Open Access. Powered by Scholars. Published by Universities.®

Operations and Supply Chain Management Commons

Open Access. Powered by Scholars. Published by Universities.®

PDF

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

2021

Articles 1 - 30 of 52

Full-Text Articles in Operations and Supply Chain Management

การประเมินประสิทธิภาพระบบขนส่งด้วยกระบวนการกิจกรรมหลักด้านโลจิสติกส์ :กรณีศึกษาบริษัท Abc, นนทกร ธรรมไชยางกูร Jan 2021

การประเมินประสิทธิภาพระบบขนส่งด้วยกระบวนการกิจกรรมหลักด้านโลจิสติกส์ :กรณีศึกษาบริษัท Abc, นนทกร ธรรมไชยางกูร

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยนี้มุ่งเน้นพัฒนาตัวชี้วัดในการประเมินประสิทธิภาพระบบขนส่งด้วยกระบวนการกิจกรรมหลักด้านโลจิสติกส์ด้านการขนส่งและหลักความถูกต้อง ผ่านการทบทวนวรรณกรรมกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อที่จะสรุปปัจจัยหลักด้านโลจิสติกส์สำหรับกำหนดตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้อง จากนั้นผู้วิจัยจึงได้พัฒนาตัวชี้วัดขึ้นจากแนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องขึ้นก่อนนำไปสัมภาษณ์เชิงลึกและนำส่งแบบประเมินปัจจัยเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของตัวชี้วัดให้กลุ่มตัวอย่างที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมขนส่งของบริษัทจำนวน 10 คน เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของตัวชี้วัดที่พัฒนาขึ้น และประเมินลำดับความสำคัญตามค่าน้ำหนักของปัจจัย หลังจากนั้นจึงทำการทดสอบการประเมินประสิทธิภาพระบบขนส่งด้วยข้อมูลย้อนหลัง 1 ปีของบริษัท (พ.ศ. 2562) ผลการศึกษาพบว่า ตัวชี้วัดในการประเมินประสิทธิภาพระบบขนส่งที่เหมาะสม ประกอบด้วย 3 กิจกรรมหลัก คือ การสื่อสาร ขนถ่ายและบรรจุ และการขนส่ง มีกิจกรรมละ 5 มิติ ประกอบด้วย มิติของผลิตภัณฑ์ คุณภาพ สถานที่ เวลา และต้นทุน รวมทั้งหมด 15 ตัวชี้วัด โดยกิจกรรมหลักด้านโลจิสติกที่มีความสำคัญสูงที่สุดคือ กิจกรรมขนถ่ายและบรรจุ รองลงมาคือ การสื่อสาร และการขนส่งตามลำดับ ภาพรวมของการประเมินตัวชี้วัดการขนส่งบริษัทขนส่ง ABC เฉลี่ยอยู่ที่ 4.72 คะแนน แม้ว่าการประเมินผลโดยรวมของบริษัทจะอยู่ในระดับดีมาก แต่กลับพบว่าในตัวชี้วัดระยะเวลาเฉลี่ยการส่งคําสั่งซื้อภายในองค์กรนั้นได้ คะแนนเพียง 2.0 ซึ่งอยู่ในระดับปานกลาง ดังนั้นบริษัทจึงควรให้ความสำคัญในการพัฒนาระบบการสื่อสารภายในองค์กรมากยิ่งขึ้นเพื่อลดผลกระทบและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต


การออกแบบกระบวนการจัดซื้อเครื่องใช้สำนักงานของธุรกิจขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่ง : กรณีศึกษาบริษัท Abc Drilling, มินตรา มณีฉาย Jan 2021

การออกแบบกระบวนการจัดซื้อเครื่องใช้สำนักงานของธุรกิจขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่ง : กรณีศึกษาบริษัท Abc Drilling, มินตรา มณีฉาย

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัญหาด้านการจัดซื้อเครื่องใช้สำนักงานของบริษัทขุดเจาะน้ำมันที่ดำเนินการในประเทศไทย เพื่อเสนอข้อเสนอแนะในการจัดซื้อเครื่องใช้สำนักงานของบริษัทขุดเจาะน้ำมันทั้ง 3 แท่นขุดเจาะของบริษัท ABC Drilling เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและเป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อนำเสนอรูปแบบการจัดซื้อ (Purchasing Model) ที่มีประสิทธิภาพของบริษัท ABC Drilling และจัดทำ Organization Model ด้านการจัดซื้อจัดหา โดยเก็บรวบรวมข้อมูลการจัดซื้อของปี พ.ศ.2563 เพื่อวิเคราะห์ผลงานการจัดซื้อและใช้แบบสอบถามเพื่อจัดทำข้อสรุปและข้อเสนอแนะ ผลการวิจัยพบว่า การทำสัญญาจัดซื้อจัดหา (Fixed Price Agreement) ร่วมกับการทำประมูลแบบอัตโนมัติ (Automatic Bidding) ทำให้แท่นขุดเจาะที่ 1 สามารถประหยัดต้นทุน 5.39 % ส่วนแท่นขุดเจาะที่ 2 สามารถประหยัดต้นทุน 5.90 % และแท่นขุดเจาะที่ 3 สามารถประหยัดต้นทุน 8.03 % ดังนั้นเมื่อบริษัท ABC Drilling ทำสัญญาซื้อขาย (Fixed Price Agreement) ร่วมกับการทำประมูลแบบอัตโนมัติ (Automatic Bidding) จะทำให้บริษัทประหยัดต้นทุนโดยเฉลี่ย 6.44 % และผู้ให้สัมภาษณ์ทุกรายเห็นด้วยว่าควรมีการจัดซื้อแบบไฮบริด (Hybrid Procurement) โดย 85.71 % คิดเห็นว่าสินค้าหมวดหมู่ A ซึ่งเป็นสินค้าที่มีการสั่งซื้อเป็นประจำ โดยมีการสั่งซื้อสินค้าตั้งแต่ 6 รายการขึ้นไป และมียอดสั่งซื้อตั้งแต่ 20,000 บาทต่อปี ควรมีระบบการจัดซื้อแบบรวมอำนาจไว้ที่ส่วนกลาง (Centralization Purchasing) 57.14 % คิดเห็นว่าสินค้าหมวดหมู่ B ซึ่งเป็นสินค้าที่หาซื้อได้ทั่วไป ราคาถูกควรมีระบบการจัดซื้อแบบรวมอำนาจไว้ที่ส่วนกลาง (Centralization Purchasing) และ 71.43 % คิดเห็นว่าสินค้าหมวดหมู่ C ซึ่งเป็นสินค้าที่มีความเฉพาะเจาะจงและต้องตรวจสอบควรมีระบบการจัดซื้อแบบกระจายอำนาจ (Decentralization Purchasing)


การเปรียบเทียบการขนส่งอาหารทะเลแช่แข็ง ระหว่างการจ้างบริษัทภายนอกและการทำการขนส่งเองสำหรับการขายแบบออนไลน์, ชัญญรัชต์ วรัชต์ญารมย์ Jan 2021

การเปรียบเทียบการขนส่งอาหารทะเลแช่แข็ง ระหว่างการจ้างบริษัทภายนอกและการทำการขนส่งเองสำหรับการขายแบบออนไลน์, ชัญญรัชต์ วรัชต์ญารมย์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การวิเคราะห์ต้นทุนในการขนส่งอาหารทะเลแช่แข็ง เพื่อหาทางเลือกที่ดีที่สุดในการขนส่งอาหารทะเลแช่แข็ง ระหว่างการจ้างบริษัทขนส่งและการทำการขนส่งด้วยตนเอง โดยจะมีการนำปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการการขนส่งอาหารทะเลแช่แข็งมาเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจด้วย ได้แก่ ปัจจัยคุณภาพ ปัจจัยด้านเวลา และปัจจัยด้านต้นทุน ผู้วิจัยได้ทำการรวบรวมความคิดเห็นจากผู้บริหารของบริษัทกรณีศึกษา จำนวน 5 ท่าน ในการประเมินลำดับความสำคัญของปัจจัยหลักและปัจจัยรอง เพื่อนำข้อมูลมาผ่านการวิเคราะห์ด้วยหลักการวิเคราะห์ตามลำดับชั้น (Analytic Hierarchy Process : AHP) ผลการวิเคราะห์ต้นทุนในการขนส่งพบว่า การขนส่งด้วยตนเอง มีต้นทุนในการขนส่งที่มากที่สุด ส่วนการขนส่งด้วยตนเองผสมผสานกับการว่าจ้างบริษัทภายนอกจะมีต้นทุนในการขนส่งที่น้อยที่สุด ในส่วนของผลการวิเคราะห์จากหลักการวิเคราะห์ตามลำดับชั้น พบว่า กลุ่มปัจจัยหลัก ปัจจัยคุณภาพมีลำดับความสำคัญมาเป็นลำดับที่ 1 มีค่าเฉลี่ยความสำคัญเท่ากับร้อยละ 68.19 ตามมาด้วยปัจจัยด้านเวลา และปัจจัยด้านต้นทุน มีค่าเฉลี่ยความสำคัญเท่ากับร้อยละ 17.30 และ 14.51 ตามลำดับ เมื่อนำผลการวิเคราะห์มาพิจารณาร่วมกันพบว่า ทางเลือกที่ดีที่สุดในการขนส่งอาหารทะเลแช่แข็ง คือ ทางเลือกที่ว่าจ้างบริษัทขนส่งตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง โดยใช้บริษัทขนส่ง B Express มีผลคะแนนรวมอยู่ที่ 409.49 ตามมาด้วยทางเลือกที่ทางบริษัททำการขนส่งเองตลอดเส้นทาง จากนั้นเป็นทางเลือกที่เป็นการผสมผสานการขนส่งระหว่างทางบริษัทขนส่งเองและใช้บริการบริษัทขนส่ง และสุดท้ายเป็นทางเลือกที่ใช้บริการบริษัทขนส่งตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางการขนส่ง ในกรณีที่ใช้บริษัทขนส่งเป็นบริษัท A Express โดยมีคะแนนรวมเท่ากับ 405.74 336.72 และ 281.36 ตามลำดับ


การเปรียบเทียบรูปแบบการขนส่งการขนส่งแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ในเส้นทาง ไทย-จีน ในช่วง Covid-19, พงศกร เอื้อชีวกุล Jan 2021

การเปรียบเทียบรูปแบบการขนส่งการขนส่งแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ในเส้นทาง ไทย-จีน ในช่วง Covid-19, พงศกร เอื้อชีวกุล

