเรียนแบบกายภาพเทียบกับการเรียนแบบออนไลน์ซึ่งพบว่าการเรียนรู้ในห้องเรียนแบบกายภาพเป็นที่ต้องการและพบว่ามีประสิทธิผลดีกว่าการเรียนรู้ออนไลน์ส่วนใหญ่ รวมถึงการศึกษาธรรมชาติของผู้เรียนพบว่าผู้เรียนต้องเรียนรู้และใช้งานหลายแพลตฟอร์มสำหรับการเรียนในหนึ่งหลักสูตร ดังนั้นจึงเกิดคำถามงานวิจัยที่ว่า คุณสมบัติ (Attribute) ที่จำเป็นต้องมีเพื่ออำนวยความสะดวกและตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้งานคืออะไร โดยในงานวิจัยนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่อสร้างรายการตรวจสอบคุณสมบัติเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับการเรียนรู้แบบประสานเวลาให้สอดคล้องกันระหว่างระบบและโลกแห่งความเป็นจริง โดยจะถูกพัฒนาจาก 2 ประเด็น ทั้งในเชิงทฤษฎีและในเชิงการใช้งานจริง โดยเริ่มต้นที่เชิงทฤษฎีทางผู้วิจัยจัดทำการทบทวนงานวิจัยและการศึกษาเชิงประจักษ์เกี่ยวกับปัจจัยที่ส่งผลต่อการเรียนรู้เชิงรุกและในเชิงการใช้งานจริง ผู้วิจัยทำการรวบรวมปัญหาการใช้งานจริงของเทคโนโลยีการเรียนรู้แบบประสานเวลา หลังจากนั้นจึงสร้างแบบประเมินงานวิจัยเพื่อศึกษาถึงปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้เชิงรุกในมุมมองของการพัฒนาเทคโนโลยีการเรียนรู้ แล้วจึงทำการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงสำรวจ(Exploratory Factor Analysis: EFA) เพื่อสร้างแบบรายการตรวจสอบคุณสมบัติสำหรับการเรียนรู้แบบประสานเวลาเชิงรุก โดยรายการตรวจสอบคุณสมบัติที่ได้จะประกอบไปด้วย 9 ข้อหลัก 20 ข้อย่อย แล้วจึงทำการทดสอบความเชื่อมั่นของแบบรายการตรวจสอบคุณสมบัติดังกล่าว จากผลการทดสอบพบว่า ความเชื่อมั่นระหว่างผู้ประเมิน (Inter-Rater Reliability: IRR) ทั้ง 2 ท่าน พบว่าค่าสถิติแคปปา มีค่าเท่ากับ 0.773 ซึ่งหมายถึง ระดับความสอดคล้องของผู้ประเมินมีความสอดคล้องกันมาก จึงสรุปได้ว่ารายการตรวจสอบคุณสมบัตินี้มีความน่าเชื่อถือและสามารถนำไปใช้งานได้จริง


การลดสัดส่วนของเสียจากข้อบกพร่องโลหะบัดกรีไม่สมบูรณ์สำหรับแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์แบบยืดหยุ่น, ศตพร คุณาพิสิฐกุล Jan 2022

การลดสัดส่วนของเสียจากข้อบกพร่องโลหะบัดกรีไม่สมบูรณ์สำหรับแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์แบบยืดหยุ่น, ศตพร คุณาพิสิฐกุล

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงคุณภาพกระบวนการผลิตโดยลดสัดส่วนของเสียจากข้อบกพร่องโลหะบัดกรีไม่สมบูรณ์สำหรับแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์แบบยืดหยุ่น (Flexible Printed Circuit Assembly) ด้วยหลักการ DMAIC ของเทคนิคซิกซ์ ซิกม่า (Six Sigma) จากการวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาด้วยด้วยแผนผังก้างปลา (Fish Bone) ก่อนการนำไปวิเคราะห์ลำดับความสำคัญด้วยเทคนิคการวิเคราะห์ความล้มเหลวและผลกระทบ (Failure mode and effects analysis, FMEA) พบว่ามี 7 ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อการเกิดข้อบกพร่องที่สนใจ ได้แก่ ชนิดพื้นผิวของพื้นที่เปิดแตกต่างกัน 2) การติด Glass cloth ผิดวิธี, เยื้อง 3) การออกแบบแม่พิมพ์ไม่เหมาะสม 4) ความหนาของแม่พิมพ์น้อยเกินไป 5) แรงดันที่ใช้ขณะพิมพ์ไม่เหมาะสม 6) การตั้งค่า Reflow profile ไม่เหมาะสม และ 7) ความเข้มข้นของ Oxygen ไม่เหมาะสม ผู้วิจัยทำการศึกษาชนิดพื้นผิวของพื้นที่เปิดแตกต่างกัน (ปัจจัยที่ 1) เพื่อเป็นองค์ประกอบในการปรับปรุงการออกแบบแม่พิมพ์ (ปัจจัยที่ 3) สำหรับปัจจัยที่ 2 – 7 ได้ทำการออกแบบการทดลองแบบปัจจัยเดียว (OFAT) และทดสอบทางสถิติเพื่อหาวิธีการทำงานที่ช่วยลดสัดส่วนของเสียได้อย่างมีนัยสำคัญ จากนั้นได้ศึกษาอิทธิพลร่วมระหว่างปัจจัยที่ 6 และ 7 ซึ่งประกอบไปด้วย Reflow time, Peak temperature และ การใช้ N2 ด้วยการออกแบบการทดลองแบบแฟกทอเรียลเต็มรูป (Full factorial design) หาสมการความสัมพันธ์ด้วยแบบจำลองการถดถอย (Regression equation) ทำให้สามารถกำหนดค่าที่เหมาะสม และพบว่า สามารถลดส่วนของเสียจากข้อบกพร่องโลหะบัดกรีไม่สมบูรณ์ได้จาก 4.14% เป็น 1.17% หรือลดลง 71.74% จากสัดส่วนของเสียก่อนการปรับปรุง ส่งผลให้มูลค่าสูญเสียลดลง 33,041 บาทต่อเดือน จาก 51,753 บาทต่อเดือน เหลือเพียง 18,712 บาทต่อเดือน


Bitcoin Candlestick Price Prediction With Recurrent Neural Network, Sutiwat Simtharakao Jan 2022

Bitcoin Candlestick Price Prediction With Recurrent Neural Network, Sutiwat Simtharakao

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Bitcoin is a high-risk asset with a potentially high return. Predicting Bitcoin candlestick, i.e., open, high, low, and close (OHLC) prices, can help investors make trading decisions. The objective of this study is to develop a neural network model to predict the candlestick prices of Bitcoin for the next period. Additionally, this study investigates methods to enhance the model's forecasting performance by feature transformations, specifically data normalization. This study employs two neural network algorithms, Long Short-Term Memory (LSTM) and Gated Recurrent Unit (GRU), to forecast daily Bitcoin OHLC prices. To enhance the model's performance, we compare sliding window normalization with …


การพยากรณ์ราคาเม็ดพลาสติกพอลิโพรพีลีนในประเทศไทยโดยใช้วิธีการเรียนรู้ของเครื่อง, ภัทรพล ภัทรอัมพรชัย Jan 2022

