Open Access. Powered by Scholars. Published by Universities.®

Business Commons

Open Access. Powered by Scholars. Published by Universities.®

Articles 1 - 30 of 73

Full-Text Articles in Business

Rethinking Tourism And Public Health Policies In International Travel Megahubs For The Post-Covid-19 Era, Jeconiah Louis Dreisbach, Sharon Mendoza-Dreisbach Aug 2022

Rethinking Tourism And Public Health Policies In International Travel Megahubs For The Post-Covid-19 Era, Jeconiah Louis Dreisbach, Sharon Mendoza-Dreisbach

Journal of Health Research

Background: This article rethinks current public health policies to transdisciplinarily reorient the countries’ tourism policies as a preparation to future pandemics. This adds to the public health discourse that West Asian international travel megahubs could be susceptible spaces to high risks of transnational viral transmissions.

Method: This is a letter to the editor.

Results: The United Arab Emirates, Turkey, and Qatar are the world’s leading international travel megahubs, with Saudi Arabia catching up following its efforts in establishing a new national airline to increase international passenger traffic. Collectively, they are connected to more than half of the world’s leading international …


การคาดการณ์อัตรามรณะไทยตามสาเหตุของการตายด้วยวิธีการกระทบยอดรวม, สุพัตรา ยกซ้าย Jan 2022

การคาดการณ์อัตรามรณะไทยตามสาเหตุของการตายด้วยวิธีการกระทบยอดรวม, สุพัตรา ยกซ้าย

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อคาดการณ์อัตรามรณะของประชากรไทยในอีก 20 ปีข้างหน้า แยกตามสาเหตุของการตายที่สำคัญ ได้แก่ โรคมะเร็งทุกชนิด โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจขาดเลือด อุบัติเหตุจากการคมนาคมขนส่งทางบก โรคเบาหวาน และรวมทุกสาเหตุการตาย ตามบัญชีจำแนกโรคระหว่างประเทศ (ICD-10) โดยใช้ตัวแบบ ลี-คาร์เตอร์ จากนั้นทำการกระทบยอดในแบบ Bottom-up และ Trace minimization forecasts (MinT) ข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ จำนวนประชากรกลางปีและจำนวนประชากรที่เสียชีวิตแยกตามสาเหตุของการตาย จำแนกตามเพศและอายุ จากสถิติสาธารณสุข กองยุทธศาสตร์และแผนงาน กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่ปี พ.ศ.2540 – 2562 ผลการวิจัยพบว่า ค่าคาดการณ์อัตรามรณะของประชากรไทย เมื่อทำการกระทบยอดแบบ Bottom-up และแบบ Trace minimization forecasts (MinT) มีแนวโน้มไปในทิศทางเดียวกันทั้งเพศชายและเพศหญิง คือมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและลดลงในช่วงอายุเริ่มต้น ยกเว้นการตายด้วยโรคมะเร็งทุกชนิดและอุบัติเหตุจากการคมนาคมขนส่งทางบก หลังจากนั้นค่าอัตรามรณะมีการเพิ่มขึ้นอีกครั้งในช่วงปลายของช่วงอายุ ยกเว้นการตายด้วยโรคหัวใจขาดเลือด และโรคเบาหวานในเพศหญิง โดยที่การคาดการณ์กระทบยอดแบบ Trace minimization forecasts (MinT) มีความเหมาะสมกว่าแบบ Bottom-up นอกจากนั้นการวิจัยนี้ได้นำค่าอัตรามรณะที่คำนวณได้ไปใช้ในการคำนวณหาเบี้ยประกันภัยสุทธิของแบบประกันชีวิตตัวอย่าง ที่ให้ผลประโยชน์การตายตามสาเหตุการตายที่สำคัญด้วย


การปรับปรุงระบบโลจิสติกส์เพื่อส่งออกน้ำตาลด้วยตู้คอนเทนเนอร์, วิริญา ภานุพงษ์ Jan 2022

การปรับปรุงระบบโลจิสติกส์เพื่อส่งออกน้ำตาลด้วยตู้คอนเทนเนอร์, วิริญา ภานุพงษ์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเปรียบเทียบทางเลือกของระบบโลจิสติกส์ของการส่งออกน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์บรรจุกระสอบด้วยตู้คอนเทนเนอร์ที่เหมาะสมที่สุดโดยเปรียบเทียบในสี่ทางเลือก ระบบแรกที่ใช้อยู่ปัจจุบันคือการขนย้ายน้ำตาลไปจัดเก็บไว้เป็นสินค้าคงคลังเพื่อรอการส่งออกที่คลังสินค้าเช่าภายนอกที่อยู่ห่างไกลจากโรงงานและใช้รถหัวลากขนส่งตู้คอนเทนเนอร์มาบรรจุน้ำตาลที่คลังสินค้าเพื่อขนส่งนำไปท่าเรือแหลมฉบัง ระบบที่สองใช้รถหัวลากขนส่งตู้คอนเทนเนอร์มาบรรจุน้ำตาลที่โรงงานแล้วขนส่งนำไปท่าเรือแหลมฉบังระบบที่สามมีรูปแบบคล้ายกับระบบที่สองแต่ใช้การขนส่งทางรถไฟเพื่อนำตู้คอนเทนเนอร์มาบรรจุน้ำตาลที่โรงงานแล้วขนส่งนำไปท่าเรือแหลมฉบังด้วยรถไฟ และระบบที่สี่คือการขนย้ายน้ำตาลไปทำการบรรจุเข้าตู้คอนเทนเนอร์ที่คลังสินค้าภายนอกใกล้กับท่าเรือแหลมฉบังแล้วใช้รถหัวลากขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ไปท่าเรือแหลมฉบัง ผลการวิเคราะห์พบว่าทางเลือกที่มีต้นทุนโลจิสติกส์ต่ำที่สุดคือระบบที่สามที่ทำการบรรจุน้ำตาลเข้าตู้คอนเทนเนอร์ที่โรงงานแล้วขนส่งด้วยรถไฟไปท่าเรือ และทางเลือกที่มีต้นทุนทางโลจิสติกส์ที่น้อยที่สุดถัดมาได้แก่ระบบที่สี่ซึ่งนำน้ำตาลไปทำการบรรจุตู้คอนเทนเนอร์ที่คลังสินค้าใกล้ท่าเรือ อย่างไรก็ตามเมื่อเปรียบเทียบในเชิงระยะเวลาการขนส่ง ระบบที่สี่นั้นใช้ระยะเวลามากกว่าหนึ่งวันเพียงเล็กน้อยเพื่อขนส่งน้ำตาลกระสอบบรรจุตู้คอนเทนเนอร์ไปท่าเรือหลังจากที่มีการแจ้งรับน้ำตาลจากสายเรือ ในขณะที่ระบบที่สามต้องใช้ระยะเวลาสี่วันและอาจพบความเสี่ยงจากการบริการของรถไฟที่ยังไม่มีความเสถียรเพียงพอ โดยสรุปแล้วในด้านต้นทุนโลจิสติกส์และระยะเวลาการขนส่งจึงเลือกใช้ระบบที่สี่ซึ่งเป็นระบบที่ดีที่สุด


The Impact Of Government Response To Covid-19 On Stock Return Predictability, Disayadej Dangdej Jan 2022

The Impact Of Government Response To Covid-19 On Stock Return Predictability, Disayadej Dangdej