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยนี้เป็นบทนี้สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นโครงการวิจัย ประกอบด้วยการเปรียบเทียบรูปแบบการขนส่งการขนส่งแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ในเส้นทางไทย-จีนในช่วง Covid-19 รูปแบบการขนส่งทางเรือ ทางอากาศ และการขนส่งทางรถข้ามแดนที่เป็นการขนส่งทางหลัก ไปที่ประเทศจีน ในช่วง Covid -19 โดยประเภทสินค้าที่จะทำการศึกษาจะเป็น สินค้าแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ มีวัตถุประสงค์เพื่เปรียบเทียบการลดต้นทุนของการขนส่ง รวมถึงศึกษาประโยชน์ของรูปแบบการขนส่งในรูปแบบต่างๆ ซึ่งในช่วง Covid-19ที่ผ่านมาได้มีหลายปัจจัยที่ทำให้การขนส่งรูปแบบต่างๆเปลี่ยนแปลงไป เริ่มจากรวบรวมข้อมูลด้านการขนส่งในช่วงCovid-19 จากบริษัทกรณีศึกษาพร้อมกับศึกษาข้อมูลจากบริษัทผู้ขนส่งที่สามารถให้บริการได้หลากหลายรูปแบบเพื่อทราบถึงปัญหาในช่วงที่มีโรคระบาดเกิดขึ้นและศึกษาที่ต้นทุนค่าขนส่งแต่ละรูปแบบในช่วงCovid-19 และ ใช้กระบวนการวิเคราะห์ความสำคัญของปัจจัยต่างๆโดยเก็บรวบรวมการให้น้ำหนักจากผู้ผลิตแผงอิเล็กทรอนิกส์โดยกำหนดปัจจัยสำคัญในการขนส่งมา4อย่างได้แก่ ต้นทุนการขนส่งที่ประหยัด ความถี่ในการขนส่งที่สูง ระยะเวลาในการขนส่งที่สั้น และปริมาณการขนส่งต่อรอบจำนวนมาก โดยให้คะแนนการขนส่งทางเรือมากที่สุดเมื่อเปรียบเทียบคะแนนแล้ว แต่เนื่องจากสถานณการณ์ Covid-19 ทำให้การขนส่งทางรถข้ามแดนทางบกมีบทบาทมากขึ้นเนื่องจากสามารถประหยัดต้นทุนรองลงมาจากทางเรือและมีระยะเวลาการขนส่งที่รวดเร็วมากกว่าพร้อมทั้งสามารถกำหนดรอบการวิ่งได้ถี่และมั่นคงมากกว่าทางเรือ ส่วนการขนส่งทางอากาศถึงจะมีต้นทุนที่สูงที่สุดแต่เป็นการขนส่งที่มีระยะเวลาที่รวดเร็วที่สุดจึงจำเป็นอย่างมากในการใช้เติมสายการผลิตที่เร่งด่วนที่ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วง Covid-19 โดยได้ใช้เครื่องมือการหาปริมาณหรือจำนวนการสั่งซื้อสินค้าที่เหมาะสม (Economic Order Quantity) ด้วยสมการทางคณิตศาสตร์ที่เหมาะสม รวมกับการให้คะแนนของทางอื่นปัจจัยอื่นที่มีผลกระทบต่อการจัดส่ง


การวิเคราะห์เปรียบเทียบต้นทุนค่าขนส่งแบบเต็มคันระหว่างใช้ผู้ให้บริการขนส่งกับลงทุนรถขนส่งเอง : กรณีศึกษาบริษัทผู้ผลิตรถบรรทุก, อธิการ ชาติศรีสัมพันธ์ Jan 2021

การวิเคราะห์เปรียบเทียบต้นทุนค่าขนส่งแบบเต็มคันระหว่างใช้ผู้ให้บริการขนส่งกับลงทุนรถขนส่งเอง : กรณีศึกษาบริษัทผู้ผลิตรถบรรทุก, อธิการ ชาติศรีสัมพันธ์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิเคราะห์ความเป็นไปได้ทางด้านต้นทุนในการลงทุนซื้อรถบรรทุกขนส่งสินค้าและบริหารงานขนส่งเอง เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้บริการจากผู้ให้บริการขนส่งอย่างที่ทำอยู่ในปัจจุบัน โดยใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางการเงิน มาใช้ในการประเมินการใช้ประโยชน์และความคุ้มค่าที่จะลงทุน การวิจัยได้วิเคราะห์ถึงความต้องการในการใช้รถบรรทุกขนส่ง 6 ล้อของปีพ.ศ. 2563 พบว่ามีการใช้งานในเขตพื้นที่ 4 จังหวัด คือ จังหวัด ชลบุรี สระบุรี ระยอง และพระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีปริมาณการใช้งานมากน้อยแตกต่างกันไป ซึ่งผู้วิจัยได้ทำการแบ่งเป็น 4 โครงการ คือ โครงการที่ 1 ขอบเขตเฉพาะจังหวัดชลบุรี, โครงการที่ 2 ขอบเขตในจังหวัดชลบุรี และ สระบุรี, โครงการที่ 3 ขอบเขตในจังหวัดชลบุรี สระบุรี และ ระยอง และโครงการที่ 4 ขอบเขตในจังหวัดชลบุรี สระบุรี ระยอง และ พระนครศรีอยุธยาเพื่อประโยชน์ในการตัดสินใจเริ่มต้นโครงการซึ่งแต่ละโครงการมีจำนวนเที่ยวและลงทุนจำนวนรถไม่เท่ากัน ผลการศึกษาพบว่าปริมาณการใช้งานที่มากน้อยมีผลต่อความคุ้มค่าที่จะลงทุนรวมถึงผลตอบแทน และระยะเวลาคืนทุน ซึ่งทั้ง 4 โครงการอยู่ในเกณฑ์ที่คุ้มค่าต่อการลงทุน แต่จะมีความแตกต่างกันออกไปในเรื่องของระยะเวลาคืนทุน ซึ่งโครงการที่ 1 ถึง 4 มีระยะเวลาคืนทุน 3 ปี 3 เดือน , 3 ปี 10 เดือน , 3 ปี 8 เดือน และ 3 ปี 2 เดือน ตามลำดับ นอกจากนั้น ปัจจัยสำคัญที่มีผลกระทบต่อความคุ้มค่าของโครงการในสถานะการณ์ปัจจุบันคือ ราคาน้ำมันดีเซลซึ่งมีความผันผวนและปรับราคาสูงขึ้น ผู้วิจัยจึงได้ทำการศึกษาในกรณีที่ราคาน้ำมันปรับราคาขึ้นถึง 35 บาทต่อลิตร ซึ่งทุกโครงการยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่มีความเป็นไปได้ และ มีความคุ้มค่าที่จะลงทุนซื้อรถบรรทุกขนส่งเอง


การแก้ไขปัญหาโรฮิงญาในมิติความมั่นคงแห่งชาติทางทะเล, บุษยพรรณ ถิตานนท์ Jan 2021

การแก้ไขปัญหาโรฮิงญาในมิติความมั่นคงแห่งชาติทางทะเล, บุษยพรรณ ถิตานนท์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษาประเด็นปัญหาที่แท้จริงของการลักลอบเข้าเมืองของชาวโรฮิงญา (2) เพื่อศึกษาผลกระทบของการลักลอบเข้าเมืองของชาวโรฮิงญาทางทะเลต่อความมั่นคงแห่งชาติทางทะเล และ (3) เพื่อศึกษาหาแนวทาง และวิธีการที่เหมาะสมในการจัดการ แก้ไขปัญหาของการลักลอบเข้าเมืองของชาวโรฮิงญาที่ลักลอบเข้ามาในประเทศไทยอย่างยั่งยืน เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพ โดยใช้การสัมภาษณ์เชิงลึก ซึ่งได้จากการสัมภาษณ์ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลปัญหาการลักลอบเข้าเมือง รวมทั้งทำการศึกษา ค้นคว้าแนวคิดและทฤษฎี รวมถึงเอกสารงานวิจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำการออกแบบคำถามที่ใช้ในการสัมภาษณ์ ผลการวิจัยพบว่า การหลบหนีเข้าเมืองของชาวโรฮิงญาที่มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบโดยใช้เส้นทางทางทะเลมากขึ้น แต่ลดการแวะพักในประเทศไทยน้อยลง โดยมีต้นทางจากรัฐยะไข่ ประเทศพม่า ไปยังประเทศปลายทาง ได้แก่ ประเทศมาเลเซีย หรือประเทศอินโดนีเซีย ใช้ประเทศไทยเป็นทั้งทางผ่านและปลายทางเช่นเดียวกัน ซึ่งสาเหตุของการลักลอบเข้าเมืองของชาวโรฮิงญานั้นเปลี่ยนแปลงจากเหตุผลด้านเศรษฐกิจมาเป็นด้านของสิทธิ สถานะพลเมือง และการกดขี่ รวมถึงการใช้ความรุนแรง ซึ่งมีต้นเหตุมาจากประเทศต้นทาง โดยงานวิจัยในครั้งนี้สามารถสรุปถึงผลกระทบการลักลอบเข้าเมืองของชาวโรฮิงญาต่อความมั่นคงของชาติทางทะเลได้ว่า มีผลกระทบในเชิงลบระดับปานกลาง โดยมีผลกระทบต่อความปลอดภัยในการใช้ประโยชน์จากทะเล แต่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติ ขบวนการค้ามนุษย์ การใช้เรือไม่ชักธง และการหลบหนีเข้าเมืองทางทะเลซึ่งเป็นผลสืบเนื่องต่อความมั่นคงทางบก


ปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคออนไลน์ของผู้บริโภคในเขตกรุงเทพและปริมณฑล, ธมนวรรณ จงเจริญชัยวงศ์ Jan 2021

ปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคออนไลน์ของผู้บริโภคในเขตกรุงเทพและปริมณฑล, ธมนวรรณ จงเจริญชัยวงศ์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคออนไลน์ของผู้บริโภคในเขตกรุงเทพและปริมณฑล และศึกษาลักษณะพฤติกรรมการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคผ่านช่องทางออนไลน์ กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้บริโภคในเขตกรุงเทพและปริมณฑลที่เคยซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคผ่านช่องทางออนไลน์จำนวน 400 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ และสถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมติฐานคือ การวิเคราะห์สมการถดถอยพหุคูณ (Multiple Regression Analysis) ผลการศึกษาพบว่าช่องทางการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคออนไลน์ที่นิยม คือ Shopee และ Lazada ความถี่ในการสั่งซื้อส่วนใหญ่ซื้อเดือนละ 1 ครั้ง มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการสั่งซื้อครั้งละ 501-1,000 บาท สินค้าที่นิยมซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ คือ ของใช้ส่วนตัว เช่น สบู่ ยาสระผม และ ของใช้ในบ้าน เช่น น้ำยาทำความสะอาด กระดาษชำระ สาเหตุที่เลือกซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคผ่านช่องทางออนไลน์ คือ ความสะดวกสบาย ราคา และโปรโมชั่นสินค้า นิยมชำระเงินผ่านบัตรเครดิต/บัตรเดบิต และชอบนโยบายการจัดส่งสินค้าแบบฟรีค่าจัดส่ง ไม่มียอดการสั่งซื้อขั้นต่ำ (ราคาสินค้ารวมค่าจัดส่ง) และยังคงจะซื้อสินค้ายี่ห้อเดิม แต่จะซื้อจากช่องทางออนไลน์อื่นที่มีราคาสินค้าและค่าจัดส่งที่ถูกกว่า ผลการทดสอบสมมติฐานพบว่า ปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคออนไลน์ของผู้บริโภคในเขตกรุงเทพและปริมณฑลอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 มีจำนวน 5 ปัจจัย ดังนี้ ปัจจัยด้านกายภาพและการนำเสนอ (Physical Evidence/Environment and Presentation) ปัจจัยการส่งเสริมการตลาด (Promotion) ปัจจัยด้านการขนส่ง (Transportation) ปัจจัยด้านบุคคล (People) และปัจจัยผลิตภัณฑ์ (Product)


การลดปัญหาการขาดแคลนสินค้าจากการล่าช้าในการขนส่งของธุรกิจนำเข้า-ส่งออกเคมีภัณฑ์, อัคพงษ์ จักสอง Jan 2021

การลดปัญหาการขาดแคลนสินค้าจากการล่าช้าในการขนส่งของธุรกิจนำเข้า-ส่งออกเคมีภัณฑ์, อัคพงษ์ จักสอง

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษาเรื่อง การลดปัญหาการขาดแคลนสินค้าจากการล่าช้าในการขนส่ง ของธุรกิจนำเข้า – ส่งออกเคมีภัณฑ์ เป็นกรณีศึกษา โดยมีวัตถุประสงค์คือ 1. ลดปัญหาการขาดแคลนสินค้าขององค์กร 2. ปรับปรุงจุดสั่งซื้อใหม่ (Re-order Point : ROP) ให้มีประสิทธิภาพ 3. ลดต้นทุนในการจัดเก็บ และการสั่งซื้อสินค้า จากผลการศึกษาเรื่อง การลดปัญหาการขาดแคลนสินค้าจากการล่าช้าในการขนส่ง ของธุรกิจนำเข้า – ส่งออกเคมีภัณฑ์ การใช้จุดสั่งซื้อใหม่แบบเดิมที่บริษัทใช้อยู่ทำให้สินค้าเกิดความขาดแคลน เนื่องจากเกิดการล่าช้าในการผลิตและขนส่ง อีกทั้งเวลานำ (Lead time) ในการขนส่งจากประเทศเนเทอร์แลนด์ 120 วันซึ่งถือว่ามีระยะเวลานาน และยังมีความไม่แน่นอน ดังนั้นผู้วิจัยได้นำเครื่องมือ มาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานขององค์กร โดยการพยากรณ์ความต้องการ การกำหนดจุดสั่งซื้อใหม่ (Re-order Point : ROP) การกำหนดสินค้าเพื่อความปลอดภัย (Safety Stock) และการคำนวณหาปริมาณการสั่งซื้อประหยัด (Economic Order Quantity) เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนสินค้าจากการล่าช้านการขนส่ง หรือ กรณีที่ฝ่ายขายมีการขายสินค้าเกินกว่า Demand ทำให้สินค้าเพียงพอต่อการขาย และผลจากการคำนวนพบว่า จากกรณีศึกษาสินค้าตัวอย่าง 5 รายการ มีผลให้ต้นทุนการสั่งซื้อและต้นทุนการเก็บรักษารวมลดลง 4,716,501.63 บาท หรือคิดเป็น 95%


การพยากรณ์ความต้องการเพื่อวางแผนการผลิตสินค้า : กรณีศึกษา ผลิตภัณฑ์เซรามิก, สุภาภรณ์ สินวนาทรัพย์ Jan 2021

การพยากรณ์ความต้องการเพื่อวางแผนการผลิตสินค้า : กรณีศึกษา ผลิตภัณฑ์เซรามิก, สุภาภรณ์ สินวนาทรัพย์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

บริษัทในกรณีศึกษาใช้วิธีการวางแผนการผลิตโดยอาศัยประสบการณ์ของผู้จัดการและพนักงานฝ่ายดูแลสินค้าคงคลังซึ่งส่งผลให้สินค้าในบางช่วงเวลาขาดแคลน ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนแผนการผลิตแบบฉับพลัน ส่งผลกระทบต่อสายการผลิต ทำให้ต้องหยุดเครื่องจักรเพื่อตั้งค่าใหม่ เสียโอกาสในการผลิตสินค้า และอัตราส่วนสินค้าที่ได้มาตรฐานจะลดลงจากค่าเฉลี่ย หรือบางครั้งก็เกิดปัญหาสินค้าคงคลังมีมากเกินความต้องการ เกิดค่าใช้จ่ายในการเก็บสินค้าคงคลังเพิ่มเติม และยังทำให้เกิดค่าใช้จ่ายในการผลิตสูงขึ้นจากปกติ งานวิจัยชิ้นนี้จึงต้องการที่จะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น โดยใช้การพยากรณ์ยอดขายสินค้าเข้ามาช่วยในการปรับปรุงแผนการผลิต เพื่อให้มีความแม่นยำและสอดคล้องกับคำสั่งซื้อจริงที่เกิดขึ้นให้มากที่สุด งานวิจัยชิ้นนี้ได้เก็บรวบรวมข้อมูลยอดขายย้อนหลังเป็นเวลา 36 เดือน โดยที่ใช้ข้อมูล 24 เดือนแรกในการหาตัวแบบการพยากรณ์ที่เหมาะสม และใช้ข้อมูลอีก 12 เดือนที่เหลือในการวัดผล ซึ่งพบว่ารูปแบบของข้อมูลยอดขายของ 7 กลุ่มสินค้าหลัก มีลักษณะคงที่ ไม่มีแนวโน้มและไม่มีฤดูกาลเหมือนกันหมด จึงเลือกใช้วิธีวิธีการหาค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ วิธีการปรับเรียบเอกซ์โพเนนเชียลอย่างง่าย และวิธีบ็อกซ์-เจนกินส์ในการกำหนดตัวแบบที่เหมาะสมตามแต่ละกลุ่มสินค้า ก่อนที่จะทำการพยากรณ์ยอดขายและวางแผนการผลิตใหม่โดยมีเป้าหมายที่จะลดจำนวนครั้งที่ต้องสั่งผลิตสินค้าต่ำกว่ากำหนด และลดจำนวนสินค้าคงคลังและค่าใช้จ่ายในส่วนสินค้าคงคลังลง ซึ่งจากผลการวิจัยพบว่าแผนการผลิตใหม่ที่ใช้การพยากรณ์ยอดขายเข้ามาช่วยในการวางแผน สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนของการเก็บรักษาสินค้าคงคลังโดยรวมลงเหลือ 4,188,094 บาท จากเดิม 4,646,831 บาท คิดเป็น 458,737 บาท หรือลดลง 9.87 %


การลดระยะเวลาการขนส่งและความเต็มใจที่จะจ่ายในการใช้บริการขนส่งภายในวันเดียวในเขตกรุงเทพมหานคร, วริทธิ์ ลิ้มสัมพันธ์ Jan 2021

การลดระยะเวลาการขนส่งและความเต็มใจที่จะจ่ายในการใช้บริการขนส่งภายในวันเดียวในเขตกรุงเทพมหานคร, วริทธิ์ ลิ้มสัมพันธ์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาการลดระยะเวลาการขนส่งพัสดุให้สามารถส่งแบบภายในวัน (Same Day Delivery) ในเขตกรุงเทพมหานครของบริษัทผู้ให้บริการขนส่งและโลจิสติกส์เอกชนแห่งหนึ่งและศึกษาความเต็มใจที่จะจ่ายในการใช้บริการ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาหาแนวทางการปรับปรุงขั้นตอนการขนส่งและความสูญเปล่าที่เกิดขี้นในด้านของระยะเวลา โดยการสัมภาษณ์พนักงานที่เกี่ยวข้อง และการหาความสูญเปล่า 7 ประการ (7 Wastes) ที่เกิดขึ้น และนำเครื่องมือการลดความสูญเปล่าด้วยหลักการ ECRS ได้แก่ การกำจัด (Eliminate) การรวมกัน (Combine) การจัดใหม่ (Re-arrange) และการทำให้ง่าย (Simplify) มาปรับปรุงกระบวนการขนส่งและกระจายพัสดุของบริษัทจากขนส่งแบบวันถัดไป (Next Day Delivery) เป็นขนส่งแบบภายในวัน (Same Day Delivery) ภายในเขตกรุงเทพมหานคร จากการศึกษาและวิเคราะห์พบว่า กระบวนการหลังจากการปรับปรุงในเรื่องขั้นตอนกระบวนการกระจายพัสดุ ลดลงร้อยละ 28.57 ในเรื่องของระยะเวลาเฉลี่ยในการขนส่งพัสดุ ลดลงร้อยละ 58.03 และในเรื่องต้นทุนการกระจายพัสดุ พบว่าต้นทุนการกระจายพัสดุหลังการปรับปรุงจะเพิ่มขึ้นจากกระบวนการปัจจุบันร้อยละ 85.97 พร้อมทั้งทำการศึกษาแนวโน้มความสนใจที่จะใช้บริการและราคาที่ผู้ใช้บริการเต็มใจที่จะจ่าย (Willingness to Pay) ผ่านการทำแบบสอบถาม ซึ่งผลการศึกษาพบว่าประชากรกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด มีผู้ให้ราคาที่เต็มใจจ่ายมากที่สุดอยู่ที่ราคา 200 บาท และเต็มใจจ่ายที่ราคาน้อยที่สุดอยู่ที่ 39 บาท โดยมูลค่าความเต็มใจที่จะจ่ายในการใช้บริการขนส่งพัสดุภายในวันในเขตกรุงเทพมหานครมีมูลค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 47.8 บาท โดยจากการศึกษางานวิจัยดังกล่าวเพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจทำบริการขนส่งพัสดุภายในวันเดียว รวมถึงให้กระบวนการขนส่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อนำไปสู่การลดระยะเวลาที่สูญเปล่าในกระบวนการทำงานต่อไป