การพยากรณ์ราคาเม็ดพลาสติกพอลิโพรพีลีนในประเทศไทยโดยใช้วิธีการเรียนรู้ของเครื่อง, ภัทรพล ภัทรอัมพรชัย

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ในปัจจุบันธุรกิจอุตสาหกรรมพลาสติกมีความสำคัญมากกับประเทศไทยเนื่องจากสินค้าอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ใช้พลาสติก โดยจากสถิติปริมาณการใช้งานพลาสติกพบว่าพลาสติกโพลิโพรพิลีน (PP) มีปริมาณการใช้งานมากที่สุดเมื่อเทียบกับพลาสติกชนิดอื่น ทำให้เป็นพลาสติกชนิดที่มีความสำคัญที่สุดต่ออุตสาหกรรมพลาสติกในไทย งานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเป็นการนำเสนอและเปรียบเทียบรูปแบบการพยากรณ์สำหรับราคาเม็ดพลาสติก PP ในประเทศไทย จุดประสงค์ของงานวิจัยนี้เพื่อหาตัวแบบการพยากรณ์ราคาเม็ดพลาสติก PP ที่ให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำที่สุด โดยใช้ค่าร้อยละความคลาดเคลื่อนสัมบูรณ์เฉลี่ย (MAPE) เป็นเกณฑ์ในการเปรียบเทียบประสิทธิภาพของตัวแบบพยากรณ์ ซึ่งตัวแบบพยากรณ์อนุกรมเวลาที่ใช้ในการทำวิจัยครั้งนี้ได้แก่ ตัวแบบพยากรณ์ปรับเรียบเอกซ์โพเนนเชียลแบบโฮลท์และวินเทอร์ ตัวแบบพยากรณ์ SARIMA ตัวแบบพยากรณ์เชิงสาเหตุที่ใช้คือ ตัวแบบพยากรณ์ถดถอยเชิงเส้นพหุคูณ ตัวแบบพยากรณ์เทคนิคการเรียนรู้ด้วยเครื่องที่ใช้คือ ตัวแบบพยากรณ์ Support Vector Regression ตัวแบบพยากรณ์ Decision Tree ตัวแบบพยากรณ์ Random Forest ตัวแบบพยากรณ์ XGBoost ตัวแบบพยากรณ์ Artificial Neural Networks และตัวแบบพยากรณ์ผสมที่เกิดจากการนำตัวแบบพยากรณ์เดี่ยวที่มีความแม่นยำสูงมาจับคู่กัน โดยในงานวิจัยนี้ได้ใช้ข้อมูลราคาเม็ดพลาสติก PP ตั้งแต่ เดือนมกราคม พ.ศ. 2554 ถึง เดือนธันวาคม พ.ศ. 2565 จากผลการศึกษาพบว่าตัวแบบพยากรณ์ผสม SARIMA – ANN มีความแม่นยำสูงที่สุดและมีค่าร้อยละความคลาดเคลื่อนสัมบูรณ์เฉลี่ยในช่วงชุดข้อมูลตรวจสอบอยู่ที่ 5.54% และเมื่อนำมาประเมินประสิทธิภาพกับชุดข้อมูลทดสอบจะได้ค่าร้อยละความคลาดเคลื่อนสัมบูรณ์เฉลี่ยเท่ากับ 6.92%


การลดของเสียที่เกิดจากการถ่ายเทประจุไฟฟ้าสถิต ในกระบวนการผลิตเน็ตเวิร์กสวิตช์ด้วยวิธีการซิกซ์ซิกม่า, จีรนันท์ มณีวรรณ Jan 2022

การลดของเสียที่เกิดจากการถ่ายเทประจุไฟฟ้าสถิต ในกระบวนการผลิตเน็ตเวิร์กสวิตช์ด้วยวิธีการซิกซ์ซิกม่า, จีรนันท์ มณีวรรณ

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแนวทางการปรับปรุงในกระบวนการผลิต เพื่อลดจำนวนชิ้นงานที่เกิดข้อบกพร่องทางไฟฟ้าจากสาเหตุไฟฟ้าสถิตระหว่างการทดสอบฟังก์ชั่นทางไฟฟ้า งานวิจัยนี้ได้เสนอแนวทางควบคุมคุณภาพโดยใช้แนวทางของซิกซ์ซิกม่าเพื่อปรับปรุงข้อบกพร่องทางไฟฟ้าของผลิตภัณฑ์เน็ตเวิร์กสวิตช์ ขั้นตอนในการวิจัยประกอบไปด้วย 5 ขั้นตอนได้แก่ ขั้นตอนการกำหนดปัญหา (Define phase) การวัดเพื่อกำหนดสาเหตุของปัญหา (Measure phase) ขั้นตอนการวิเคราะห์สาเหตุของปัญหา (Analyze phase) การปรับปรุงแก้ไขปัญหา (Improve phase) และขั้นตอนการควบคุมกระบวนการ (Control phase) จากนั้นบริษัทกรณีศึกษาจึงได้จัดตั้งทีมงานเพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยสามารถระบุกระบวนการที่ก่อให้เกิดปัญหาได้แก่ สถานีโหลดด้วยมือและการบัดกรีด้วยคลื่น สถานีสวมอัดชิ้นงานและสถานีทดสอบทางไฟฟ้า ในการดำเนินงานวิจัยเพื่อวิเคราะห์สาเหตุและแนวทางการปรับปรุงมีการนำเครื่องมือทางสถิติมาช่วยวิเคราะห์ผลการทดสอบสมมุติฐานเพื่อหาปัจจัยนำเข้าที่ส่งผลต่อข้อบกพร่องของชิ้นงาน เมื่อสามารถระบุสาเหตุของปัญหาได้แล้วจึงได้นำปัจจัยเหล่านั้นมาทำการปรับปรุงและทำการเปรียบเทียบจำนวนข้อบกพร่องภายหลังการปรับปรุงกับกระบวนการก่อนการปรับปรุง ผลการดำเนินการปรับปรุงพบว่าสัดส่วนของเสียในระยะเวลา 6 เดือน ลดลงจากก่อนปรับปรุง 19,162.88 DPPM เป็น 10,528.02 DPPM ลดลง 0.86 เปอร์เซนต์ การปรับปรุงนี้สามารถลดต้นทุนจากการผลิตของเสียได้เป็นจำนวนเงินเฉลี่ย 10,370.08 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน


Optimizing Energy Efficiency Projects In Bangkok Large Commercial Buildings, Angelica Arisa Morgan Jan 2022

Optimizing Energy Efficiency Projects In Bangkok Large Commercial Buildings, Angelica Arisa Morgan

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

As a significant contributor to greenhouse gas emissions in the Asia Pacific region, Thailand has pledged to lower its GHG emissions by 555 million tCO2e by the year 2030. In Bangkok, energy efficiency projects in the large commercial buildings sector are an integral method by which to reduce emissions and to support a lower carbon future. Besides carbon dioxide emissions, energy efficiency projects also have the potential for other benefits including electricity and cost savings. This study develops a methodology to quantify the emissions reduction, electricity savings, and cost savings potential of various energy efficiency methods in this sector, and …


การคาดการณ์เวลาเดินทางบนท้องถนนระหว่างพิกัดสองจุดในกรุงเทพมหานคร ด้วยวิธีการเรียนรู้ของเครื่อง, ปวริศ เวชวรรณกิจกุล Jan 2022