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Recession is known to cause an increase in stock return predictability. The COVID-19 pandemics had not only resulted in sickness and loss of life but also plunged global economy into recession prompting governments to come up with measures to combat the disease. This paper first confirms that return predictability increased due the spread of COVID-19 using data from 41 countries on variations of popular predictors. Furthermore, it shows that government responses to COVID-19 alleviated the pandemic, the recession and reduced the return predictability with varying impact for different government measures. However, cases and deaths from COVID-19 which should have intensified …


Application Of Fractional Exponential Feature To Garch Model Variants For Improvement In Value-At-Risk Prediction, Chanet Saisatian Jan 2022

Application Of Fractional Exponential Feature To Garch Model Variants For Improvement In Value-At-Risk Prediction, Chanet Saisatian

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

This research studies about using GARCH model variants as a parametric way in estimation and prediction of daily Value-at-Risk (VaR), one of famous risk measurement especially in financial world. To cope with various stylized facts on market’s volatility, two mixed GARCH models are proposed in this research: HY-GJR-GARCH model, the hybrid between hyperbolic GARCH (HYGARCH) and GJR-GARCH models, and HY-MS-GARCH model as the amalgam between HYGARCH and Markov switching GARCH (MSGARCH) models. These mixed models, along with rich mathematical formulations and benefits from their base models, are expected that their performance in predicting daily VaR is advanced against the performance …


อิทธิพลของประสบการณ์และความเชื่อใจ ที่มีต่อความพึงพอใจของผู้บริหารจากการร่วมพันธมิตร เชิงกลยุทธ์: กรณีศึกษา บริษัทเทคโนโลยีขนาดเล็กและขนาดกลางในประเทศไทย, กษิดิศ สว่างนวล Jan 2022

อิทธิพลของประสบการณ์และความเชื่อใจ ที่มีต่อความพึงพอใจของผู้บริหารจากการร่วมพันธมิตร เชิงกลยุทธ์: กรณีศึกษา บริษัทเทคโนโลยีขนาดเล็กและขนาดกลางในประเทศไทย, กษิดิศ สว่างนวล

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา อิทธิพลของประสบการณ์และความเชื่อใจ ที่มีต่อความพึงพอใจของผู้บริหารจากการร่วมพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ ของบริษัทเทคโนโลยีขนาดเล็กและขนาดกลางในประเทศไทย โดยขั้นตอนการวิจัยแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย 1. การสัมภาษณ์เชิงลึกกลุ่มตัวอย่างจำนวน 15 บริษัท 2.วิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีวิเคราะห์แก่นสาระ 3.สรุปผลการวิจัย ซึ่งงานวิจัยนี้จัดทำขึ้นเพื่อทำความเข้าใจความสัมพันธ์รูปแบบพันธมิตรและการทำงานร่วมกันกับพันธมิตรของบริษัทเทคโนโลยีขนาดเล็กและขนาดกลางในประเทศไทย จากการวิจัยพบว่าความสัมพันธ์รูปแบบพันธมิตรอยู่บนความไว้วางใจโดยควรให้ความสำคัญทั้งความไว้วางใจระหว่างองค์กรและความไว้ใจระหว่างบุคคลเนื่องจากมีส่วนช่วยให้องค์กรเข้าถึงทรัพยากรที่มากขึ้นและส่งเสริมการร่วมมือกันในระหว่างพันธมิตรรวมถึงประสบการณ์การทำงานร่วมกันกับพันธมิตรในอดีตมีส่วนช่วยให้บริษัทสร้างแนวทางการทำงานและสามารถบริหารจัดการพันธมิตรได้ดีมากยิ่งขึ้นเพื่อให้การร่วมงานกับพันธมิตรราบรื่นที่สุดและจะทำให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายของการสร้างพันธมิตรช่วยให้ความสัมพันธ์เหนียวแน่นและยืนยาวยิ่งขึ้น ส่งผลต่อความพึงพอใจแก่เจ้าของบริษัทเทคโนโลยีขนาดเล็กและขนาดกลาง งานวิจัยนี้ช่วยให้เจ้าของบริษัท ผู้บริหาร พนักงานที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเทคโนโลยีมีความเข้าใจในขั้นตอนตั้งแต่เริ่มต้นค้นหาพันธมิตร การจัดตั้ง ทำงานร่วมกันกับพันธมิตรว่าควรทำอะไร ทำอย่างไร ทำกับใคร และทำเมื่อไหร่ เพื่อให้การร่วมมือกับพันธมิตรนั้นประสบความสำเร็จอย่างที่ตั้งใจไว้ตามจุดประสงค์


โครงการมหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ (U2t) กับการพัฒนาชุมชนด้านผลิตภัณฑ์ : กรณีศึกษาเปรียบเทียบ ชุมชนบ้านทะเลน้อย ตำบลทางเกวียน และชุมชนบ้านวังหว้า ตำบลวังหว้า อำเภอแกลง จังหวัดระยอง, รติมา พงษ์อริยะ Jan 2022

โครงการมหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ (U2t) กับการพัฒนาชุมชนด้านผลิตภัณฑ์ : กรณีศึกษาเปรียบเทียบ ชุมชนบ้านทะเลน้อย ตำบลทางเกวียน และชุมชนบ้านวังหว้า ตำบลวังหว้า อำเภอแกลง จังหวัดระยอง, รติมา พงษ์อริยะ

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาบทบาทและกระบวนการทำงานของโครงการมหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ (U2T) ที่มีส่วนช่วยในการพัฒนาชุมชนด้านผลิตภัณฑ์ ในชุมชนบ้านทะเลน้อย และชุมชนบ้านวังหว้า จังหวัดระยอง 2) ศึกษาพัฒนาการด้านผลิตภัณฑ์ของชุมชนบ้านทะเลน้อยและชุมชนบ้านวังหว้าหลังจากมีการดำเนินการตามโครงการ U2T 3) ศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการประสบความสำเร็จในการพัฒนาด้านผลิตภัณฑ์ของชุมชน โดยศึกษาเปรียบเทียบระหว่างชุมชนบ้านทะเลน้อยและชุมชนบ้านวังหว้า หลังจากมีการดำเนินการตามโครงการ โดยมีกลุ่มตัวอย่างในการให้ข้อมูล ได้แก่ ชาวบ้าน คณะทำงานโครงการ U2T และเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่ศึกษา รวมถึงนักวิจัยผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประเมินโครงการ ด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึก ซึ่งกำหนดวิธีเลือกโดยการเจาะจง จำนวน 27 คน และใช้วิธีการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1) การทำงานของโครงการมีส่วนช่วยในการพัฒนาชุมชนด้านผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่การสำรวจปัญหาที่เกิดขึ้นในชุมชน คิดกิจกรรมการอบรมที่ชาวบ้านต้องการเพื่อตอบสนองและแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะความรู้เกี่ยวกับด้านผลิตภัณฑ์ 2) พัฒนาการด้านผลิตภัณฑ์ของชุมชนดีขึ้น ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาจากการเข้าร่วมกิจกรรมอบรม และผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาจากการช่วยเหลือของโครงการ 3) ปัจจัยที่มีผลต่อการประสบความสำเร็จในการพัฒนาด้านผลิตภัณฑ์ของชุมชนหลังดำเนินการตามโครงการ คือ ความรู้ความสามารถ การเอาใจใส่ต่อโครงการของอาจารย์ผู้รับผิดชอบโครงการ ความเข้มแข็งของผู้นำชุมชน การมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ความร่วมมือจากชาวบ้าน การมีทุนทรัพยากรธรรมชาติและทรัพยากรมนุษย์ และการสร้างการมีส่วนได้ให้ชุมชน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยที่ช่วยให้โครงการดำเนินการได้อย่างราบรื่น


การมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการปัญหาคนกับช้างป่ากรณีศึกษา: การท่องเที่ยวสัตว์ป่า อุทยานแห่งชาติกุยบุรี, วรัญญา ยิ้มแย้ม Jan 2022

การมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการปัญหาคนกับช้างป่ากรณีศึกษา: การท่องเที่ยวสัตว์ป่า อุทยานแห่งชาติกุยบุรี, วรัญญา ยิ้มแย้ม

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ปัญหาคนกับช้างป่าเกิดจากการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ป่าเป็นพื้นที่เกษตรและที่อยู่อาศัยของคน จึงมีการใช้ทรัพยากรร่วมกัน และทำให้แหล่งอาหารของช้างป่าลดลง ช้างป่าจึงออกมากินผลผลิตภายในไร่ของชาวบ้าน ชุมชนจึงมีความพยายามที่จะแก้ปัญหาในลักษณะต่างๆ งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาสภาพปัญหาคนกับช้างป่าและผลกระทบจากช้างป่าต่อการดำรงชีพของชุมชนบ้านรวมไทย และศึกษากระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนบ้านรวมไทย ตำบลหาดขาม อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ร่วมกับหน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาคนกับช้างป่าในบริเวณอุทยานแห่งชาติกุยบุรี เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้วิธีการสัมภาษณ์เจาะลึก กลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญคือ ชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากช้างป่า และเจ้าหน้าที่หน่วยงาน องค์กรที่เกี่ยวข้อง จำนวน 33 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า ปัญหาคนกับช้างป่าในพื้นที่ชุมชนหมู่บ้านรวมไทย เกิดจากการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินจากพื้นที่ป่ามาทำการเกษตรปลูกไร่สับปะรด เป็นสาเหตุที่ดึงดูดช้างป่าให้เข้ามาในพื้นที่และทำให้พฤติกรรมของช้างป่าเปลี่ยนแปลงไป จากการอพยพหาแหล่งอาหารในป่าลึก มาเป็นการปักหลักอยู่กับที่ ผลกระทบที่เกิดขึ้นด้านทรัพยากรธรรมชาติ คือ ผลผลิตทางการเกษตร ถูกทำลาย ส่งผลกระทบต่อด้านการเงิน เพราะผลผลิตที่ถูกทำลายคือรายได้ของชาวบ้านที่จะได้รับ ส่งผลกระทบต่อด้านสุขภาพร่างกายและใจ เนื่องด้วยชาวบ้านต้องปกป้องผลผลิตทางเกษตร จึงต้องไปนอนเฝ้าไร่ตลอดทั้งคืน เกิดการอ่อนล้า อ่อนเพลีย หวาดระแวง และวิตกกังวล ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน จึงเกิดวิธีการแก้ไขการแก้ไขปัญหาโดยการใช้กระบวนการมีส่วนร่วมระหว่างชาวบ้านกับเจ้าหน้าที่หน่วยงาน/องค์กรที่เกี่ยวข้อง ทำให้เกิดขั้นตอนการทำงาน ดังนี้ 1) การค้นหาปัญหา โดยให้ข้อมูลผลกระทบที่ได้รับ ทรัพยากรที่มี และปัญหาการปฏิบัติงาน 2) การวางแผน โดยการจัดตั้งและบริหารชมรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สัตว์ป่า ร่วมคิดกิจกรรมท่องเที่ยวชมสัตว์ป่า กำหนดกฎระเบียบสำหรับมัคคุเทศก์ท้องถิ่นและผู้ขับรถนำชมสัตว์ป่า 3) การดำเนินการ โดยร่วมบริหารจัดการชมรมฯ การบริการนักท่องเที่ยว และช่วยเหลืองานอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสัตว์ป่า 4) การรับและแบ่งปันผลประโยชน์ โดยได้ค่าตอบแทนเมื่อเข้ามาปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงาน และได้รับการช่วยเหลือเยียวยาในกรณีเกิดเหตุร้ายแรง และ 5) การประเมินผล โดยการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับหน่วยงาน และรับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพื่อการปรับปรุงงาน โดยระดับการมีส่วนร่วมของชุมชนอยู่ในขั้นการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง นำมาซึ่งผลกระทบด้านสังคม ที่ทำให้ชุมชนเกิดกลุ่มอาชีพต่าง ๆ ภายในชุมชน ข้อมูลความรู้ที่ได้จากการวิจัยนี้สามารถนำไปเป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาคนกับช้างป่าเพื่อลดปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้น เพราะประเทศไทยมีหลายพื้นที่ที่ประสบปัญหาเช่นเดียวกัน


ความเต็มใจที่จะจ่ายค่าบริการนำเข้าสินค้าแบบเร่งด่วนทางอากาศ, กชนันท์ เวชบรรพต Jan 2022

ความเต็มใจที่จะจ่ายค่าบริการนำเข้าสินค้าแบบเร่งด่วนทางอากาศ, กชนันท์ เวชบรรพต

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษาครั้งนี้มุ่งเน้นเพื่อประเมินมูลค่าความเต็มใจที่จะจ่ายเพิ่มเติม สำหรับการยกระดับการให้บริการนำเข้าสินค้าแบบเร่งด่วนทางอากาศ โดยใช้วิธีแบบจำลองทางเลือกหรือการวิเคราะห์องค์ประกอบร่วม (Conjoint Analysis) ในการเก็บรวบรวมข้อมูลผ่านการสัมภาษณ์โดยตรงจากกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 100 ราย การศึกษาครั้งนี้ใช้การออกแบบ Orthogonal เพื่อสร้างการทดลองทางเลือกสำหรับรูปแบบการให้บริการ แต่ละทางเลือกของรูปแบบการให้บริการได้นำเสนอชุดคุณลักษณะการบริการรวมถึงอัตราค่าบริการ ซึ่งแต่ละสถานการณ์ทางเลือกสมมติถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นตัวเลือกระหว่างแนวทางการให้บริการพื้นฐานและอีกสองแนวทางเลือกที่มีการเพิ่มระดับการให้บริการ โดยที่ผู้ตอบแบบสอบถามแต่ละรายจะได้รับชุดสถานการณ์ทางเลือกทั้งหมด 7 ชุดสถานการณ์ เพื่อให้ผู้ตอบแบบสอบถามเลือกแนวทางที่พึงพอใจที่สุดภายใต้สถานการณ์เหล่านั้น ผลการวิเคราะห์เผยให้พบว่า ผู้บริโภคมีความเต็มใจที่จะจ่ายค่าใช้บริการเพิ่มเติมจากบริการพื้นฐานเป็นมูลค่า 213 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อบริการจัดส่งที่รวดเร็วขึ้นจาก 5-7 วัน เป็น 1-3 วัน เพิ่ม 166 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อการส่งมอบที่มีกำหนดเวลาแน่นอน เพิ่ม 162 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อให้มีเจ้าหน้าที่บริการส่วนตัว และเพิ่ม 79 บาทต่อกิโลกรัม หากมีการเปิดบริการทุกวัน ตามลำดับ ผลการศึกษาครั้งนี้นำไปสู่การจัดทำข้อเสนอแนะในการวางกลยุทธ์ของผู้ประกอบการธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศ ในการออกแบบและกำหนดราคาค่าบริการที่เหมาะสมและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริง


คุณภาพการให้บริการของท่าเรือตู้คอนเทนเนอร์​ในจังหวัดชลบุรี: มุมมองของตัวแทนรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ, เมธาวี แสงขาว Jan 2022

คุณภาพการให้บริการของท่าเรือตู้คอนเทนเนอร์​ในจังหวัดชลบุรี: มุมมองของตัวแทนรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ, เมธาวี แสงขาว

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความคาดหวัง การรับรู้การให้บริการ และคุณภาพการให้บริการของท่าเรือตู้คอนเทนเนอร์ในจังหวัดชลบุรี ในมุมมองของตัวแทนรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ และศึกษาปัจจัยส่วนบุคคลและลักษณะของธุรกิจที่มีผลต่อความคาดหวังและการรับรู้การให้บริการท่าเรือตู้คอนเทนเนอร์ในจังหวัดชลบุรี ในมุมมองของตัวแทนรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง คือ ตัวแทนรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศที่เข้าใช้บริการท่าเรือตู้คอนเทนเนอร์ในจังหวัดชลบุรีโดยเป็นสมาชิกในสมาคมผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ จำนวน 160 บริษัท ทำการวิเคราะห์สถิติโดยใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว กำหนดนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ผลการศึกษาพบว่า คุณภาพการให้บริการของท่าเรือตู้คอนเทนเนอร์ในเขตความรับผิดชอบของท่าเรือแหลมฉบัง ในภาพรวมและรายด้านทุกด้านอยู่ในเกณฑ์ที่ควรปรับปรุง เรียงตามลำดับ ได้แก่ ความน่าเชื่อถือ การตอบสนองต่อผู้รับบริการ การให้ความมั่นใจ ความเป็นรูปธรรมของบริการ และการดูแลเอาใจใส่ ตามลำดับ ปัจจัยส่วนบุคคล ด้านตำแหน่ง การศึกษา และประสบการณ์ในการทำงานส่งผลต่อความคาดหวังก่อนเข้ารับบริการ และระดับการรับรู้ของตัวแทนรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเมื่อได้เข้ารับบริการของท่าเรือตู้คอนเทนเนอร์ในเขตความรับผิดชอบของท่าเรือแหลมฉบังทุกด้าน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01


การเปรียบเทียบแบบจำลองการกำหนดราคาหลักทรัพย์ Capm และแบบจำลอง Fama-French ในการอธิบายอัตราผลตอบแทนของหลักทรัพย์ในกลุ่มธุรกิจสุขภาพ, พรชิตา ชินตานนท์ Jan 2022

การเปรียบเทียบแบบจำลองการกำหนดราคาหลักทรัพย์ Capm และแบบจำลอง Fama-French ในการอธิบายอัตราผลตอบแทนของหลักทรัพย์ในกลุ่มธุรกิจสุขภาพ, พรชิตา ชินตานนท์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่ออัตราผลตอบแทนของหลักทรัพย์ในกลุ่มธุรกิจสุขภาพและเปรียบเทียบความสามารถของแบบจำลองการกำหนดราคาหลักทรัพย์ในการอธิบายความผันผวนของอัตราผลตอบแทนของหลักทรัพย์ในกลุ่มธุรกิจสุขภาพ โดยศึกษาข้อมูลหลักทรัพย์กลุ่มธุรกิจสุขภาพ จำนวน 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ BCH, BDMS, BH, CHG และ MEGA ตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. 2557 ถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2565 เป็นระยะเวลา 108 เดือน ผลการศึกษาพบว่า เมื่อพิจารณาจากค่าสัมประสิทธิ์การตัดสินใจพหุคูณ (Adjusted R-Squared) แบบจำลองหกปัจจัยที่มีการกำหนดปัจจัยโมเมนตัมโดยใช้อัตราผลตอบแทนสะสม 2-12 เดือนก่อนหน้าสามารถอธิบายความผันผวนของอัตราผลตอบแทนของหลักทรัพย์ได้ดีที่สุด โดยอธิบายได้ 3 หลักทรัพย์ นอกจากนี้พบความสัมพันธ์ของความเสี่ยงตลาดและความเสี่ยงของขนาดกับอัตราผลตอบแทนของหลักทรัพย์กลุ่มธุรกิจสุขภาพในทุกหลักทรัพย์ แต่ไม่พบความสัมพันธ์กับปัจจัยการลงทุน และเมื่อพิจารณาในช่วงก่อนและหลังการเกิดโควิด-19 พบว่าหลังการเกิดโควิด-19 ปัจจัยความสามารถในการทำกำไร กลายเป็นปัจจัยที่ไม่มีนัยสำคัญ แต่ปัจจัยด้านการลงทุนกลายเป็นปัจจัยที่มีนัยสำคัญ


Communicating Innovation And Sustainability In Family Businesses Through Successions, Chanun Somboonvechakarn Jan 2022

Communicating Innovation And Sustainability In Family Businesses Through Successions, Chanun Somboonvechakarn

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Small and Medium-sized Enterprises (SMEs) contribute significantly to the economy, despite the fact that their survival rate is declining over generations. The purpose of this research is to create a communication model suitable for SMEs during succession for innovation and business sustainability. Fourteen innovative family SMEs in Thailand are selected using the assembled multiple-case study method, and in-depth individual interviews are conducted using the data triangulation method with the incumbents, successors, and long-serving non-family employees as participants from each business. There are two main findings. Issues regarding organizational innovation, social capital in the form of internal and external network relationships, …


Comparison Analysis Of Direct Shipment And Indirect Shipment From China To Malaysia : A Case Of Plastic Products, Martin Jacobsen Jan 2022

Comparison Analysis Of Direct Shipment And Indirect Shipment From China To Malaysia : A Case Of Plastic Products, Martin Jacobsen

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

This study aims to compare two alternatives for a Thai retail company’s process of shipping plastic product sourced from China to a subsidiary in Malaysia. The first alternative, currently in use, involves shipping the products for Malaysia subsidiary from Chinese suppliers along with those for Thailand in Full Container Load term to Thailand before being subsequently delivered to Malaysia. The second alternative is to directly ship the products from China in Less than Container Load term to Malaysia. The comparison focuses on total shipping cost, which includes sea freight, in-land transport cost, terminal handling charges, container freight station charges, warehousing …


การปรับปรุงกระบวนการผลิตหนังสือโดยแนวคิดลีนของบริษัท Aaa จำกัด, ธนวัต ธนสารโชคพิบูลย์ Jan 2022