การลดความคลาดเคลื่อนของวัตถุดิบคงคลัง กรณีศึกษาบริษัทแปรรูปอาหารแช่แข็ง, วาทินี ปทุมผาย Jan 2021

การลดความคลาดเคลื่อนของวัตถุดิบคงคลัง กรณีศึกษาบริษัทแปรรูปอาหารแช่แข็ง, วาทินี ปทุมผาย

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

สารนิพนธ์ฉบับนี้มีวัตถุประสงค์ในการศึกษาปัญหาความคลาดเคลื่อนของวัตถุดิบคงคลังบริษัทแปรรูปอาหารแช่แข็ง ที่ส่งผลกระทบต่อแผนการผลิตทำให้ไม่สามารถผลิตสินค้าได้ ต้องขอเลื่อนแผนการส่งออก ทำให้ระดับความพึงพอใจของลูกค้าลดลง การศึกษาปัญหาใช้วิธีวิเคราะห์กิจกรรมในกระบวนการไหลของวัตถุดิบแต่ละแผนกที่มีส่วนเกี่ยวข้องจากการสัมภาษณ์ข้อมูลเชิงลึกและการสำรวจข้อมูลภาคสนามในการสังเกตการณ์แบบไม่มีส่วนร่วม ตั้งแต่การวางแผนวัตถุดิบ จนวัตถุดิบถูกผลิตเป็นสินค้า ผลจากการศึกษาพบว่าปัญหาความคลาดเคลื่อนของวัตถุดิบเกิดจากปัจจัยหลัก 2 ปัจจัย คือ 1) ปัจจัยด้านคน เช่น การบันทึกข้อมูลการรับวัตถุดิบผิดพลาด 2) ปัจจัยด้านขั้นตอนการทำงาน จากการทำงานร่วมกันหลายระบบส่งผลให้การถ่ายโอนข้อมูลไม่สอดคล้องกัน จากการศึกษาในครั้งนี้จึงได้เสนอแนะแนวทางการลดความคลาดเคลื่อนโดย 1) การนำระบบบาร์โค้ดมาใช้เพื่อลดข้อผิดพลาดในการบันทึกข้อมูลการรับวัตถุดิบและการจัดเก็บวัตถุดิบ 2) การใช้ ABC Classification ในการกำหนดวงรอบการนับวัตถุดิบและการปรับยอด 3) การกำหนดความถี่การถ่ายโอนข้อมูลอัตโนมัติของระบบให้เหมาะสม 4) การก่อสร้างพื้นที่เพิ่มเติมเพื่อรองรับปริมาณวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น


การเลือกทำเลที่ตั้งคลังสินค้าด้วยวิธีการวิเคราะห์เชิงลำดับชั้น บริษัทกรณีศึกษา : บริษัทรองเท้าและเสื้อผ้ากีฬา, ทศพล ทาเทพ Jan 2021

การเลือกทำเลที่ตั้งคลังสินค้าด้วยวิธีการวิเคราะห์เชิงลำดับชั้น บริษัทกรณีศึกษา : บริษัทรองเท้าและเสื้อผ้ากีฬา, ทศพล ทาเทพ

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยฉบับนี้มีจุดประสงค์เพื่อประยุกต์ใช้กระบวนการลำดับชั้นเชิงวิเคราะห์ในการเลือกทำเลที่ตั้งคลังสินค้าบริษัทกรณีศึกษารองเท้าและเสื้อผ้ากีฬา ซึ่งเป็นการพิจารณาปัจจัยเชิงคุณภาพและปัจจัยเชิงประมาณเพื่อหาทางเลือกที่เหมาะสมในการตั้งคลังสินค้า โดยที่ทางเลือกในการตั้งคลังสินค้า 2 ทำเล คือ คลังสินค้าบางปะอิน และ คลังสินค้าบางนา การกำหนดงานวิจัยได้ใช้ผลคะแนนของค่าน้ำหนักความสำคัญที่ได้รับจากแบบสอบถามของผู้มีประสบการณ์ทางด้านโลจิสติกส์และมีสิทธิ์ในการตัดสินใจเพื่อหาค่าลำดับความสำคัญให้ได้ทางเลือกที่เหมาะสมกับบริษัทกรณีศึกษา นอกจากนี้เพื่อความถูกต้องและความน่าเชื่อถือของทางเลือกที่ได้รับ ผู้วิจัยจึงมีการวิเคราะห์ความไวของหลักเกณฑ์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ของทางเลือกที่มีความเสถียรและไม่เปลี่ยนแปลงไปตามค่าน้ำหนักความสำคัญของหลักเกณฑ์ที่ผู้วิจัยนำใช้ในการพิจารณา จากผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกที่ตั้งคลังสินค้าที่ได้จากการเก็บแบบสอบถาม ประกอบไปด้วย 2 ส่วน คือปัจจัยเชิงปริมาณได้แก่ ปัจจัยด้านต้นทุนการขนส่งและด้านต้นทุนการจัดการคลังสินค้า อีกส่วนคือปัจจัยเชิงคุณภาพได้แก่ การเข้าถึงลูกค้า ระบบสาธารณูปโภค ความพร้อมของระบบคมนาคม สังคมและชุมชน การก่อมลพิษจากการขนส่ง สภาพภูมิประเทศ และ ผลกระทบจากการจราจร อีกทั้งมีการแบ่งหลักเกณฑ์ตามนโยบายบริษัท คือ นโยบายด้านความยั่งยืนโดยแบ่งเป็น ด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้หลักเกณฑ์ที่ใช้มีความสอดคล้องกับการดำเนินงานของบริษัท และได้เพิ่มหลักเกณฑ์ทางด้านต้นทุนที่แต่เดิมทางบริษัทใช้ในการพิจารณา โดยผลที่ได้จากการพิจารณากระบวนการลำดับชั้นเชิงวิเคราะห์ และ วิเคราะห์ความไวของหลักเกณฑ์ พบว่าทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดในการจัดตั้งคลังสินค้าของบริษัทกรณี คือ คลังสินค้าบางนา


การวิเคราะห์ที่ตั้งศูนย์กระจายสินค้าของชิ้นส่วนอุปกรณ์เครื่องจักรของ ท่าเรือแหลมฉบังในเขตพื้นที่ Eec กรณีศึกษาบริษัท Abc, ธนิสา รัตนโชติถาวร Jan 2021

การวิเคราะห์ที่ตั้งศูนย์กระจายสินค้าของชิ้นส่วนอุปกรณ์เครื่องจักรของ ท่าเรือแหลมฉบังในเขตพื้นที่ Eec กรณีศึกษาบริษัท Abc, ธนิสา รัตนโชติถาวร

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การวิเคราะห์ที่ตั้งศูนย์กระจายสินค้าของชิ้นส่วนอุปกรณ์เครื่องจักรของท่าเรือแหลมฉบัง ในเขตพื้นที่ EEC กรณีศึกษาบริษัท ABC มีวัตถุประสงค์ เพื่อหาทำเลที่ตั้งศูนย์กระจายสินค้าที่เหมาะสมให้กับบริษัทกรณีศึกษา เพื่อประโยชน์ทางด้านธุรกิจในการขยายกิจการของบริษัท และเพื่อเพิ่มความสามารถในการตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ผู้วิจัยได้ใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ เป็นเครื่องมือหลักในงานวิจัยชิ้นนี้ โดยได้มีการแบ่งการดำเนินงานวิจัยออกเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่ ส่วนที่หนึ่ง การวิเคราะห์ที่ตั้งศักยภาพของศูนย์กระจายสินค้า ด้วยการซ้อนทับชั้นข้อมูล ในระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) ตามเกณฑ์ที่กำหนด โดยเกณฑ์ที่กำหนด ได้มาจากการทบทวนวรรณกรรม และจากหน่วยงานราชการต่างๆ ส่วนที่สอง การวิเคราะห์เลือกพื้นที่ที่เหมาะสมที่มีระยะทางรวมไปยังโรงงานลูกค้า ดีที่สุด 3 อันดับแรก โดยวิเคราะห์ร่วมกับปริมาณความต้องการสินค้าของแต่ละโรงงาน ด้วยวิธีการวิเคราะห์เมทริกซ์ค่าใช้จ่ายระหว่างจุดเริ่มต้นกับจุดปลายทาง (Origin-Destination Cost Matrix Analysis) และในส่วนที่สาม การคัดกรองพื้นที่ที่มีความเหมาะสมที่สุด โดยแบ่งออกเป็น 1) การคัดกรองพื้นที่ตามปัจจัยขนาดพื้นที่ 2) การคัดกรองพื้นที่ตามปัจจัยโบราณสถานและกิจการบริการสาธารณะ และ 3) การคัดกรองพื้นที่ตามปัจจัยราคาที่ดิน จากการวิเคราะห์ สามารถสรุปผลการศึกษาได้ว่า พื้นที่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าของบริษัทกรณีศึกษา ควรอยู่ในบริเวณตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งมีพื้นที่รวม 155,085.16 ตารางเมตร มีความเหมาะสมทั้งขนาดพื้นที่ ราคาที่ดิน ระยะทางและปริมาณความต้องการสินค้า


การวิเคราะห์ทำเลที่ตั้งของโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมในนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด, ปริญญารัตน์ บุตรเงิน Jan 2021

การวิเคราะห์ทำเลที่ตั้งของโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมในนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด, ปริญญารัตน์ บุตรเงิน