การคาดการณ์เวลาเดินทางบนท้องถนนระหว่างพิกัดสองจุดในกรุงเทพมหานคร ด้วยวิธีการเรียนรู้ของเครื่อง, ปวริศ เวชวรรณกิจกุล

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ระยะเวลาเดินทางบนท้องถนนในกรุงเทพมหานครนั้นมีความไม่แน่นอน เนื่องจากความแออัดของการจราจร อย่างไรก็ดี ข้อมูลดังกล่าวกลับมีความสำคัญในการจัดเส้นทางการเดินรถเพื่อธุรกิจ ซึ่งส่วนใหญ่มักใช้ค่าประมาณการณ์ซึ่งอาจมีความคลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง ส่งผลทำให้ประสิทธิภาพของแผนงานดังกล่าวลดต่ำลง ด้วยเหตุดังกล่าว ผู้วิจัยจึงได้ทำการพัฒนาตัวแบบที่สามารถการคาดการณ์ระยะเวลาเดินทางบนท้องถนนในกรุงเทพมหานครด้วยการเรียนรู้ของเครื่อง โดยอ้างอิงจากข้อมูลที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทำให้ผู้ใช้งานสามารถนำไปใช้พัฒนา หรือบูรณาการร่วมกับแผนงานเดิมได้ เริ่มต้น ผู้วิจัยได้ทำการเก็บข้อมูล Mobile Probe จาก iTIC foundation จากนั้นจึงแปลงข้อมูลดังกล่าวออกเป็น Origin-Destination Pairs แล้วคัดเลือกเฉพาะชุดข้อมูลที่มีพิกัดอยู่ภายในเขตกรุงเทพมหานครไปใช้สร้างต้นแบบการเรียนรู้ของเครื่องผ่านอัลกอริทึมแบบต่าง ๆ จนได้อัลกอริทึมที่สามารถสร้างต้นแบบที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดได้ ผู้วิจัยพบว่า จากอัลกอริทึมต่าง ๆ Random forest ถือเป็นอัลกอริทึมที่สามารถสร้างต้นแบบที่มีศักยภาพสูงที่สุด ในขณะที่ XGBoost และ CatBoost มีแนวโน้มที่ดีในการนำไปพัฒนาต่อ เนื่องจากใช้ระยะเวลาในการสร้างต้นแบบน้อย


Analyzing Impact Of Economic Indicators On Vietnam Stock Market With Machine Learning Techniques, Nuttawan Sangsawai Jan 2022

Analyzing Impact Of Economic Indicators On Vietnam Stock Market With Machine Learning Techniques, Nuttawan Sangsawai

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

The study provides an analysis of the Vietnamese stock market using statistical and machine learning models. The dataset shows that all features have a positive linear relationship with the VN Index, but exhibit different scales and degrees of skewness. The Augmented Dickey-Fuller (ADF) unit root test was conducted to identify whether the variables were stationary or non-stationary, and most variables were transformed into stationary data through first differencing. The OLS method was used to construct a short run model, and the results indicated that only three variables, namely CPI, exchange rate, and S&P500 index, exhibited statistical significance. The ARDL Bound …


Impacts Of The Thai Canal On Liner Shipping Container Network, Krittitee Yanpisitkul Jan 2022

Impacts Of The Thai Canal On Liner Shipping Container Network, Krittitee Yanpisitkul

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

This thesis proposes a mathematical model that imitates the flow of containers in the container liner shipping network — particularly, in the Indo-Pacific region, where the Strait of Malacca is located — in order to assess the potential impact of the proposed Thai Canal on such a network. This model is constructed based on a combination of two network problems, namely (i) the Multi-commodity Minimum Cost Network Flow Problem (MCNFP) and (ii) the Liner Shipping Fleet Deployment Problem (LSFDP), which allows a more realistic representation of international trade, while taking to account congestion at container ports at the same time. …


การปรับปรุงอัตราความพร้อมใช้งานเครื่องจักรในกระบวนการติดดาย, ญาณิศา สุรพันธ์ Jan 2022

การปรับปรุงอัตราความพร้อมใช้งานเครื่องจักรในกระบวนการติดดาย, ญาณิศา สุรพันธ์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยฉบับนี้มีจุดประสงค์เพื่อปรับปรุงประสิทธิผลโดยรวมของเครื่องจักรและอัตราการใช้ประโยชน์ที่กระบวนการติดดาย เนื่องจากกระบวนการติดดายเป็นกระบวนหลักที่สำคัญในการผลิตแผงวงจรรวม โดยงานวิจัยนี้ได้เริ่มทำการศึกษาจากการรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์เครื่องจักรแต่ละรุ่นในกระบวนการติดดาย ซึ่งพบว่าเครื่องจักรรุ่น ESEC 2100XP มีเวลาสูญเสียเกิดขึ้นมากที่สุด โดยจากการวิเคราะห์ด้วยแผนผังพาเรโต พบว่าการปรับตั้งเครื่องจักรประเภทเปลี่ยนลีดหรือเปลี่ยนผลิตภัณฑ์มีความสูญเสียเกิดขึ้นมากที่สุด คิดเป็น 47 เปอร์เซ็นต์ของเวลาสูญเสียทั้งหมด จากนั้นทำการวิเคราะห์ปัญหาโดยใช้แผนผังก้างปลา และหาแนวทางในการปรับปรุงโดยมีการใช้เทคนิค SMED เข้ามาประยุกต์ใช้เพื่อลดเวลาในการปรับตั้งเครื่องจักรให้ลดลง และหลังจากการปรับปรุงพบว่าสามารถลดเวลาปรับตั้งเครื่องจักรลงได้ 18 เปอร์เซ็นต์ ทำให้อัตราความพร้อมใช้งานเครื่องจักรเพิ่มขึ้นเป็น 84.57 เปอร์เซ็นต์ หรือเพิ่มขึ้น 3 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งส่งผลให้ค่าประสิทธิผลโดยรวมของเครื่องจักรเพิ่มเป็น 81.28 เปอร์เซ็นต์ และมีค่าอัตราการใช้ประโยชน์เพิ่มขึ้นเป็น 62.35 เปอร์เซ็นต์


การพยากรณ์สินค้าคงค้างด้วยการเรียนรู้ของเครื่องสำหรับข้อมูลไม่สมดุล, ธิรดา ธาดาจิรสกุล Jan 2022

การพยากรณ์สินค้าคงค้างด้วยการเรียนรู้ของเครื่องสำหรับข้อมูลไม่สมดุล, ธิรดา ธาดาจิรสกุล