การปรับปรุงกระบวนการผลิตหนังสือโดยแนวคิดลีนของบริษัท Aaa จำกัด, ธนวัต ธนสารโชคพิบูลย์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงกระบวนการผลิตโดยแนวคิดลีนกรณีศึกษาของบริษัท AAA จำกัด รวมถึงหาแนวทางพัฒนาเพื่อให้เวลารวมของการผลิตหนังสือนั้นลดลงซึ่งจะส่งผลให้สามารถผลิตหนังสือได้ทันเวลาการส่งมอบทันเวลา ด้วยการประยุกต์ใช้แผนผังสายธารคุณค่าร่วมกับการวิจัยปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม ขั้นตอนการศึกษาทั้งหมดแบ่งเป็น 9 ขั้นตอน ดังนี้ 1) กำหนดผลิตภัณฑ์มาศึกษา ซึ่งเป็นหนังสือที่กำลังผลิตจริงในปี 2566 2) ศึกษากระบวนการทั้งหมดของการผลิตหนังสือว่ามีกระบวนการใดบ้าง ขั้นตอนเป็นอย่างไร 3) การกำหนดปัญหาโดยใช้หลักการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม 4) เก็บข้อมูลจากการปฏิบัติงานจริงทั้งหมด 7 วัน 5) สร้างแผนผังสายธารคุณค่าสถานะปัจจุบัน 6) วิเคราะห์เพื่อปรับปรุงเพื่อปรับปรุงแผนผังสายธารคุณค่าใหม่ให้เหมาะสม 7) สร้างแผนผังสายธารคุณค่าสถานะอนาคต 8) นำไปใช้ปฏิบัติงานจริง เป็นระยะเวลา 49 วัน โดยเริ่มใช้ปฏิบัติจริงตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2566 9) สรุปผลการดำเนินงานเพื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก่อนและหลังการปรับปรุง ผลจากการวิจัยพบว่า ปัญหาที่ทำให้เกิดความล่าช้าคือกระบวนการเข้าเล่มจนเสร็จทั้งหมดแล้วจึงค่อยมาเข้าสันกาว หลังจากการปรับปรุงโดยการรวมกระบวนการเข้าเล่มและเข้าสันกาวเข้าด้วยกัน ส่งผลให้สามารถลดเวลาการผลิตรวมของหนังสือได้ถึงร้อยละ 19.24 ในแต่ละวันทำให้การผลิตนั้นสามารถผลิตได้ทันส่งมอบ


การปรับปรุงนโยบายการเติมเต็มสินค้าคงคลัง : กรณีศึกษา บริษัทค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง, วจนวรรณ จันทวี Jan 2022

การปรับปรุงนโยบายการเติมเต็มสินค้าคงคลัง : กรณีศึกษา บริษัทค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง, วจนวรรณ จันทวี

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ธุรกิจค้าปลีกสินค้า เป็นธุรกิจที่ต้องมีการบริหารจัดการสินค้าคงคลังที่เหมาะสม เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันกับผู้แข่งขันรายอื่นๆ โดยส่วนใหญ่แล้วการดำเนินงานภายใต้ธุรกิจ ลักษณะนี้มักไม่ทราบค่าความต้องการซื้อของลูกค้าได้ล่วงหน้า อีกทั้งลักษณะความต้องการสินค้า ยังมีลักษณะผันผวน ดังนั้นเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของการบริหารจัดการสินค้าคงคลังแล้ว บริษัทควรมีนโยบายในการเติมเต็มสินค้าคงคลังที่เหมาะสม เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ภายใต้ต้นทุนการบริหารจัดการที่เหมาะสม จากการศึกษาพบว่าในปัจจุบันบริษัทไม่ได้มีการกำหนด นโยบายในการเติมเต็มสินค้าคงคลัง ทั้งมิติทางด้านปริมาณ และเวลาในการสั่งซื้อ ทำให้เกิดปัญหา การจัดเก็บสินค้าคงคลังที่มากเกินไป ในขณะเดียวกันสินค้าบางประเภทกลับเกิดปัญหาสินค้าขาด มือ งานวิจัยฉบับนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการสินค้าคงคลัง โดย แบ่งการดำเนินงานออกเป็น 2 ส่วนหลัก ได้แก่การพยากรณ์ความต้องการสินค้า และการกำหนด นโยบายการเติมเต็มสินค้าคงคลังภายใต้ระยะเวลานำ และรอบการสั่งที่คงที่ ในส่วนขั้นตอนการ พยากรณ์ความต้องการสินค้านั้นพบว่าวิธีการที่เหมาะสมกับสินค้าแต่ละรายการสามารถให้ค่าความ คลาดเคลื่อนจากการพยากรณ์ไม่เกิน 10% ซึ่งสามารถใช้เป็นมาตรฐานในการกำหนดปริมาณสินค้า คงคลังสำรองเพื่อความปลอดภัย และระดับคงคลังเป้าหมาย (OUL) เมื่อดำเนินการทดสอบ นโยบายที่นำเสนอ พบว่าปริมาณสินค้าคงคลังสามารถลดลงได้มากถึง 41% ลดต้นทุนรวมลงได้ 25% และสามารถปรับปรุงความสามารถในการให้บริการเป็น 95% ได้


การคัดเลือกผู้ให้บริการบุคคลที่ 3 โดยการใช้กระบวนการตัดสินใจ แบบวิเคราะห์ลำดับชั้น : กรณีศึกษาบริษัทจำหน่ายสินค้าประเภทมอเตอร์ไฟฟ้า, อรจิรา บุญเล็ก Jan 2022

การคัดเลือกผู้ให้บริการบุคคลที่ 3 โดยการใช้กระบวนการตัดสินใจ แบบวิเคราะห์ลำดับชั้น : กรณีศึกษาบริษัทจำหน่ายสินค้าประเภทมอเตอร์ไฟฟ้า, อรจิรา บุญเล็ก

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษาและค้นคว้าอิสระนี้จะเป็นการศึกษาการคัดเลือกผู้ให้บริการโลจิสติกส์บุคคลที่ 3 (3PL) ในบริษัทกรณีศึกษา บริษัทจำหน่ายมอเตอร์ไฟฟ้า วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยในการคัดเลือกผู้ให้บริการและเพื่อคัดเลือกผู้ให้บริการโลจิสติกส์บุคคลที่ 3 ให้เหมาะสมต่อการดำเนินธุรกิจ และสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพในการขนส่งสินค้าและบริการ ผู้ศึกษาได้ทำการศึกษา รวบรวมปัจจัยและคัดเลือกเกณฑ์หลักที่ใช้ในการคัดเลือก ด้วยการจัดลำดับความสำคัญของปัจจัย โดยวิเคราะห์ Rough Step-wise Weight Assessment Ratio Analysis (R-SWARA) จากปัจจัย หลัก 6 ปัจจัย ประกอบด้วย การส่งมอบ ต้นทุน เทคโนโลยีสารสนเทศ ประสิทธิภาพทางการเงิน สิ่งที่จับต้องไม่ได้เช่น ชื่อเสียงและประสบการณ์ และการปฏิบัติงาน โดยมีการนำเกณฑ์หลัก หลังจากการจัดลำดับมาใช้ในการคัดเลือกผู้ให้บริการ 3PL ในการศึกษานี้ วิเคราะห์เลือกบริษัทผู้ ให้บริการ 3PL 4 ราย ด้วยวิธีวิเคราะห์ Analytic Hierarchy Process (AHP) ผู้ศึกษาจะใช้ แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญทั้งหมด 7 ท่าน ผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยที่ผู้เชี่ยวชาญให้น้ำหนักความสำคัญมากที่สุดคือ การส่งมอบ รองลงมาต้นทุน เทคโนโลยี สารสนเทศ ประสิทธิภาพทางการเงิน การปฎิบัติงานและสิ่งที่จับต้องไม่ได้ ตามลำดับ ซึ่งผลคะแนน รวมทางเลือกบริษัทผู้ให้บริการโลจิสติกส์บุคคลที่ 3 บริษัท B มีคะแนนความสำคัญสูงสุด รองลงมา เป็นบริษัท A บริษัท C และ บริษัท D ซึ่งบริษัท B และ A เป็นบริษัทที่บริษัทกรณีศึกษาใช้บริการ อยู่ในปัจจุบัน