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การวิเคราะห์ทำเลที่ตั้งของโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมในนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาหาทำเลที่ตั้งที่เหมาะสมสำหรับการตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมในนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด โดยเป็นการวิเคราะห์ผ่านระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ (GIS) ซึ่งปัจจัยได้จากการทบทวนวรรณกรรมและทฤษฎีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจากการวิเคราะห์ 5 ปัจจัยในการเลือกพื้นที่ทางเลือกที่เหมาะสม พบว่า ปัจจัยขนาดพื้นที่เหมาะสมรวมถึงปัจจัยขอบเขตความปลอดภัยคือ พื้นที่ทางเลือกที่ 1, 3 และ 6 ปัจจัยเส้นทางคมนาคมหลักในนิคมอุตสาหกรรมคือ พื้นที่ทางเลือก 1, 2, 3, 5 และ 6 ปัจจัยเส้นทางการวางท่อส่งเชื้อเพลิงจากสถานีส่งเชื้อเพลิงภายในนิคมอุตสาหกรรม คือ พื้นที่ทางเลือก 1, 2, 3 และ 6 พบว่า พื้นที่ทางเลือก 1, 3 และ 6 ตรงตามเกณฑ์ที่กำหนด ในส่วนของการคัดกรองปัจจัยเพื่อหาทำเลที่เหมาะสมในพื้นที่ทางเลือก 1, 3 และ 6 พบว่า พื้นที่ทางเลือกที่ 1 ทางทิศใต้เป็นพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมในนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด


การปรับปรุงนโยบายการจัดการสินค้าคงคลัง : กรณีศึกษาบริษัทเทรดดิ้งชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์, พิมพ์ธาดา สุวรรณสมพงศ์ Jan 2021

การปรับปรุงนโยบายการจัดการสินค้าคงคลัง : กรณีศึกษาบริษัทเทรดดิ้งชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์, พิมพ์ธาดา สุวรรณสมพงศ์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์สภาพปัญหาของการบริหารจัดการสินค้าคงคลังและกำหนดแนวทางที่เหมาะสมในการปรับปรุงนโยบายสินค้าคงคลัง เพื่อรองรับความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นทั้งด้านอุปสงค์และอุปทาน โดยใช้การวิเคราะห์ ABC-XYZ Analysis เป็นเครื่องมือแบ่งกลุ่มสินค้า และใช้วิธีการควบคุมสินค้าคงคลังแบบกำหนดรอบ (Periodic Inventory System) จากนั้นทำการเปรียบเทียบตัวชี้วัดประสิทธิภาพการจัดการสินค้าคงคลังด้านต้นทุน เวลา และความน่าเชื่อถือในการตอบสนองความต้องการของลูกค้า ผู้วิจัยได้คัดเลือกสินค้าเพื่อการศึกษาจำนวน 2 รายการ ซึ่งประสบปัญหาแตกต่างกัน ทำให้การคำนวณหาปริมาณสินค้าคงคลังสำรอง (Safety Stock) นั้นแตกต่างกัน ได้แก่ 1) สินค้าจากกลุ่ม AY ที่ยอดขายสูงมาก แต่มีความต้องการสินค้าและระยะเวลาจัดส่งที่แปรผัน 2) สินค้าจากกลุ่ม BX ที่ยอดขายสูง มีความต้องการสินค้าคงที่ แต่มีระยะเวลาจัดส่งแปรผัน อีกทั้งมีการกำหนดใช้ระดับการให้บริการ (Customer Service Level) ในหลายระดับสำหรับทดสอบและเปรียบเทียบผลลัพธ์จากตัวชี้วัดประสิทธิภาพ ผลจากการวิจัย พบว่าสามารถกำหนดแนวทางในการปรับปรุงนโยบายการจัดการสินค้าคงคลังได้ 3 แนวทาง ดังนี้ 1) มุ่งเน้นการตอบสนองการความต้องการอย่างสูงสุด 2) เพิ่มการตอบสนองความต้องการให้ดีเทียบเท่าในอดีต 3) เน้นควบคุมต้นทุนสินค้าคงคลัง และเพิ่มการตอบสนองความต้องการให้ดีขึ้นจากปัจจุบัน โดยเมื่อเทียบกับนโยบายปัจจุบันพบว่าทั้งสามแนวทางส่งผลให้ต้นทุนการจัดเก็บสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้น 3.4% 2.3% และ 1.5% ตามลำดับ แต่จะทำให้ต้นทุนการเสียโอกาสในการขายและอัตราจำนวนสินค้าสำเร็จรูปขาดมือลดลงอย่างมาก ในขณะที่ระยะเวลาที่ใช้ในการขายสินค้าคงคลังคงเหลือจะเพิ่มขึ้นจากเดิมเพียง 1 วันเท่านั้น


การบูรณาการระบบแสดงตนอัตโนมัติกับการตระหนักรู้ภาพสถานการณ์ทางทะเลของศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.), จุฑามาศ พบสุข Jan 2021

การบูรณาการระบบแสดงตนอัตโนมัติกับการตระหนักรู้ภาพสถานการณ์ทางทะเลของศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.), จุฑามาศ พบสุข

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) ด้วยเทคนิคเดลฟาย (Delphi technique) กับการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) โดยการวิจัยเอกสาร (Documentary Research) ด้วยข้อมูลปฐมภูมิ (Primary data) ที่มาจากการคัดเลือกผู้เชี่ยวชาญในการสัมภาษณ์ แสดงความคิดเห็น ผ่านแบบสอบถามของเทคนิค Delphi กำหนดประเด็นสำคัญของปัญหา เพื่อสร้างเครื่องมือและเก็บข้อมูล นำมาใช้สรุปผล วิเคราะห์ข้อมูล เพื่อแสดงว่าผู้เชี่ยวชาญมีความคิดเห็นเป็นหนึ่งเดียวกันในการบูรณาการระบบ AIS และการผลักดันเชิงนโยบายของ MDA ผลการวิจัยพบว่าผู้เชี่ยวชาญมีความเข้าใจการตระหนักรู้ภาพสถานการณ์ทางทะเล โดยเชื่อว่าการให้อำนาจผู้นำประเทศ ในด้านนโยบายเกี่ยวกับผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ส่งผลต่อความมั่นคงทางทะเลและยุทธศาสตร์ของประเทศที่ยั่งยืน โดยพบประเด็นปัญหาในเรื่องที่ MDA มีผลในเรื่องของแผนยุทธศาสตร์ ที่ใช้ในการรักษาผลประโยชน์ของชาติในทุกด้าน จึงจำเป็นที่ต้องกำหนดหน่วยงานที่เข้าได้ถึงชั้นข้อมูลเพื่อการรักษาชั้นความลับ โดยให้ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลเป็นผู้ดำเนินการ อาศัยข้อมูลจากระบบ AIS เพื่อการรักษาความปลอดภัยในทะเลและตรวจสอบเรือที่ละเมิดอธิปไตยและกระทำผิดกฎหมาย ในน่านน้ำไทย โดยต้องดำเนินการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านเศรษฐกิจและผลประโยชน์สูงสุดที่ยั่งยืน ที่เกี่ยวเนื่องกับทะเลในทุกมิติ


การมีส่วนร่วมของชุมชนชายฝั่งในการลดขยะบริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยา จังหวัดสมุทรปราการ, ฉัฐสุรีย์ รุ่งเจริญ Jan 2021

การมีส่วนร่วมของชุมชนชายฝั่งในการลดขยะบริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยา จังหวัดสมุทรปราการ, ฉัฐสุรีย์ รุ่งเจริญ

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาทัศนคติและการมีส่วนร่วมของชุมชนชายฝั่งในการจัดการขยะบริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยา จังหวัดสมุทรปราการ โดยใช้การออกแบบการวิจัยเชิงพรรณา เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม และวิเคราะห์โดยใช้สถิติเชิงพรรณาและสถิติเชิงอนุมาน ประชากรที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ คือประชาชนในชุมชน 2 ฝั่ง ซึ่งได้แก่ อำเภอเมือง และอำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ โดยเลือกเก็บข้อมูลชุมชนที่อาศัยอยู่ใกล้บริเวณริมปากแม่น้ำเจ้าพระยาโดยเฉพาะ สถิติที่ใช้ คือ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบความแตกต่างค่าเฉลี่ย (t-test) และ การวิเคราะห์ความแปรปรวน (Analysis of Variance) เพื่อทดสอบสมมุติฐาน ผลการศึกษาพบว่า 1) กลุ่มตัวอย่างมีการตระหนักรู้เกี่ยวกับปัญหาขยะในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย 3.58±0.94) และมีส่วนร่วมในการลดขยะในภาพรวมอยู่ในระดับบางครั้ง (ค่าเฉลี่ย 2.22±0.55) 2) ประชาชนที่มีเพศ อายุ อาชีพ อาชีพเสริม สถานภาพในครอบครัว จำนวนสมาชิกในครัวเรือน และระยะเวลาที่อาศัยอยู่ในชุมชนแตกต่างกัน มีการตระหนักรู้เกี่ยวกับปัญหาของขยะแตกต่างกัน และประชาชนที่มีเพศ อายุ อาชีพ อาชีพเสริม จำนวนสมาชิกในครัวเรือน และระยะเวลาที่อาศัยอยู่ในชุมชนแตกต่างกัน มีส่วนร่วมในการลดขยะแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05


กระบวนการพัฒนาแบบจำลองรูปแบบการจัดสรรที่นั่งโดยสารรถไฟ : กรณีศึกษา : ขบวนรถด่วนพิเศษอุตราวิถี (กรุงเทพ-เชียงใหม่), อมรเทพ จันทร์สว่าง Jan 2021

กระบวนการพัฒนาแบบจำลองรูปแบบการจัดสรรที่นั่งโดยสารรถไฟ : กรณีศึกษา : ขบวนรถด่วนพิเศษอุตราวิถี (กรุงเทพ-เชียงใหม่), อมรเทพ จันทร์สว่าง