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การใช้การเรียนรู้ของเครื่องในการพยากรณ์สินค้าคงค้างกับข้อมูลที่มีรายการสินค้าเป็นจำนวนมากจึงเป็นเรื่องที่จำเป็น ซึ่งในความเป็นจริงข้อมูลที่เจอมักมีความไม่สมดุลทำให้ประสิทธิภาพในการพยากรณ์ด้วยการเรียนรู้ของเครื่องลดลง การพยากรณ์สินค้าคงค้างที่ไม่ถูกต้องนั้นส่งผลต่อความไว้วางใจของผู้ซื้อและทำให้เสียค่าใช้จ่ายถึงร้อยละ 10 ของรายได้ งานวิจัยฉบับนี้จึงได้ศึกษาการปรับสมดุลข้อมูลด้วยวิธี Threshold Moving และการปรับระดับข้อมูลด้วยวิธีสุ่มเพื่อสร้างตัวแบบที่มีประสิทธิภาพและมีความสามารถในการพยากรณ์ข้อมูลกลุ่มน้อยสูง โดยวิธีการปรับระดับข้อมูลมี 4 วิธีได้แก่ การปรับลดข้อมูลด้วยวิธี NearMiss-3, การปรับลดข้อมูลด้วยวิธี OSS, การปรับเพิ่มข้อมูลด้วยวิธี SMOTE และการปรับลดผสมกับเพิ่มข้อมูลด้วยวิธี OSS ผสม SMOTE โดยอัลกอริทึมที่ใช้ได้แก่ LOGIST, FOREST และ XGBoost นอกจากนี้มีการใช้การตรวจสอบแบบไขว้แบบ 5 กลุ่มกับตัวแบบเพื่อป้องกันการเกิด Overfitting ในวิจัยฉบับนี้มีการวัดประสิทธิภาพของตัวแบบด้วย AUROC, F1 score และ G-Mean ซึ่งผลที่ได้จากงานวิจัยฉบับนี้คือการจัดการข้อมูลด้วย Threshold Moving ด้วยการวัดประสิทธิภาพ G-Mean นั้นให้น้ำหนักกับข้อมูลกลุ่มน้อยมากกว่า F1 score และให้ผลลัพธ์ดีกว่า AUROC โดยวิธีการที่ให้ผลลัพธ์ดีที่สุดคือการจัดการข้อมูลด้วย Threshold Moving ด้วยการวัดประสิทธิภาพ G-Mean สำหรับอัลกอริทึม Forest ซึ่งได้ค่าประมาณ 0.8737


ปัจจัยที่ส่งอิทธิพลต่อการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย : การประยุกต์ใช้วิธีการดีมาเทล, ธนะรัตน์ บริสุทธิ์ Jan 2022

ปัจจัยที่ส่งอิทธิพลต่อการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย : การประยุกต์ใช้วิธีการดีมาเทล, ธนะรัตน์ บริสุทธิ์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ปัจจุบันจำนวนผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด แต่ก็ยังมีจำนวนไม่มากนัก เมื่อเทียบกับจำนวนผู้ใช้งานรถยนต์แบบสันดาปที่มีมาแต่ดั้งเดิม ซึ่งปัญหาดังกล่าวอาจมีที่มาจากหลากหลายปัจจัย งานวิจัยนี้จึงถูกจัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาปัจจัยที่ส่งอิทธิพล และมีผลกระทบต่อการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย และระบุลำดับความสำคัญของปัจจัย รวมถึงระบุกลุ่มความสัมพันธ์เชิงสาเหตุและผลกระทบระหว่างปัจจัยที่ส่งอิทธิพลต่อการใช้รถยนต์ไฟฟ้าของผู้บริโภคใน ประเทศไทย ตลอดจนเพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยกลุ่มสาเหตุและกลุ่มผลกระทบที่ส่งผลกระทบต่อกัน โดยมุ่งเน้นไปที่สามปัจจัยหลัก ได้แก่ ปัจจัยการยอมรับเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า ปัจจัยการตัดสินใจที่มีผลต่อการ ซื้อ-ใช้ รถยนต์ไฟฟ้า และปัจจัยเชิงนโยบายที่ส่งผลต่อการ ซื้อ-ใช้ รถยนต์ไฟฟ้า การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณซึ่งใช้แบบสอบถามในการเก็บข้อมูลจากกลุ่มผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย จำนวน 218 ตัวอย่าง จากนั้นจึงนำผลที่ได้มาวิเคราะห์ด้วยวิธีการทางสถิติ และการวิเคราะห์องค์ประกอบ (Factor Analysis) เพื่อทำการลดจำนวนตัวแปรที่ไม่เกี่ยวข้องออก รวมถึงทำการจัดกลุ่มของปัจจัยใหม่ ก่อนที่จะนำไปเก็บข้อมูลจากกลุ่มผู้เชี่ยวชาญจำนวน 17 ท่าน และนำผลที่ได้ไปวิเคราะห์ตามวิธีการดีมาเทลต่อไป ผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยที่มีความสำคัญที่สุดสำหรับปัจจัยการยอมรับเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า ได้แก่ ปัจจัยทัศนคติที่มีต่อการใช้งาน และปัจจัยเชิงสาเหตุที่ส่งผลกระทบต่อปัจจัยอื่นๆ มากที่สุด ได้แก่ ปัจจัยบรรทัดฐานส่วนบุคคล ในขณะที่ปัจจัยที่มีความสำคัญที่สุดสำหรับปัจจัยการตัดสินใจที่มีผลต่อการ ซื้อ-ใช้ รถยนต์ไฟฟ้า ได้แก่ ปัจจัยทางด้านผลิตภัณฑ์ และยังเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อปัจจัยอื่นๆ มากที่สุด อีกด้วย สำหรับปัจจัยเชิงนโยบายที่ส่งผลต่อการ ซื้อ-ใช้ รถยนต์ไฟฟ้า ปัจจัยที่มีความสำคัญที่สุด ได้แก่ ปัจจัยนโยบายแรงจูงใจการซื้อ และนอกจากนี้ปัจจัยนโยบายแรงจูงใจการซื้อยังเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อปัจจัยอื่นๆ มากที่สุดอีกด้วยเช่นเดียวกัน ผู้วิจัยคาดว่า ผลที่ได้จากการวิจัยจะเป็นประโยชน์ในการกำหนด พัฒนา และปรับปรุงนโยบายของภาครัฐบาล และเอกชนในการส่งเสริมการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า ตลอดจนการส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมการผลิต และการลงทุนในธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยให้ยั่งยืนต่อไปในอนาคต