Corporate Diversification And Stock Risk In Thailand: Evidence From A Global Shock, Miaoqi Su Jan 2022

Corporate Diversification And Stock Risk In Thailand: Evidence From A Global Shock, Miaoqi Su

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

The objective of this paper is to investigate the impact of corporate diversification on stock risk for 345 companies listed on Stock Exchange of Thailand during the sample period from 4 January 2017 to 30 December 2021 which covers both Covid and pre-Covid period. Furthermore, the differences in effect between Covid and pre-Covid period are also studied. The result shows that diversifying through only business segments and ignoring global diversification increases stock volatility. Furthermore, it also shows that diversifying through only business segments and ignoring global diversification increases stock volatility during the Covid period compared to pre-Covid period. The result …


การปรับปรุงกระบวนการทำงานของแผนกขนส่งสินค้าขาเข้า : บริษัทกรณีศึกษา Xyz, เปมิกา กาญจนกามล Jan 2022

การปรับปรุงกระบวนการทำงานของแผนกขนส่งสินค้าขาเข้า : บริษัทกรณีศึกษา Xyz, เปมิกา กาญจนกามล

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษาและค้นคว้าอิสระนี้เป็นการศึกษาการปรับปรุงกระบวนการทำงานของแผนกขนส่งสินค้าขาเข้า ของบริษัทกรณีศึกษา XYZ ซึ่งเป็นบริษัทตัวแทนนำเข้า และส่งออกสินค้า (Freight Forward Company) หนึ่งในกิจกรรมสำคัญ คือการอัปเดตสถานะสินค้าว่าสินค้านั้น ๆ ดำเนินการขนส่งอยู่ที่ไหนแล้วบ้าง เพื่ออัปเดตให้แก่ลูกค้าของบริษัทได้สามารถรับทราบเพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการวางแผนการผลิต การตลาด หรือประโยชน์อื่น ๆ และยังเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ใช้วัดผลประเมินประสิทธิภาพการทำงานของแผนกอีกด้วย ซึ่งคะแนนประสิทธิภาพในการทำงานนั้นยังส่งผลต่อการปรับคิดเงินเดือนประจำปี ตลอดจนโบนัสของพนักงานประจำบริษัทอีกด้วย ผู้วิจัยได้ทำการศึกษาหาสาเหตุที่ทำให้กระบวนการทำงานของบริษัทกรณีศึกษามีปัญหา ตลอดจนนำแนวคิด ทฤษฏี และเครื่องมือ ไม่ว่าเป็นแนวคิดลีน ไคเซ็น แผนผังสายธารแห่งคุณค่า (Value Stream Mapping : VSM) และแนวคิด ECRS เข้ามาช่วยในการดำเนินหาทางแก้ไขปัญหาที่บริษัทกรณีศึกษากำลังเผชิญ ตลอดจนการประชุมหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อหาแนวทางการทำงานใหม่ เพื่อให้ทุกคนทราบถึงปัญหาที่แท้จริง และช่วยกันหาแนวทางที่เหมาะสมในการแก้ไขปัญหาซึ่งหลังจากปรับปรุงกระบวนการนั้น พบว่าทั้ง 2 กิจกรรมการแจ้งเตือน ที่ผู้วิจัยทำการศึกษานั้น มีระยะเวลาเฉลี่ยในการทำงานลดลง และสามารถขจัดกระบวนการที่ไม่มีคุณค่าออกจากกระบวนการทำงานได้ โดยกิจกรรมการแจ้งเตือนที่ 1 มีระยะเวลาเฉลี่ยลดลงจาก 240:09 นาทีลดลงอยู่ที่ 118.36 นาที ระยะเวลาเฉลี่ยในการทำงานลดลงคิดเป็นร้อยละ 50.61 และกิจกรรมการแจ้งเตือนที่ 3 นั้นลดลงคิดเป็นร้อยละ 88.33 จะระยะเวลาเฉลี่ยรวมในการทำงานที่ 12,536:58 นาที ลดลงอยู่ที่ 1,462:57 นาที และในการวัดผลประเมินประจำเดือนธันวาคม 2565 พบได้ว่าสัดส่วนคะแนนเพิ่มขึ้น โดยกิจกรรมการแจ้งเตือนที่ 1 สัดส่วนคะแนนในเดือนธันวาคม 2565 อยู่ที่ 86.09% และกิจกรรมการแจ้งเตือนที่ 3 อยู่ที่ 90.54%


ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการยอมรับการใช้งาน Online Platform : กรณีศึกษาบริษัท Xyz, ฐิติกร แก้วดวงเด่น Jan 2022

ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการยอมรับการใช้งาน Online Platform : กรณีศึกษาบริษัท Xyz, ฐิติกร แก้วดวงเด่น

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

โครงงานพิเศษฉบับนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิต่อการยอมรับการใช้งาน เทคโนโลยีสำหรับผู้นำเข้าส่งออกและตัวแทนผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทางทะเลระหว่างประเทศ เนื่องจากปัจจุบันอุตสาหกรรมทางด้านขนส่งสินค้าทางทะเลหรือสาสยเรือนั้นมีการแข่งขันกันสูง มากขึ้นโดยเฉพาะทางด้านบริการ ในแง่ของการบริการทางสายเรือ จึงจำเป็นต้องพัฒนาระบบให้ การทำงาน มีความรวดเร็วในการให้บริการ ถูกต้องแม่นยำ ข้อมูลเข้าถึงได้ง่าย และผู้ใช้บริการรับรู้ ถึงประโยชน์ของการใช้งาน โดยบริษัทกรณีศึกษาเป็นสายการเดินเรือรายใหญ่ โดยใช้แบบสอบถาม เก็บรวบรวมข้อมูลจากผู้นำเข้าส่งออกและตัวแทนผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทางทะเลระหว่างประเทศ จำนวน 350 คน ทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และการวิเคราะห์ถดถอยเชิงพหุ เพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการยอมรับการใช้งาน Online Platform กรณีศึกษา บริษัสายเรือ XYZ จำนวน 4 ด้าน และความตั้งใจที่จะใช้งาน ผลการศึกษาพบว่า ด้าน ความคาดหวังในประสิทธิภาพ ด้านสิ่งอำนวยความสะดวก ด้านอิทธิพลทางสังคม และ ด้านความ ง่ายต่อการใช้งาน ซึ่งพบว่า ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเลือกใช้ Online Platform อย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ 0.05 มีจำนวน 3 ปัจจัย คือ ด้านสิ่งอำนวยความสะดวก ด้านอิทธิพลทางสังคม และ ด้านความง่ายต่อการใช้งาน