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอกระบวนการพัฒนาแบบจำลองรูปแบบการจัดสรรที่นั่งโดยสารรถไฟ ซึ่งเป็นการศึกษารูปแบบการจัดสรรที่นั่งโดยสารรถไฟที่สร้างรายได้สูงสุด และระบุจุดเด่น-จุดด้อยของแต่ละแบบจำลอง โดยใช้ขบวนรถด่วนพิเศษอุตราวิถี (กรุงเทพ-เชียงใหม่) เป็นกรณีศึกษา ในการพัฒนาแบบจำลองนั้นแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก คือ 1.ส่วนของข้อมูลสำหรับการสร้างแบบจำลอง ได้แก่ 1) กำหนดเส้นทาง 2) กำหนดขบวนรถ 3) กำหนดชั้นโดยสาร 4) กำหนดสถานี 5) การหาค่าความต้องการ 6) การหาอัตราค่าโดยสาร และ 2.ส่วนของรูปแบบการจัดสรรที่นั่ง ซึ่งการจัดสรรที่นั่งรถไฟนั้นได้ใช้ 2 หลักการ คือ การนำที่นั่งที่เหลือกลับมาจำหน่าย และการแบ่งรูปแบบของส่วนที่นั่งโดยสารสำหรับการจำหน่าย หลักการทั้งสองสามารถนำมาสร้างแบบจำลองได้ 4 แบบจำลอง คือ 1) FCFST 2) FCFSC 3) PBLC และ 4) SBC หลังจากนั้นได้นำแบบจำลองทั้ง 4 ได้นำไปทดสอบกับข้อมูลความต้องการเดินทางของผู้โดยสาร 2 ลักษณะ คือ การทดสอบรายกรณี ซึ่งเป็นการจำลองสถานการณ์ความต้องการเดินทางตั้งแต่ 20-240 คน/ขบวน โดยแยกออกเป็น 7 กรณี และการทดสอบรายปี ซึ่งเป็นการอ้างอิงความต้องการเดินทางตามสถานการณ์จริงของเส้นทางในรอบ 1 ปี จากผลการทดสอบแบบจำลองจัดสรรที่นั่งโดยสารทั้ง 4 แบบจำลอง พบว่าในการทดสอบรายกรณีเมื่อปริมาณความต้องการเดินทางน้อย FCFST และ FCFSC สามารถสร้างรายได้สูงที่สุด ในขณะที่เมื่อมีความต้องการเดินทางปานกลาง FCFSC สามารถสร้างรายได้สูงสุด และเมื่อมีความต้องการมาก SBC สามารถสร้างรายได้สูงสุด ส่วนการทดสอบรายปีที่ปริมาณความต้องการหลากหลายนั้น FCFSC สามารถสร้างรายได้โดยรวมสูงสุด ดังนั้น กระบวนการพัฒนาแบบจำลองที่นำเสนอสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการหารูปแบบการจัดสรรที่นั่งโดยสาร เพื่อให้เกิดรายได้สูงสุดได้


การคัดเลือกผู้ให้บริการโลจิสติกส์โดยใช้กระบวนการตัดสินใจแบบวิเคราะห์ลำดับชั้น : กรณีศึกษา : บริษัทผลิตฟิล์มพลาสติกแห่งหนึ่ง, ภูมิพัฒน์ ขวัญพิพัฒน์ Jan 2021

การคัดเลือกผู้ให้บริการโลจิสติกส์โดยใช้กระบวนการตัดสินใจแบบวิเคราะห์ลำดับชั้น : กรณีศึกษา : บริษัทผลิตฟิล์มพลาสติกแห่งหนึ่ง, ภูมิพัฒน์ ขวัญพิพัฒน์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อคัดเลือกผู้ให้บริการโลจิสติกส์โดยใช้กระบวนการตัดสินใจแบบวิเคราะห์ลำดับชั้นของบริษัทผลิตฟิล์มพลาสติกแห่งหนึ่ง ในงานวิจัยนี้บริษัทกรณีศึกษาต้องการคัดเลือกผู้ให้บริการโลจิสติกส์ที่เหมาะสม 1 รายทั้งหมด 3 ราย ภายใต้การพิจารณาทั้งปัจจัยเชิงปริมาณและปัจจัยเชิงคุณภาพ งานวิจัยนี้เริ่มจากการรวบรวมหลักเกณฑ์และปัจจัยจากการคัดเลือกในปัจจุบันและจากการทบทวนวรรณกรรม แล้วนำมาสร้างแบบจำลองกระบวนการวิเคราะห์ลำดับชั้น คำนวณหาค่าลำดับความสำคัญของหลักเกณฑ์ ปัจจัย ทางเลือก และตรวจสอบค่าความสอดคล้องของข้อมูลจากผู้มีอำนาจในการตัดสินใจจำนวน 5 ท่าน และวิเคราะห์ความไว เพื่อให้ทราบความไวต่อหลักเกณฑ์และทางเลือกที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงน้ำหนักของหลักเกณฑ์และทางเลือกของงานวิจัยฉบับนี้ จากผลการวิจัยพบว่า หลักเกณฑ์ที่มีผลต่อการคัดเลือกผู้ให้บริการโลจิสติกส์ 3 อันดับแรก คือ ด้านมาตรการป้องกัน COVID-19 ด้านบริการและด้านความสามารถในการส่งมอบ ส่วนทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดที่ได้รับจากการคัดเลือกผู้ให้บริการโลจิสติกส์ คือ บริษัท B จากการวิเคราะห์ความไว พบว่าน้ำหนักของหลักเกณฑ์ด้านต้นทุน/ราคา ส่งผลต่อการคัดเลือกผู้ให้บริการโลจิสติกส์ โดยเปลี่ยนจากบริษัท B เป็นบริษัท A เมื่อให้ค่าน้ำหนักความสำคัญของหลักเกณฑ์เพิ่มขึ้น 29% และส่งผลต่อการคัดเลือกผู้ให้บริการโลจิสติกส์ โดยเปลี่ยนจากบริษัท B เป็นบริษัท C เมื่อให้ค่าน้ำหนักความสำคัญของหลักเกณฑ์เพิ่มขึ้น 95% โดยมีปัจจัยที่ทำให้ค่าน้ำหนักเพิ่มขึ้นคือมีต้นทุนราคาที่ถูกกว่าและให้ระยะเวลาสินเชื่อที่นานกว่า ส่วนน้ำหนักของหลักเกณฑ์ความน่าเชื่อถือ ส่งผลต่อการคัดเลือกผู้ให้บริการโลจิสติกส์ โดยเปลี่ยนจากบริษัท B เป็นบริษัท A เมื่อให้ค่าน้ำหนักความสำคัญของหลักเกณฑ์เพิ่มขึ้น 38% โดยมีปัจจัยที่ทำให้ค่าน้ำหนักเพิ่มขึ้นคือผู้ให้บริการโลจิสติกส์ต้องมีความเชี่ยวชาญเส้นทางญี่ปุ่นเป็นหลักและมีมาตรการการดำเนินงานแบบญี่ปุ่น


การกำหนดนโยบายการสั่งซื้อวัตถุดิบ : กรณีศึกษาบริษัทผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมในประเทศไทย, สมใจ พิพัฒน์ผลสกุล Jan 2021

การกำหนดนโยบายการสั่งซื้อวัตถุดิบ : กรณีศึกษาบริษัทผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมในประเทศไทย, สมใจ พิพัฒน์ผลสกุล

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดนโยบายการสั่งซื้อที่สามารถช่วยควบคุมต้นทุนของการสั่งและต้นทุนการถือครองวัตถุดิบคงคลังให้อยู่ในระดับที่ต่ำที่สุด ผู้วิจัยได้ศึกษารูปแบบการสั่งซื้อวัตถุดิบและวิเคราะห์ข้อมูลของบริษัทกรณีศึกษา ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมในประเทศไทย โดยพบว่าบริษัทมีระดับวัตถุดิบคงคลังในปริมาณที่สูงเมื่อเทียบกับสัดส่วนความต้องการใช้จริงของการผลิต อีกทั้งยังขาดเครื่องมือที่ใช้ในการคำนวณวิเคราะห์ปริมาณการสั่ง โดยใช้แต่เพียงการคาดเดาและประสบการณ์ของผู้บริหารในการตัดสินใจสั่งซื้อวัตถุดิบแต่ละครั้ง จากปัญหาดังกล่าวผู้วิจัยจึงได้ประยุกต์ใช้โปรแกรมสำเร็จรูป SPSS เพื่อพยากรณ์ความต้องการใช้วัตถุดิบและทดสอบค่าความคลาดเคลื่อนเพื่อเลือกวิธีการพยากรณ์ที่เหมาะสม จากนั้นนำผลลัพธ์ค่าความต้องการวัตถุดิบที่ได้มาคำนวณทดสอบหานโยบายสั่งซื้อด้วยแบบจำลองการสั่ง 2 รูปแบบ คือ แบบจำลองจุดสั่งซื้อใหม่ (Reorder Point: ROP) และแบบจำลองระดับคงคลังเป้าหมาย (Order Up-to Level: OUL) จากผลการคำนวณพบว่าการสั่งซื้อวัตถุดิบด้วยแบบจำลองระดับคงคลังเป้าหมายเป็นนโยบายที่เหมาะสมกับบริษัทกรณีศึกษาเพราะให้ผลของค่าใช้จ่ายรวมน้อยที่สุด รวมถึงระดับวัตถุดิบคงคลัง ณ สิ้นเดือนที่ลดลงเช่นกัน เมื่อเทียบกับนโยบายปัจจุบันบริษัท สามารถลดค่าใช้จ่ายรวมต่อปีลงได้ 425,438,792.40 บาทหรือประมาณ 15.23%


การวิเคราะห์ต้นทุนปฏิบัติการเรือน้ำมันของกองทัพเรือ, รัฐพงศ์ บุญลือ Jan 2021

การวิเคราะห์ต้นทุนปฏิบัติการเรือน้ำมันของกองทัพเรือ, รัฐพงศ์ บุญลือ

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อหาต้นทุนปฏิบัติการของเรือน้ำมันของกองทัพเรือ ซึ่งประกอบด้วยต้นทุน ต้นทุนการบริหารและต้นทุนการปฏิบัติการ โดยรวบรวมสถิติข้อมูลค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จากการรายงานสถานะของเรือ รายงานความสิ้นเปลืองของเรือและรายงานสถิติการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ในช่วงปีงบประมาณ ๒๕๖๒ – ๒๕๖๔ แล้วนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อให้ทราบต้นทุนปฏิบัติการของเรือน้ำมันเป็นเงินเฉลี่ย บาท/วัน ผลการวิจัยพบว่า ต้นทุนปฏิบัติการของเรือหลวงปรงมีต้นทุนเฉลี่ย ๓๕,๓๒๔.๓๓ บาท/วัน ต้นทุนปฏิบัติการของเรือหลวงเปริดมีต้นทุนเฉลี่ย ๔๔,๘๖๕.๐๙ บาท/วัน การทราบต้นทุนปฏิบัติการเรือน้ำมัน ของกองทัพเรือส่งผลให้กองทัพเรือสามารถนำหลักการคำนวณต้นทุนค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติการทางเรือมาใช้ในการพิจารณาและตัดสินใจใช้เรือออกปฏิบัติราชการและใช้ในการวางแผนปฏิบัติการของเรือน้ำมันของกองทัพเรือในแต่ละปีงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้มีความเหมาะสมและคุ้มค่ากับงบประมาณที่ได้รับ


การปรับปรุงนโยบายการสั่งซื้อชิ้นส่วนอะไหล่ กรณีศึกษาบริษัทจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า, ฐิติวัลคุ์ เอื้อวรธรรม Jan 2021