การออกแบบระบบการวางแผนการผลิตโรงงานผลิตยา, ปวีณ์ธิดา เนียมชื่น Jan 2022

การออกแบบระบบการวางแผนการผลิตโรงงานผลิตยา, ปวีณ์ธิดา เนียมชื่น

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การแข่งขันในอุตสาหกรรมยามีแนวโน้มสูงขึ้นจากคู่แข่งทางการค้าที่เพิ่มมากขึ้นและจากการแข่งขันทางด้านราคา ระบบการวางแผนการผลิตที่ดีจะช่วยสนับสนุนให้โรงงานผู้ผลิตยามีระดับการให้บริการที่สามารถตอบสนองความต้องการภายใต้สภาพตลาดที่มีการแข่งขันสูงและความต้องการที่มีความผันผวนได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีต้นทุนการผลิตที่เหมาะสม โรงงานกรณีศึกษามีระบบการวางแผนการผลิตที่ยังไม่ดีมากนัก ใช้การวางแผนการผลิตด้วยมือและพึ่งพาการตัดสินใจของผู้วางแผนเป็นหลัก จึงทำให้เกิดสินค้าขาดคงคลังอยู่บ่อยครั้งและไม่สามารถส่งมอบสินค้าได้ตามกำหนด งานวิจัยนี้จึงมุ่งเน้นการออกแบบระบบการวางแผนการผลิตของโรงงานผลิตยาและสร้างเครื่องมือที่ช่วยในการวางแผนการผลิตและการตัดสินใจเพื่อให้สามารถผลิตสินค้าได้เพียงพอและทันต่อความต้องการของลูกค้า โดยเริ่มจากการกำหนดนโยบายการผลิตโดยใช้นโยบายพัสดุคงคลัง สร้างแบบแผนการคำนวณรายการและปริมาณที่ต้องผลิตและแบบแผนกระบวนการคิดและเกณฑ์การตัดสินใจในการจัดลำดับการผลิต โดยใช้วิธีทำงานที่ถึงวันส่งมอบเร็วที่สุดก่อน (Earliest due date) และสร้างออกมาเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวางแผนการผลิตในรูปแบบแผ่นตารางการทำงาน (Spread sheet) ที่มีความง่ายและสะดวกต่อการใช้งาน การสร้างหรือการพัฒนาเครื่องมือ และไม่ต้องใช้เงินลงทุนเพิ่มเติม เมื่อทดสอบประสิทธิผลของระบบการวางแผนการผลิตที่สร้างขึ้นโดยใช้ข้อมูลปริมาณการขายที่เกิดขึ้นจริง พบว่า ค่าเฉลี่ยของระดับการให้บริการสูงขึ้นถึง 99% (ค่าเฉลี่ยของอัตราการเติมเต็มสินค้า 100%) โดยที่คำสั่งการผลิตรวมลดลง 6% และมูลค่าสินค้าคงคลังเฉลี่ยลดลง 4% เมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้จากการวางแผนการผลิตเดิม ซึ่งการผลิตดังกล่าวสามารถดำเนินการผลิตได้จริงตามกำลังการผลิตที่มีในปัจจุบัน ทั้งในแง่มุมเครื่องจักร พนักงาน และพื้นที่การจัดเก็บสินค้า ในด้านประสิทธิภาพของระบบการวางแผนการผลิตที่สร้างขึ้นสามารถปรับเปลี่ยนขั้นตอนการทำงานบางขั้นตอนจากการทำงานด้วยมือเป็นระบบอัตโนมัติ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าระบบการวางแผนการผลิตที่สร้างขึ้นเป็น 1 ในวิธีที่สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในการวางแผนการผลิตของโรงงานผลิตยาแห่งนี้ได้


การลดแผงยาเสียในกระบวนการบรรจุยาเม็ด, ทิวานันท์ มณีรัตน์ Jan 2022

การลดแผงยาเสียในกระบวนการบรรจุยาเม็ด, ทิวานันท์ มณีรัตน์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อลดสัดส่วนแผงเสียของบรรจุภัณฑ์อะลูมิเนียมฟอยล์ ในรูปแบบแผงสตริพที่เป็นแผงยาเสียจากการซีลไม่สมบูรณ์ซึ่งเป็นข้อบกพร่องที่พบมากที่สุด การดำเนินงานวิจัยเริ่มจากทำการวิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหาและปัจจัยที่เกี่ยวข้องด้วยแผนภาพแสดงสาเหตุและผล (Cause and Effect Diagram) พร้อมทั้งคัดกรองปัจจัยโดยใช้คะแนนความสัมพันธ์ระหว่างสาเหตุและผล (Cause and Effect Matrix) และการวิเคราะห์ลักษณะข้อบกพร่องและผลกระทบ (FMEA : Failure Mode and Effect Analysis) โดยการประเมินตัวเลขแสดงความเสี่ยง (RPN : Risk Priority Number) ซึ่งจากการคัดกรองปัจจัยที่เกี่ยวข้อง พบว่าปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดแผงยาเสียประเภทแผง Seal ไม่สมบูรณ์ ได้แก่ อุณหภูมิของ Sealing Roller, ความเร็วในการหมุน Sealing Roller, ความตึงของฟอยล์ด้านพิมพ์และด้านไม่พิมพ์ เริ่มด้วยการทดลองแบบทีละปัจจัย (OFAT : One Factor at a Time) เพื่อทดสอบสมมติฐานว่าความแตกต่างของความตึงของฟอยล์ทั้งสองด้านไม่มีผลต่อสัดส่วนแผงยาเสีย พบว่าการปรับระดับความตึงของฟอยล์ทั้งสองด้านให้เท่ากัน ทำให้เกิดแผงยาเสียน้อยกว่าการปรับความตึงต่างระดับกัน จึงคัดกรองเหลือเพียง 3 ปัจจัย คือ อุณหภูมิของ Sealing Roller, ความเร็วในการหมุน Sealing Roller, ความตึงของฟอยล์ทั้งสองด้าน และได้ทำการประยุกต์ใช้หลักการออกแบบการทดลองแบบแฟคทอเรียลเต็มรูป (General Full Factorial Design) เพื่อหาระดับปัจจัยที่เหมาะสม จากการทดลองพบว่าระดับปัจจัยที่เหมาะสม คือ อุณหภูมิของ Sealing Roller เท่ากับ 130 0C, ความเร็วในการหมุน Sealing Roller เท่ากับ 14 rpm, ความตึงของฟอยล์ทั้งสองด้าน คือ ระดับ 7 โดยเมื่อนำระดับปัจจัยที่ได้มาปรับใช้ในกระบวนการบรรจุยาเม็ดในรูปแบบแผง Strip พบว่าสัดส่วนแผงยาเสียประเภทแผง Seal ไม่สมบูรณ์เฉลี่ยต่อวันลดลงจาก 4.82% เหลือเพียง 1.38%


การปรับเปลี่ยนชนิดของคลิปทองแดงในผลิตภัณฑ์แผงวงจรรวมเพื่อลดต้นทุนการผลิต, ภัทรนันท์ ภูรินันทน์ Jan 2022

การปรับเปลี่ยนชนิดของคลิปทองแดงในผลิตภัณฑ์แผงวงจรรวมเพื่อลดต้นทุนการผลิต, ภัทรนันท์ ภูรินันทน์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ในปัจจุบันอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทยมีการขยายตัวขึ้นอย่างมาก มีการเข้ามาตั้งรากฐานการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์เป็นอุตสาหกรรมที่สำคัญอุตสาหกรรมหนึ่งของประเทศไทย ซึ่งมีการส่งออกคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 90-95 ของปริมาณการผลิตทั้งหมด ด้วยความต้องการที่เพิ่มสูงมากขึ้นทำให้มีผลกระทบกับห่วงโซ่อุปทานในส่วนของอุตสาหกรรมกลางน้ำ นั่นคือปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนของแผงวงจรรวม ซึ่งจากการศึกษาประเภทของผลิตภัณฑ์ของแผงวงจรรวม พบว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์คลิปทองแดงหรือที่เรียกกันว่า Cu clip product เป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกนำไปใช้ในกลุ่มอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์และอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในชีวิตประจำวันมากที่สุด เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความต้านทานต่ำ ช่วยให้อุปกรณ์ทนต่อความร้อนได้ดี และมีความทนทานที่ค่อนข้างสูงมากกว่าชนิดอื่นๆ ด้วยเหตุนี้ทางผู้จัดทำจึงเกิดความสนใจที่จะทำการศึกษาผลิตภัณฑ์คลิปทองแดง รวมถึงกระบวนการในการผลิตเพื่อตรวจสอบความเป็นไปได้ในการที่จะปรับเปลี่ยนชนิดของคลิปทองแดงในผลิตภัณฑ์เพื่อลดต้นทุนในการผลิต เนื่องจากการศึกษาพบว่าราคาต้นทุนของผลิตภัณฑ์คลิปทองแดงมาจากกลุ่มวัตถุดิบ ซึ่งคิดเป็น 56 % จากราคาต้นทุนทั้งหมด และราคาวัตถุดิบที่แพงที่สุดได้แก้ คลิปทองแดง แต่เนื่องจากคลิปทองแดงชนิดใหม่นี้มีขนาดในบางจุดที่แตกต่างจากเดิม จึงต้องทำการเลือกใช้พารามิเตอร์ให้เหมาะสม โดยใช้วิธีการออกแบบการทดลองเพื่อหาค่าพารามิเตอร์ที่เหมาะสมจากวิธีการ 2k full factorial design มาเป็นเครื่องมือ รวมถึงศึกษาจุดคุ้มในการปรับเปลี่ยนครั้งนี้ด้วย