การพัฒนาเกณฑ์การประเมินผู้รับเหมาช่วงบริการขนส่ง, ณัฐธมนต์ วงศ์ชัยศรี Jan 2022

การพัฒนาเกณฑ์การประเมินผู้รับเหมาช่วงบริการขนส่ง, ณัฐธมนต์ วงศ์ชัยศรี

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การวิจัยนี้เป็นการศึกษาและพัฒนาเกณฑ์การประเมินผู้รับเหมาช่วงบริการขนส่งที่ ให้บริการโดยบริษัท 3PL โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการวัดผลการปฏิบัติงานของ บริษัทกรณีศึกษาและของผู้รับเหมาช่วงที่ทางบริษัทกรณีศึกษาใช้บริการ โดยวิธีการศึกษาและ วิเคราะห์ที่ใช้มีการเชิงคุณภาพ (Qualitative) และเชิงปริมาณ (Quantitative) โดยการศึกษา ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง การวิเคราะห์ผลข้อมูล การเก็บข้อมูล การสัมภาษณ์ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการ ปฏิบัติงาน การปรับปรุงและทดลองใช้เกณฑ์การประเมินประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน โดย ผลลัพธ์ของการวิจัยนั้นประกอบด้วยการสรุปเกณฑ์การประเมินประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน รูปแบบใหม่ และเทียบกับผลการประเมินประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานรูปแบบเดิม โดยใช้วิธีการ แสดงผลในรูปแบบของตารางและกราฟเปรียบเทียบผลการปฏิบัติงานของการใช้เกณฑ์การประเมิน ในปัจจุบันและแบบปรับปรุง


ปัจจัยการรับรู้ความเสี่ยงที่ส่งผลต่อความตั้งใจเดินทางท่องเที่ยวของผู้โดยสารสายการบินภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19, พิชญพิชญ์ นิ่มพยา Jan 2022

ปัจจัยการรับรู้ความเสี่ยงที่ส่งผลต่อความตั้งใจเดินทางท่องเที่ยวของผู้โดยสารสายการบินภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19, พิชญพิชญ์ นิ่มพยา

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

สารนิพนธ์ฉบับนี้ จัดทำขึ้นเพื่อศึกษาปัจจัยด้านการรับรู้ความเสี่ยงด้านสุขภาพในมาตรการด้านต่าง ๆ ที่มีอิทธิพลต่อความตั้งใจในการเดินทางเพื่อการท่องเที่ยวของผู้โดยสารสายการบินภายในประเทศไทย ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยมีตัวแปรอิสระในมาตรการต่าง ๆ ได้แก่ Active Intervention, Passive Intervention และ Technological Intervention ผ่านแบบสอบถามออนไลน์ โดยมีกลุ่มประชากรตัวอย่างเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางโดยใช้บริการสายการบินภายในประเทศไทย ในช่วงระหว่างการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จำนวนทั้งสิ้น 401 คน และนำมาประมวลผลโดยการวิเคราะห์สมการถดถอยเชิงเส้นเดี่ยว (Simple Linear Regression Analysis) โดยมีระดับนัยสำคัญที่ 0.05 จากผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยการรับรู้ความเสี่ยงด้านสุขภาพในมาตรการ Active Intervention และ Passive Intervention ไม่มีอิทธิพลต่อความตั้งใจในการเดินทางเพื่อการท่องเที่ยว และมาตรการด้าน Technological Intervention ส่งผลต่อความตั้งใจในการเดินทางเพื่อการท่องเที่ยวของผู้โดยสารสายการบินภายในประเทศไทย ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า หากสายการบินมีการนำเอาเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่อำนวยความสะดวกในการเข้ารับบริการมาใช้ เพื่อเป็นการป้องกัน และลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 จะส่งผลต่อความตั้งใจในการเดินทางท่องเที่ยวของผู้โดยสาร และนำไปสู่การสร้างความมั่นใจในการเดินทางมากยิ่งขึ้น


การคัดเลือกตัวแทนผู้ให้บริการ Api ในต่างประเทศโดยใช้กระบวนการตัดสินใจแบบวิเคราะห์ลำดับชั้น (Ahp) กรณีศึกษาธนาคาร Abc, อารยา อรุณสกุลวงศ์ Jan 2022

การคัดเลือกตัวแทนผู้ให้บริการ Api ในต่างประเทศโดยใช้กระบวนการตัดสินใจแบบวิเคราะห์ลำดับชั้น (Ahp) กรณีศึกษาธนาคาร Abc, อารยา อรุณสกุลวงศ์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเกณฑ์ที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้ตัวแทนผู้ให้บริการ API ในต่างประเทศของธนาคารกรณีศึกษา ด้วยเทคนิคกระบวนการวิเคราะห์ตามลำดับชั้น เนื่องจากปัจจุบันธนาคารกรณีศึกษาอยู่ระหว่างการพิจารณาเลือกตัวแทนผู้ให้บริการ A ผู้ให้บริการ B และผู้ให้บริการ C งานวิจัยนี้จึงนำทั้ง 3 ตัวแทนผู้ให้บริการมาเป็นทางเลือกในการพิจารณา ขั้นตอนงานวิจัยเริ่มจากการเก็บรวบรวมข้อมูลที่ใช้ในงานวิจัยซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรกเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลจากเอกสารและการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากตัวแทนผู้ให้บริการต่าง ๆ เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาศึกษา วิเคราะห์ และกำหนดเกณฑ์ที่ใช้ในแบบสอบถามด้วยวิธีวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ ส่วนที่สองเป็นการเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างในธนาคารกรณีศึกษาผ่านการตอบแบบสอบถาม จากนั้นจึงใช้วิธีวิเคราะห์ตามลำดับชั้น โดยทำการวินิจฉบับเปรียบเทียบความสำคัญของเกณฑ์ทีละคู่ เพื่อศึกษาหาเกณฑ์ที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้ตัวแทนผู้ให้บริการ API และหาระดับความสำคัญของทางเลือกที่มีผลในการตัดสินใจเลือกใช้ตัวแทนผู้ให้บริการ API ในต่างประเทศ ผลที่ได้จากการศึกษาวิจัยครั้งนี้พบว่า เกณฑ์ที่ผู้ตอบแบบสอบถามให้ความสำคัญมากที่สุด คือ ความสามารถในการเชื่อมต่อกับปลายทาง ค่าใช้จ่าย ความยืดหยุ่นการให้บริการความสามารถของระบบงาน และประวัติบริษัท ตามลำดับ สำหรับทางเลือกที่ธนาคารกรณีศึกษาให้ความสำคัญในการพิจารณาเลือกใช้ตัวแทนผู้ให้บริการ API ในต่างประเทศคือ ผู้ให้บริการ A เนื่องจากเกณฑ์และประโยชน์จากผู้ให้บริการ A สามารถตอบสนองต่อวัตถุประสงค์ธุรกิจของธนาคารกรณีศึกษาได้อย่างเหมาะสม


Flow-Performance Relationship In Defi Yield Aggregator, Apisara Pornprasith Jan 2022

Flow-Performance Relationship In Defi Yield Aggregator, Apisara Pornprasith

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Decentralized Finance (DeFi) is a new financial infrastructure with applications similar to traditional financial products, such as exchange, lending, derivatives, and asset management. This paper empirically investigates Yearn finance, one of the fastest-growing and largest in DeFi yield aggregator protocols for on-chain asset management, to demonstrate the flow-performance relationship and compare it with mutual funds in traditional finance. According to the findings, there is a positive non-linear relationship between fund flows and recent performance for using stablecoin deposited. In contrast, we cannot find this relationship for using cryptocurrency. Then, we look further into stablecoin holder behaviour and our findings show …


Accrual-Based Earnings Management And Real Earnings Management Around Two Key Corporate Governance Regulatory Regime Changes In Thailand, Noor Nayeem Hasnat Farhan Jan 2022