การปรับปรุงนโยบายการสั่งซื้อชิ้นส่วนอะไหล่ กรณีศึกษาบริษัทจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า, ฐิติวัลคุ์ เอื้อวรธรรม

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

สารนิพนธ์ฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอนโยบายพัสดุคงคลังที่สามารถลดจำนวนอะไหล่ขาดมือจากการสั่งซื้อชิ้นส่วนอะไหล่เครื่องใช้ไฟฟ้าของบริษัทกรณีศึกษา ซึ่งเป็นบริษัทที่มีการจำหน่ายชิ้นส่วนอะไหล่ให้กับลูกค้าในสองช่องทาง คือ งานซ่อมของช่างซ่อมที่มีความต้องการชิ้นส่วนอะไหล่สำหรับงานซ่อมแซม บำรุงรักษา ทดแทนอะไหล่ของเครื่องใช้ไฟฟ้า และลูกค้าที่มีความต้องการมาซื้อชิ้นส่วนอะไหล่เพื่อการบำรุงรักษาโดยตรงที่สำนักงานใหญ่ของบริษัท รายการชิ้นส่วนอะไหล่ที่ศึกษามี 5 รายการซึ่งเป็นรายการที่มีความต้องการไม่แน่นอนจากลูกค้าและบริษัทต้องการให้มีอัตราการเติมเต็มพัสดุคงคลังอะไหล่ที่สามารถรองรับความต้องการไม่แน่นอนของลูกค้าได้ แต่ในปัจจุบันพบว่า บริษัทมีอัตราการเติมเต็มพัสดุคงคลังอะไหล่เพียง 48% งานวิจัยเริ่มต้นจากการศึกษานโยบายการสั่งซื้อของบริษัทเพื่อวิเคราะห์ปัญหาของนโยบายในปัจจุบัน และเก็บรวบรวมข้อมูลความต้องการของชิ้นส่วนอะไหล่ในอดีต เพื่อศึกษาการกระจายตัวของข้อมูลความต้องการ จากนั้นนำเสนอนโยบายที่พิจารณาการกระจายตัวของข้อมูลความต้องการอะไหล่ ร่วมกับระยะเวลานำที่ไม่คงที่จากซัพพลายเออร์ จากนั้นจึงนำเสนอนโยบายระดับคงคลังเป้าหมาย (Order-up-to-level Model หรือ OUL) ที่มีการกำหนดรอบการสั่งคงที่และสั่งซื้อให้ถึงระดับ OUL ซึ่งเป็นระดับที่เพียงพอต่อการตอบสนองความต้องการในแต่ละรอบการสั่งตามระดับการให้บริการที่กำหนด นโยบายระดับคงคลังเป้าหมายที่นำเสนอ ได้ถูกนำไปจำลองการสั่งซื้อในโปรแกรม Microsoft Excel เพื่อทดสอบการสั่งซื้อชิ้นส่วนอะไหล่ทั้ง 5 รายการ พบว่านโยบายที่นำเสนอสามารถเพิ่มอัตราการเติมเต็มพัสดุคงคลังอะไหล่ได้ 100% ทั้ง 5 รายการ และมีมูลค่าพัสดุคงคลังลดลง 34%


การพยากรณ์ความต้องการการใช้ตู้คอนเทนเนอร์สำหรับการขนส่งทางทะเลของเส้นทางสิงคโปร์ - จีน : กรณีศึกษาบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเคมีภัณฑ์แห่งหนึ่ง, ณิชา วิจารณ์ Jan 2021

การพยากรณ์ความต้องการการใช้ตู้คอนเทนเนอร์สำหรับการขนส่งทางทะเลของเส้นทางสิงคโปร์ - จีน : กรณีศึกษาบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเคมีภัณฑ์แห่งหนึ่ง, ณิชา วิจารณ์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงกระบวนการและสร้างตัวแบบการพยากรณ์ความต้องการการใช้ตู้คอนเทนเนอร์สำหรับการขนส่งทางทะเลของเส้นทางสิงคโปร์ – จีนของบริษัทในกรณีศึกษาให้มีความแม่นยำมากกว่าค่าพยากรณ์ปัจจุบันของบริษัท เพื่อนำค่าพยากรณ์ที่แม่นยำขึ้นไปใช้จัดทำสัญญาจองตู้คอนเทนเนอร์กับบริษัทสายการเดินเรือต่าง ๆ และทำให้สามารถลดปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ลงได้ การศึกษาเริ่มจากการสัมภาษณ์ผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อทำความเข้าใจปัญหาในปัจจุบัน และวิเคราะห์หาวิธีแก้ไข โดยพบว่าในปัจจุบันทางบริษัทใช้การแปลงค่าแผนการขายเป็นจำนวนตู้คอนเทนเนอร์ที่ต้องการใช้ ซึ่งค่าที่ได้มีความแม่นยำต่ำ เนื่องจากไม่สามารถระบุเส้นทางที่ใช้ได้โดยตรง ผู้วิจัยจึงนำเสนอให้นำคำสั่งซื้อรายเดือนของแต่ละเส้นทาง มาพยากรณ์ด้วยวิธีพยากรณ์เชิงปริมาณตามอนุกรมเวลาโดยตรงแทน ในส่วนของการสร้างตัวแบบพยากรณ์ ผู้วิจัยรวบรวมข้อมูลคำสั่งซื้อจาก 10 เส้นทางของทุกกลุ่มสินค้า หลังจากนั้นจึงทำความสะอาดข้อมูลและสร้างตัวแบบพยากรณ์ด้วยวิธีการหาค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่, วิธีการปรับเรียบเอกซ์โพเนนเชียลอย่างง่าย, วิธีพยากรณ์อย่างง่ายสำหรับข้อมูลแนวโน้ม, วิธีการหาค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่สองครั้ง, วิธีการปรับเรียบเอกซ์โพเนนเชียลซ้ำสองครั้ง, วิธีการปรับเรียบเอกซ์โพเนนเชียลของฮอล์ท และวิธีบ็อกซ์-เจนกินส์ ตามความเหมาะสม และเปรียบเทียบความแม่นยำด้วยค่า MPE, MAPE และ RMSE เพื่อหาตัวแบบที่ให้ความแม่นยำสูงสุด จากผลการศึกษาพบว่า ตัวแบบที่ให้ความแม่นยำสูงสุดของแต่ละเส้นทางมีความแตกต่างกัน ทำให้นำไปใช้งานจริงได้ยาก และพบว่าการสร้างตัวแบบตามลักษณะข้อมูลของแต่ละกลุ่มสินค้า กล่าวคือใช้วิธี บ็อกซ์-เจนกินส์กับข้อมูลกลุ่มสินค้า A และ C ใช้วิธีหาค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่สองครั้งกับข้อมูลกลุ่มสินค้า B และนำค่าที่ได้มารวมกันเป็นค่าของแต่ละเส้นทาง ให้ค่าความแม่นยำอยู่ใน 3 อันดับแรกของทุก ๆ เส้นทาง จึงสามารถนำมาใช้กับทุกเส้นทางได้ โดยค่าพยากรณ์มีความแม่นยำมากขึ้น 11% โดยเฉลี่ย รวมถึงตัวแบบดังกล่าวยังสามารถลดปัญหาค่าพยากรณ์น้อยกว่ายอดคำสั่งซื้อจริงโดยรวมได้อีกด้วย


การเปรียบเทียบการส่งสินค้าอาหารสดผ่านศูนย์กระจายสินค้ากับการส่งโดยตรงสู่ร้านค้า: กรณีนำร่องของบริษัทค้าปลีกสมัยใหม่, ปภาวรินทร์ ทะสอน Jan 2021

การเปรียบเทียบการส่งสินค้าอาหารสดผ่านศูนย์กระจายสินค้ากับการส่งโดยตรงสู่ร้านค้า: กรณีนำร่องของบริษัทค้าปลีกสมัยใหม่, ปภาวรินทร์ ทะสอน

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

สารนิพนธ์ฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดความแตกต่างในด้านต้นทุน เวลา และประสิทธิภาพของการจัดส่งอาหารสดจากซัพพลายเออร์ผ่านศูนย์กระจายสินค้าไปยังร้านค้า (CD) และการจัดส่งตรงจากซัพพลายเออร์ไปยังร้านค้า (DSD) ของบริษัทค้าปลีกโดยทำการเปรียบเทียบการเลือกกรณีการจัดส่งทั้ง 2 ประเภท จากการศึกษาการดำเนินงานของซัพพลาพเออร์ภายใต้การจัดส่งที่คล้ายคลึงกัน โดยเก็บรวบรวมข้อมูลจากการสังเกตการปฏิบัติงานภาคสนามและการสัมภาษณ์ผู้ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการโดยตรง จากการศึกษาการเปรียบเทียบระหว่างการจัดส่งแบบ DSD และการจัดส่งแบบ CD พบว่าการจัดส่งแบบ DSD จะช่วยให้สินค้ามีคุณภาพและลดเวลาการจัดส่งจากซัพพลายเออร์ไปถึงหน้าร้านประมาณ 5 ชั่วโมง สินค้าที่วางขายหน้าร้านมีความสดกว่า และสินค้าเกิดความเสียหายน้อยกว่า ในขณะเดียวกันยังส่งผลให้ต้นทุนลดลงโดยเฉลี่ยประมาณ 1.70 บาทต่อกิโลกรัม อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาเจาะลึกลงไปจะเห็นว่า ในการเปลี่ยนรูปแบบการจัดส่ง บริษัทค้าปลีกเป็นผู้ได้รับประโยชน์จากการลดต้นทุน สามารถลดค่าใช้จ่ายลงได้ประมาณ 6.20 บาทต่อกิโลกรัม ในขณะที่ซัพพลายเออร์ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นประมาณ 4.50 บาทต่อกิโลกรัม


การปรับปรุงระบบการจัดเก็บสินค้าคงคลัง และกำหนดนโยบายการสั่งซื้อสินค้าอย่างเหมาะสม กรณีศึกษา บริษัทจัดจำหน่ายรองเท้าสตรี, ชิสา ฤกษ์ศิลาธรณ์ Jan 2021