การพัฒนาระบบฐานข้อมูลสำหรับการผลิตยางรถยนต์รุ่นใหม่, วัชรพงศ์ วชิรวงศ์บุรี Jan 2022

การพัฒนาระบบฐานข้อมูลสำหรับการผลิตยางรถยนต์รุ่นใหม่, วัชรพงศ์ วชิรวงศ์บุรี

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

วิทยานิพนธ์นี้ได้วิเคราะห์ ออกแบบและพัฒนาระบบฐานข้อมูลสำหรับการผลิตยางรถยนต์รุ่นใหม่ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความหยืดหยุ่นในการผลิตของโรงงานกรณีศึกษาและความแปรผันของความต้องการของตลาดรถยนต์ ซึ่งเป็นโรงงานผลิตยางรถยนต์ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย งานวิจัยนี้ได้นำการเสนอการออกแบบและพัฒนาระบบฐานข้อมูลสำหรับการผลิตยางรถยนต์รุ่นใหม่ เพื่อช่วยในการลดระยะเวลาในการศึกษาความเป็นไปได้ในการผลิตยางรถยนต์รุ่นใหม่ และช่วยในการตัดสินใจในการลงทุนเกี่ยวกับการซื้อเครื่องจักรเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า เนื่องด้วยโรงงานกรณีศึกษาเป็นโรงงานที่ก่อตั้งเพื่อผลิตยางรถยนต์โดยสารทั่วไป เช่น รถเก๋ง รถกระบะ รถSUV เพื่อยางที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 14-19 นิ้ว แต่ไม่สามารถตอบได้ว่าผลิตยางรถยนต์รุ่นอื่นได้หรือไม่ จากการทดสอบโปรแกรมที่ถูกออกแบบและพัฒนาขึ้น พบว่าระยะเวลาการทำงานลดเหลือ 2 สัปดาห์ จากการทำงานเดิม 5 สัปดาห์ ซึ่งคิดเป็น 60% ของระยะเวลาที่ลดลงจากการทำงานของพนักงาน โดยเป็นการใช้ระบบฐานข้อมูลและช่วยในการศึกษาความเป็นไปได้ในการผลิตยางรถยนต์รุ่นใหม่ผ่านการใช้โปรแกรม แทนการใช้อีเมล (email) หรือไฟล์เอ็กเซล (Excel file) ในการสื่อสารระหว่างพนักงาน ช่วยลดจำนวนครั้งในการติดต่อระหว่างพนักงานเพื่อสอบถามเกี่ยวกับข้อมูล ทำให้ข้อมูลมีความแม่นยำมากขึ้นและลดความผิดพลาดที่เกิดจากพนักงานด้วย


แบบจำลองระบบจอดรถอัตโนมัติเพื่อประเมินประสิทธิภาพของระบบ, อลงกรณ์ พรสุขศิริ Jan 2022

แบบจำลองระบบจอดรถอัตโนมัติเพื่อประเมินประสิทธิภาพของระบบ, อลงกรณ์ พรสุขศิริ

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ระบบจอดรถอัตโนมัตินั้นสามารถช่วยลดปัญหาเกี่ยวกับที่จอดรถ และช่วยให้การลงทุนในด้านอสังหาริมทรัพย์นั้นมีความคุ้มค่ามากขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดขนาดของพื้นที่ที่ต้องใช้สำหรับจอดรถได้อีกด้วย ปัจจุบันระบบจอดรถอัตโนมัติมีหลายประเภทขึ้นอยู่กับผู้ผลิตรายนั้นๆ โดยงานวิจัยฉบับนี้จะมุ่งเน้นไปที่การศึกษาเกี่ยวกับปัจจัยในการเลือกใช้ระบบจอดรถอัตโนมัติระหว่างระบบจอดรถอัตโนมัติชนิดถาด(Pallet type) และระบบจอดรถอัตโนมัติชนิดหุ่นยนต์(Robot type) ทั้งในด้านต้นทุน ปริมาณการใช้พลังงานไฟฟ้า และประสิทธิภาพของระบบโดยทั่วไป ประสิทธิภาพของระบบจอดรถอัตโนมัติจะคำนวณจากเวลาเฉลี่ยระหว่างตำแหน่งที่จอดรถที่ใกล้ที่สุดและไกลที่สุดเพียงสองตำแหน่งเท่านั้น จากการคำนวณดังกล่าวส่งผลให้มีความน่าเชื่อถือไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า ดังนั้น งานวิจัยฉนับนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและประเมินประสิทธิภาพของระบบจอดรถอัตโนมัติโดยการเปรียบเทียบระบบจอดรถอัตโนมัติชนิดถาดและระบบจอดรถอัตโนมัติชนิดหุ่นยนต์ ผ่านการแบบจำลองสถานการณ์ด้วยโปรแกรม SIMIO รวมไปถึงการวิเคราะห์ต้นทุน และปริมาณการใช้พลังงานไฟฟ้า จากการศึกษา ผู้วิจัยพบว่าในด้านของประสิทธิภาพของสำหรับกระบวนการนำรถเข้าจอดนั้น ระบบจอดรถอัตโนมัติชนิดหุ่นยนต์มีประสิทธิภาพมากกว่าระบบจอดรถอัตโนมัติชนิดถาด อย่างไรก็ตาม ในกระบวนการนำรถออกจากระบบนั้นระบบจอดรถอัตโนมัติชนิดถาดมีประสิทธิภาพมากกว่าระบบจอดรถอัตโนมัติชนิดหุ่นยนต์ นอกจากนี้ผู้วิจัยยังพบว่าต้นทุนและปริมาณการใช้ไฟฟ้ารวมของระบบจอดรถอัตโนมัติชนิดหุ่นยนต์ต่ำกว่าระบบจอดรถอัตโนมัติชนิดถาด


การศึกษาปัจจัยที่มีผลกระทบต่อค่าสีแก้วโซดาไลม์, ทศพล สุเริงฤทธิ์ Jan 2022

การศึกษาปัจจัยที่มีผลกระทบต่อค่าสีแก้วโซดาไลม์, ทศพล สุเริงฤทธิ์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ในการผลิตแก้วโซดาไลม์ ค่าสีของผลิตภัณฑ์ถือว่าเป็นคุณสมบัติสำคัญที่ต้องควบคุม จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างค่าสีและปัจจัยในกระบวนการผลิตแก้วโซดาไลม์ ดังนั้นจุดประสงค์ของงานวิจัย คือ การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างค่าสี a (สีเขียว-สีแดง) และค่าสี b (สีน้ำเงิน-สีเหลือง) กับปัจจัยที่มาจากวัตถุดิบและเตาหลอมทั้งหมด 10 ปัจจัย ได้แก่ ปริมาณเหล็กออกไซด์รวม ปริมาณโซเดียมซัลเฟต ปริมาณโคบอลต์ อัตราการดึงน้ำแก้ว อุณหภูมิหลังคาเตาหลอมจุดที่สอง อุณหภูมิหลังคาเตาหลอมจุดที่สาม อุณหภูมิใต้เตาหลอมจุดที่สอง อุณหภูมิใต้เตาหลอมจุดที่สาม ค่าสัดส่วนก๊าซเชื้อเพลิงต่อก๊าซออกซิเจน และค่าพลังงานความร้อนของก๊าซเชื้อเพลิง ด้วยการวิเคราะห์การถดถอยแบบขั้นตอน จากข้อมูลสายการผลิตจำนวน 770 ค่า จึงได้แบบจำลองถดถอยของค่าสี a ที่สามารถนำไปใช้งานได้ โดยมีเทอมปัจจัยที่มีนัยสำคัญต่อค่าสี a ทั้งหมด 3 ปัจจัย ได้แก่ ปริมาณเหล็กออกไซด์รวม (X1), ปริมาณโคบอลต์ (X3) และค่าสัดส่วนก๊าซเชื้อเพลิงต่อก๊าซออกซิเจน (X9) ซึ่งมีรูปแบบสมการ คือ a = - 21.07 - 5.202X1 + 5187X3 + 2.151X9 + 117185X32 - 601X3X9 และมีความสัมพันธ์ดังนี้ เมื่อปริมาณเหล็กออกไซด์รวมเพิ่มขึ้น ค่าสี a จะลดลง ทำให้แก้วมีสีเขียวเข้มขึ้น แต่ถ้าปริมาณโคบอลต์และค่าสัดส่วนก๊าซเชื้อเพลิงต่อก๊าซออกซิเจนเพิ่มขึ้น ค่าสี a จะเพิ่มขึ้น ทำให้แก้วมีสีเขียวอ่อนลง เนื่องจากโรงงานกรณีศึกษามีความต้องการให้ผลิตภัณฑ์แก้วโซดาไลม์สีเขียวอมฟ้าเล็กน้อย จึงกำหนดค่าเป้าหมายให้ค่าสี a เท่ากับ -1.22 และค่าต้นทุนรวมของวัตถุดิบ 3 ชนิดมีค่าต่ำที่สุด จากการหาค่าที่เหมาะสมของปัจจัยที่สามารถทำให้เกิดค่าความพึงพอใจโดยรวมของผลตอบของตัวแปรตอบสนองทั้งสองมีค่าสูงที่สุด เป็น 0.82 ด้วยการปรับตั้งค่าปัจจัย ดังนี้ ปริมาณเหล็กออกไซด์รวมเป็น ร้อยละ 0.0618 ปริมาณโซเดียมซัลเฟตเป็น 10.8 กิโลกรัม ปริมาณโคบอลต์ 0.003911 กิโลกรัม และค่าสัดส่วนก๊าซเชื้อเพลิงต่อก๊าซออกซิเจนเป็น 9.60202 ทำให้ได้ค่าสี a เท่ากับ -1.22346 และค่าต้นทุนรวมของวัตถุดิบ …


การลดของเสียจากการรั่วของถุงลมในกระบวนการอบยาง, นินวัฒน์ นำลาภ Jan 2022

การลดของเสียจากการรั่วของถุงลมในกระบวนการอบยาง, นินวัฒน์ นำลาภ

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยนี้มีจุดประสงค์เพื่อการลดอัตราของเสียที่เกิดขึ้นในแผนกอบยางของบริษัทผลิตยางรถยนต์แห่งหนึ่ง และเพื่อการควบคุมกระบวนการผลิตให้เกิดการกระจายตัวที่น้อยลง (Variation Reduction) โดยมุ่งเน้นในการสร้างมาตรฐานในระยะยาวสำหรับการนำไปใช้ในการปรับปรุงกระบวนการผลิต โดยใช้รูปแบบการวิจัยเชิงสถิติมาใช้ในการปรับปรุงคุณภาพในกระบวนการผลิต เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้การบันทึกข้อมูลของเสียที่ได้มาจากฐานข้อมูลของบริษัทกรณีศึกษา ในงานวิจัยนี้ใช้แนวทางในการดำเนินการโดยวิธี ซิกซ์ ซิกมา โดยได้ทำการนำขั้นตอน DMAIC มาใช้ในการปรับปรุงกระบวนการโดยมีทั้งหมด 5 ระยะ ได้แก่ ระยะนิยามปัญหา (Define phase: D) ระยะการวัด (Measure phase: M) ระยะการวิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหา (Analysis phase: A) ระยะการปรับปรุงแก้ไขปัญหา (Improve phase: I) และระยะการตรวจติดตามควบคุม (Control phase: C) วิเคราะห์ข้อมูลและหาปัจจัยที่มีผลทำให้เกิดของเสียในกระบวนการผลิตและคัดเลือกปัจจัยดังกล่าวมาทำการออกแบบการทดลองเชิงแฟคทอเรียล ผลจากการปรับปรุงกระบวนการผลิตจากการใช้ค่าการปรับตั้งที่เหมาะสม พบว่าจำนวนของเสียที่เกิดจากการรั่วของถุงลมในกระบวนการอบยางลดลงจากเดิม 884 ppm เหลือ 379 ppm ของเสียที่เปลี่ยนแปลงคิดเป็นร้อยละ 57.13 หรือคิดมูลค่าความเสียหายลดลงไป 760,000 บาท ในส่วนของสัดส่วนของเสียก่อนการปรับปรุงอยู่ที่ร้อยละ 0.06 หลังการปรับปรุงอยู่ที่ร้อยละ 0.03 สัดส่วนของเสียที่เปลี่ยนแปลงคิดเป็นร้อยละ 50


การปรับปรุงการขนส่งภายในของชิ้นส่วนรถยนต์ในโรงงานประกอบ, ปฏิพัทธ์ มณีรัตน์ Jan 2022