การปรับปรุงระบบการจัดเก็บสินค้าคงคลัง และกำหนดนโยบายการสั่งซื้อสินค้าอย่างเหมาะสม กรณีศึกษา บริษัทจัดจำหน่ายรองเท้าสตรี, ชิสา ฤกษ์ศิลาธรณ์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ผู้วิจัยได้ทำการศึกษากรณีของบริษัทจัดจำหน่ายรองเท้าแฟชั่นสตรี ซึ่งปัจจุบันกำลังประสบปัญหาการมีสินค้าคงคลังที่เสื่อมสภาพเป็นจำนวนมาก ซึ่งสินค้าที่ทำรายได้หลักของบริษัทมีสัดส่วนไม่ถึง 50% ของสินค้าคงคลังทั้งหมด ในขณะที่ระดับการให้บริการลูกค้าอยู่ในระดับ 90% งานวิจัยฉบับนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงนโยบายการสั่งซื้อและการจัดเก็บสินค้าคงคลังประเภทที่มีความหลากหลายมากเพื่อลดปริมาณ รวมถึงต้นทุนสินค้าคงคลังในขณะที่ยังสามารถรักษาระดับการให้บริการลูกค้าให้อยู่ในระดับที่ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 95 การศึกษาเริ่มจากการจัดลำดับความสำคัญของสินค้าด้วยวิธี ABC Classification และเลือกสินค้าที่มีความสำคัญที่สุด 126 SKU มาดำเนินการหานโยบายการสั่งซื้อที่เหมาะสมด้วยการสร้างแบบจำลองสถานการณ์มอนติคาร์โล ภายใต้สถานการณ์ที่มีปริมาณความต้องการและระยะเวลาสั่งซื้อแบบไม่คงที่ โดยได้เปรียบเทียบผลการกำหนดนโยบายระหว่างแบบปริมาณการสั่งคงที่ (Q Model) และรอบการสั่งคงที่ (P Model) พร้อมทั้งเปรียบเทียบผลลัพธ์ของนโยบายใหม่ที่กำหนดกับนโยบายปัจจุบัน เพื่อสรุปและกำหนดเป็นนโยบายที่เหมาะสมในการสั่งซื้อสินค้าในอนาคต โดยได้ใช้ข้อมูลยอดขายปี 2562 และ 2563 จากการศึกษาพบว่านโยบายแบบรอบเวลาการสั่งคงที่ (P model) โดยกำหนดรอบเวลาให้สั่งสินค้ากลุ่ม A B และ C ทุก 2 เดือน ในขณะที่กำหนดระดับการให้บริการที่ 99% เมื่อเทียบกับนโยบายปัจจุบัน สามารถลดต้นทุนรวมได้ 22.66% ในปี 2562 และ 7.19% ในปี 2563 นอกจากนี้นโยบายใหม่ยังส่งผลให้ Inventory Turnover เฉลี่ยสูงขึ้น รวมถึงระดับการให้บริการที่เพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย


Gis Mapping Evaluation Of Stroke Service Areas In Bangkok Using Emergency Medical Services, Kiatirat Sreemongkol Jan 2021

Gis Mapping Evaluation Of Stroke Service Areas In Bangkok Using Emergency Medical Services, Kiatirat Sreemongkol

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Nowadays, stroke is the leading cause of death in Thailand. Patients must be treated within 4.5 hours from symptom onset to increase recovery rate. Time is therefore a critical factor of the success or failure of the treatments. The objective of this research is to investigate the service coverage of various healthcare centers through current Emergency Medical Services (EMS) in Bangkok. To get service coverages for Stroke in Bangkok, the updated speed of the traffic and the amount of time it takes for each mode of transport for the pre-hospital stroke process are collected and examined using GIS mapping. The …


Contributing Factors In Aircraft Accidents Triggering Fatalities, Prakayphet Chalayonnawin Jan 2021

Contributing Factors In Aircraft Accidents Triggering Fatalities, Prakayphet Chalayonnawin

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Air transport has always been considered the safest way to travel. It has contributed numerous economic and social benefits, for instance, connecting multimodal modes of transportation, increasing employment, driving global and local economic activities, reducing travel time and generating trade, tourism, and services, connecting people and countries, and supporting humanitarian activities in a remote rural area. Historical records on the fatality ratio suggested that air transportation has the highest likelihood of accidents (occurrences with fatalities) when compared to all other transportation modes, including highway, railroad, and water. Then, when an accident occurs, it largely affects various stakeholders. This study aims …


The Healthcare Information For Patient Referral, Veerawan Aumpanseang Jan 2021

The Healthcare Information For Patient Referral, Veerawan Aumpanseang

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Despite the cooperative sharing of Health Information Exchange (HIE), various distinct limitations and barriers are found, i.e., substantial time and resources are being used to achieve health information. This paper aims to investigate the limits of healthcare information sharing policy implementation and assorts the critical and shareable set of relevant healthcare information to patient referral systems in Thailand. Mixed-methods research methodology, both quantitative and qualitative mechanisms are conducted. The study results present the correlation between the current healthcare information exchange among the hospitals in patient referral systems and the limitations of implementing the HIE policy composed of technical, economic, political, …


แบบจำลองทางเลือกเชิงพื้นที่สำหรับการตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวด้วยระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ กรณีศึกษา พื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากประจำ จังหวัดสุโขทัย, ณรัช วรากุลภิญโญ Jan 2021

แบบจำลองทางเลือกเชิงพื้นที่สำหรับการตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวด้วยระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ กรณีศึกษา พื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากประจำ จังหวัดสุโขทัย, ณรัช วรากุลภิญโญ

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

อุทกภัยเป็นภัยธรรมชาติประเภทหนึ่งที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุดซึ่งเกิดจากฝนตกหนัก หิมะละลายอย่างรวดเร็ว คลื่นพายุจากพายุไซโคลนเขตร้อนหรือสึนามิในพื้นที่ชายฝั่งทะเล ซึ่งส่งผลให้เกิดการสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน และคาดว่าความถี่และความรุนแรงของน้ำท่วมจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ประเทศไทยมักเกิดภัยพิบัตินี้อยู่เสมอ ซึ่งจังหวัดสุโขทัยเป็นอีกหนึ่งที่ต้องเผชิญกับปรากฏการณ์นี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้ว่าจะมีแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2563 แต่พื้นที่อพยพบางส่วนยังคงอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก วัตถุประสงค์ในศึกษาจึงทำการหาที่ตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวเพื่ออพยพประชาชนในพื้นที่และผู้ประสบภัยที่ต้องการสถานพยาบาล และหาเส้นทางที่เหมาะสมและสะดวกแก่ประชาชนในการอพยพจากหมู่บ้านไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวและไปยังโรงพยาบาล การศึกษานี้ใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์และฟังก์ชันโซเวอร์ในไมโครซอฟต์ เอกซ์เซล เพื่อระบุตำแหน่งที่ตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว จากผลการวิจัยพบว่าในพื้นที่ที่ทำการศึกษามีหมู่บ้านจำนวน 41 หมู่บ้านที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากประจำ แล้วสถานที่ตั้งโรงเรียนเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว โดยแบ่งการคำนวณออกเป็นร้อยละ 50 60 70 80 90 และ 100 ของประชากร ผลที่ได้จากการจำลองสถานการณ์ คือ จำนวนศูนย์พักพิงชั่วคราวสามารถรองรับผู้อพยพได้เพียงพอและมีระยะทางเฉลี่ยจากศูนย์พักพิงชั่วคราวไปยังโรงพยาบาลสั้นกว่าแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แต่ระยะทางเฉลี่ยรวมมากขึ้น


การเลือกใช้เทคนิคพยากรณ์สำหรับสินค้าประเภทเวชภัณฑ์, อธิเมศร์ เชาว์สุทธิศักดิ์ Jan 2021

การเลือกใช้เทคนิคพยากรณ์สำหรับสินค้าประเภทเวชภัณฑ์, อธิเมศร์ เชาว์สุทธิศักดิ์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยเรื่องการเลือกใช้เทคนิคพยากรณ์สำหรับสินค้าประเภทเวชภัณฑ์ จากการวิเคราะห์ตัวอย่าง บริษัทตัวอย่าง A ซึ่งเป็นบริษัทนำเข้าสินค้าและจัดจำหน่ายเวชภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ปัจจุบันกำลังประสบปัญหาสินค้ามีอายุสั้น อันเนื่องมาจากปริมาณการสั่งซื้อสินค้ามีมากกว่าปริมาณที่สามารถขายออกไปได้ ปัญหาเหล่านี้มีสาเหตุมาจากการขาดความแม่นยำในการการวางแผนการขายสินค้า และการสำรองเวชภัณฑ์ที่มากกว่าความต้องการใช้จริง จากการศึกษาข้อมูลเบื้องต้น ด้วยการจัดการวัตถุดิบคงคลังพบว่า ในส่วนที่ 1จำแนกประเภทโดยใช้ด้วยวิธี ABC Classification ตามหลักเกณฑ์เรื่องอายุการเก็บรักษา สินค้ากลุ่ม A มีสินค้าทั้งหมด 12 รายการ โดยมีอายุการเก็บรักษาที่ 1 ปี โดยมีปริมาณการขายเฉลี่ย 3 ปีทั้งสิ้นจำนวน 45,339 ขวด และมีมูลค่าการขายเฉลี่ย 3 ปีทั้งสิ้นจำนวน 47,673,060 บาท โดยคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 34.27 ของมูลค่าสินค้าทั้งหมด ในส่วนที่ 2 การพยากรณ์ความต้องการ จากการคำณวนโดยใช้วิธีการพยากรณ์ทั้ง 7 วิธีกับ 12 รายการ ผู้วิจัยพบว่า แต่ละรายการสามารถใช้วิธีการพยากรณ์ที่เหมาะสมที่สุดแตกต่างกันออกไป ตัวอย่างเช่น วิธีการพยากรณ์ DECOMPOSITION METHOD เป็นวิธีที่ให้ค่าความคลาดเคลื่อนน้อยที่สุดโดยใช้ค่า MAD, MSE และ MAPE สำหรับรายการ ARIXTRA PFS 2.5MG./0.5 ML. 1X10เป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุด ส่วนที่ 3 ต้นทุนรวมสินค้าคงคลังที่ต่ำที่สุดโดยรวมของกลุ่ม A ใน 2 แบบ พบว่ารูปแบบการจัดซื้อแบบปัจจุบันคือ 45,375,531 บาทต่อปี และรูปแบบการจัดซื้อแบบ EOQ คือ 33,545,039 บาทต่อปี มีค่ามากกว่าต้นทุนรวมสินค้าคงคลังที่ต่ำที่สุดโดยรวมในแบบ EOQ อยู่ที่ 11,830,492 บาท