การปรับปรุงการขนส่งภายในของชิ้นส่วนรถยนต์ในโรงงานประกอบ, ปฏิพัทธ์ มณีรัตน์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยนี้มุ่งเน้นการปรับปรุงการขนส่งภายในของชิ้นส่วนรถยนต์ในโรงประกอบกรณีศึกษา ปัจจุบันมีอัตราการใช้ประโยชน์ของรถลากไฟฟ้า (E-car) อยู่เพียง 68% โดยพนักงานขับรถลากไฟฟ้า (E-car) จะนำกล่องชิ้นส่วนไปส่งแต่ละจุดความต้องการ (Address) ทั้งหมด 27 จุดตามเส้นทางที่กำหนดไว้ 20 เส้นทาง ซึ่งยังไม่มีประสิทธิภาพเพราะทำให้ระยะทางรวมของเส้นทางการขนส่งมากและใช้รถลากไฟฟ้า (E-car) สำหรับขนส่งทั้งหมด 24 คัน งานวิจัยนี้ประยุกต์วิธีการออกแบบเส้นทางด้วยรูปแบบปัญหา Capacitated Vehicle Routing Problem (CVRP) ซึ่งวัตถุประสงค์สำหรับการออกแบบเส้นทางนี้ เพื่อให้ระยะทางรวมของเส้นทางการขนส่งภายในน้อยที่สุด และยังตอบสนองความต้องการใช้ชิ้นส่วนแต่ละจุดความต้องการ (Address) ได้โดยใช้ปัจจัยนำเข้าเช่น ปริมาณความต้องการใช้ชิ้นส่วน (Demand) แต่ละจุดความต้องการ (Address) ความสามารถในการบรรทุกของรถลากไฟฟ้า (E-car) ระยะทางของแต่ละจุดความต้องการ ผลการจัดเส้นทางใหม่จะได้เส้นทางการขนส่งภายใน 12 เส้นทาง โดยมีการทดสอบรอบเวลาการขนส่งตามเส้นทางการขนส่งแบบใหม่แต่ละรอบคำสั่งซื้อรายวัน เพื่อทำให้มั่นใจว่าเส้นทางที่ออกแบบใหม่นั้นสามารถใช้งานได้จริง ตามปริมาณความต้องการใช้ชิ้นส่วน (Demand) ที่คงที่ของแต่ละจุดความต้องการ (Address) ในโรงงานประกอบ จากการทดสอบพบว่า เส้นทางการขนส่งแบบใหม่สามารถทำให้ระยะทางรวมในการขนส่งชิ้นส่วนต่อรอบคำสั่งซื้อลดลง 26% และมีอัตราการใช้ประโยชน์ของรถลากไฟฟ้า (E-car) เฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 90% หรือมากขึ้นกว่าเดิม 22%


การประยุกต์ใช้โดโลไมต์จากดินตะกอนเหมืองหินปูนสำหรับการผลิตปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ด, กรบงกช วรนาถสุรงค์ Jan 2022

การประยุกต์ใช้โดโลไมต์จากดินตะกอนเหมืองหินปูนสำหรับการผลิตปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ด, กรบงกช วรนาถสุรงค์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประยุกต์ใช้โดโลไมต์จากดินตะกอนเหมืองหินมาเป็นสารตัวเติมผสมกับมูลไก่สำหรับการผลิตปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ด โดยหาสัดส่วนที่ให้คุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐานปุ๋ยอินทรีย์กรมวิชาการเกษตร เพื่อเพิ่มมูลค่าให้ดินตะกอนเหมืองหิน และสามารถลดต้นทุนการผลิตปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ดได้ โดยงานวิจัยนี้ ใช้ดินตะกอนเหมืองหินกรณีศึกษาในจังหวัดชุมพรที่มีคุณสมบัติเทียบเท่าโดโลไมต์ นำมาผสมมูลไก่สำหรับการผลิตปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ดทั้งหมด 7 สัดส่วน ได้แก่ 0:100 (T0), 10:90 (T1), 20:80 (T2), 30:70 (T3), 40:60 (T4), 50:50 (T5) และ 60:40 (T6) และวางแผนการปลูกทดลองแบบสุ่มอย่างสมบูรณ์ (Completely Randomized Design: CRD) กับผักสลัด 2 ชนิด คือ กรีนโอ๊ค และกรีนคอส โดยใช้ดินของจังหวัดปทุมธานี เพื่อทำการเปรียบเทียบกับสัดส่วนที่ควบคุม (T0) จำนวน 3 ซ้ำ ผลการศึกษาพบว่า สัดส่วนที่ T0 – T4 มีคุณสมบัติทางเคมีทั้งหมดผ่านเกณฑ์มาตรฐานปุ๋ยอินทรีย์กรมวิชาการเกษตร คุณสมบัติทางเคมีและทางกายภาพของดินหลังปลูกดีขึ้นโดยเฉพาะสัดส่วนที่ T3 และ T4 สัดส่วนโดโลไมต์ที่มากขึ้นส่งผลให้ดินมีความโปร่งพรุนมากขึ้น ผลการเจริญเติบโตและผลผลิตในสัดส่วนที่ T0 – T4 นั้นไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติทั้งกรีนโอ๊คและกรีนคอส แต่สัดส่วนที่ T4 ให้ผลผลิตน้อยสุด เพราะสัดส่วนของมูลไก่ที่เป็นแหล่งธาตุอาหารพืชหลักของผักสลัดน้อยลง ดังนั้นสัดส่วนโดโลไมต์จากดินตะกอนเหมืองหินกรณีศึกษาแห่งนี้ที่ใช้เป็นสารตัวเติมผสมกับมูลไก่สำหรับการผลิตปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ด ที่ดีที่สุด คือ สัดส่วนของโดโลไมต์ต่อมูลไก่ที่ 30 : 70 (T3) ซึ่งสามารถลดต้นทุนการผลิตปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ดได้ถึง 24.41%


การลดของเสียจากข้อบกพร่องสีแตกและสีบางในกระบวนการพ่นสีฝุ่นบนกรอบกระจกของหลังคารถกระบะอเนกประสงค์, พิชญา วาดสูงเนิน Jan 2022

การลดของเสียจากข้อบกพร่องสีแตกและสีบางในกระบวนการพ่นสีฝุ่นบนกรอบกระจกของหลังคารถกระบะอเนกประสงค์, พิชญา วาดสูงเนิน

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อลดสัดส่วนของเสียที่เกิดจากข้อบกพร่องประเภทสีแตกและสีบางในกระบวนการพ่นสีฝุ่นบนกรอบกระจกของหลังคารถกระบะอเนกประสงค์ งานวิจัยนี้ได้ประยุกต์แนวคิดซิกซ์ ซิกมา (Six-Sigma) หรือวิธีการ DMAIC ในการปรับปรุงโดยเริ่มจากการศึกษาสภาพปัญหาในปัจจุบัน วิเคราะห์ความแม่นและความเที่ยงของระบบการตรวจสอบข้อบกพร่อง จากนั้นได้วิเคราะห์สาเหตุของปัญหาโดยการระดมความคิด จัดทำแผนผังสาเหตุและผล เมทริกซ์สาเหตุและผล เพื่อกำหนดปัจจัยนำเข้าหลัก และนำปัจจัยที่คาดว่ามีผลต่อการเกิดข้อบกพร่องประเภทสีแตกและสีบาง 5 ปัจจัยไปออกแบบการทดลองเพื่อหาสมการความสัมพันธ์ระหว่างสัดส่วนของเสียและปัจจัยที่มีนัยสำคัญ จากนั้นใช้เทคนิคการหาค่าที่เหมาะสม เพื่อหาระดับของแต่ละปัจจัยที่เหมาะสมที่จะช่วยลดสัดส่วนของเสียรวม หลังจากนั้นได้จัดทำแผนควบคุม และเอกสารขั้นตอนการปฏิบัติงาน ผลลัพธ์ที่ได้หลังการปรับปรุงกระบวนการ พบว่า สามารถลดสัดส่วนของเสียจาก 8 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 1.13 เปอร์เซ็นต์ และสามารถลดค่าใช้จ่ายที่เกิดจากของเสียได้ 6,877,484 บาทต่อปี