Accrual-Based Earnings Management And Real Earnings Management Around Two Key Corporate Governance Regulatory Regime Changes In Thailand, Noor Nayeem Hasnat Farhan

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Two major corporate governance-related regulatory changes, one in 1999 and one in 2008, were implemented as a means to increase the independence of boards of directors of public companies in Thailand. I study whether each of these regulatory changes affects the degree of and leads to substitution of accrual-based earnings management (AEM) and real earnings management (REM), plus the effect of family ownership on the type and degree of earning management. The outcomes of the two regulatory changes are different with respect to earnings management. Univariate tests suggest no change in the levels of AEM and REM for the 1999 …


ปัจจัยโลจิสติกส์ที่ส่งผลต่อความประสงค์จะใช้แพลทฟอร์มอีคอมเมิร์ซ, ณัฏฐชัย วัฒนาธิบดี Jan 2022

ปัจจัยโลจิสติกส์ที่ส่งผลต่อความประสงค์จะใช้แพลทฟอร์มอีคอมเมิร์ซ, ณัฏฐชัย วัฒนาธิบดี

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. ระบุตัวแปรทางด้านคุณภาพการบริการโลจิสติกส์ที่กระทบต่อความประสงค์จะใช้แพลทฟอร์มอีคอมเมิร์ซ 2. เพื่อวิเคราะห์ระดับของอิทธิพลแต่ละปัจจัยต่อการใช้แพลทฟอร์มอีคอมเมิร์ซ โดยงานวิจัยนี้ได้แบ่งตัวแปรต้นออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 ได้แก่ กลุ่มคุณภาพการบริการแพลทฟอร์มอีคอมเมิร์ซประกอบไปด้วย การออกแบบเวปไซต์และแอพพลิเคชั่น ความง่ายในการเข้าใช้งาน คุณภาพของข้อมูล ตัวเลือกในการชำระเงิน และ ความปลอดภัยในการใช้งาน และกลุ่มที่ 2 ได้แก่กลุ่มที่กำหนดคุณภาพการบริการโลจิสติกส์ซึ่งประกอบไปด้วย ความเร็วในการจัดส่ง ตัวเลือกในการจัดส่ง คุณภาพในการจัดส่ง นโยบายการคืนสินค้า ต้นทุนการจัดส่ง และ ข้อมูลในการจัดส่ง โดยมีตัวแปรตามคือ ความพึงพอใจโดยรวมของผู้ใช้บริการแพลทฟอร์มอีคอมเมิร์ซ และ ความประสงค์จะใช้แพลทฟอร์มอีคอมเมิร์ซ งานวิจัยนี้ยืนยันได้ว่าคุณภาพการบริการที่สามารถรับรู้ได้ส่งผลต่อความพึงพอใจของผู้ใช้บริการและส่งอิทธิพลต่อไปยังความประสงค์จะใช้แพลทฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ข้อมูลในการวิจัยนี้ได้รวบรวมมาจากแบบสอบถามซึ่งมีจำนวนตัวอย่างทั้งหมด 373 ชุด ประกอบไปด้วยผู้ที่มีอายุระหว่าง 25 – 44 ปี หรือเจนวายและมีประสบการณ์การซื้อสินค้าออนไลน์ทั้ง 2 แพลทฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดนิยมในประเทศไทย และใช้โมเดลสมการโครงสร้างในการยืนยันความสัมพันธ์ ผลการวิเคราะห์ระบุได้ว่ากลุ่มคุณภาพการบริการโลจิสติกส์มีอิทธิพลมากกว่าการบริการอื่นๆ ต่อความประสงค์จะใช้แพลทฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ทั้งนี้ ความเร็วในการจัดส่ง มีความสำคัญที่สุดในกลุ่มคุณภาพการบริการโลจิสติกส์


ผลกระทบของความเป็นธรรมต่อความไว้วางใจที่มีต่อร้านขายยาค้าส่งในโซ่อุปทานยา, ศิวิมล ประสาธนากร Jan 2022

ผลกระทบของความเป็นธรรมต่อความไว้วางใจที่มีต่อร้านขายยาค้าส่งในโซ่อุปทานยา, ศิวิมล ประสาธนากร

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยนี้ศึกษาผลกระทบของความเท่าเทียมกันต่อความไว้วางใจที่มีต่อร้านขายยาค้าส่งในโซ่อุปทาน เป็นงานวิจัยเชิงผสม (Mixed Research) ทั้งเชิงปริมาณ และเชิงคุณภาพ โดยประชากร คือผู้ประกอบการร้านขายยาปลีก ที่ได้รับอนุญาตให้ขายยาแผนปัจจุบันประเภท (ขย.1) และผู้ประกอบการร้านขายยาค้าส่งในประเทศไทย จากการรวบรวมข้อมูลกับกลุ่มตัวอย่างโดยวิธีการแจกแบบสอบถามออนไลน์ และเก็บแบบสอบถามเชิงรุกโดยเข้าไปสุ่มสอบถามที่ร้านขายยา ในเขต อำเภอเมือง จังหวัด นนทบุรี จากนั้นนำผลจากแบบสอบถามสัมภาษณ์ผู้ประกอบการร้านขายยาค้าส่ง โดยมีวัตถุประสงค์ในการศึกษาดังนี้ 1. เพื่อศึกษาผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจด้วยความเท่าเทียม (Business fairness) ของร้านขายยาค้าส่ง (Wholesaler drugstores) ที่จะส่งผลต่อความไว้วางใจ (Trust) และความภักดี (Loyalty) ของร้านขายยาปลีก 2. เพื่อศึกษาผลลัพธ์ของความไว้วางใจ (Trust) ต่อความภักดี (Loyalty) และการแนะนำโดยการบอกต่อ (Recommendation by Word of Mouth) ของร้านขายยาปลีก (Retail drugstores) ที่จะส่งผลต่อความอยู่รอดของธุรกิจร้านขายยาค้าส่ง (Wholesaler drugstores) 3. เพื่อเสนอแนะแนวทางการปรับตัวเพื่อความอยู่รอดทางธุรกิจ (Business survival) ให้กับร้านขายยาค้าส่ง (Wholesaler drugstores) ท่ามกลางสภาวะการแข่งขันที่รุนแรงของธุรกิจยาในยุคปัจจุบัน จากผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยการกระจายความเป็นธรรม (Distributive Fairness) ส่งผลต่อปัจจัยความไว้วางใจ (Trust) ที่ .399 อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับความเชื่อมั่นที่ 0.05 แต่เมื่อเปรียบเทียบกับ ปัจจัยความเป็นธรรมตามขั้นตอน (Procedural Fairness) ส่งผลต่อปัจจัยความไว้วางใจ (Trust) ที่ .419 อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับความเชื่อมั่นที่ 0.05 เห็นได้ว่าปัจจัยความเป็นธรรมตามขั้นตอน (Procedural Fairness) นั้นส่งผลกับตัวแปรความไว้วางใจ (Trust) มากกว่า ซึ่งไม่สอดคล้องกับงานวิจัยต้นแบบที่การกระจายความเป็นธรรม ส่งผลต่อความไว้วางใจมากกว่า อาจเป็นผลจากระบบสาธารณสุขในประเทศของกลุ่มตัวอย่างที่แตกต่างกัน และช่วงเวลาในการทำการวิจัยอาจส่งผลต่อความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างที่เปลี่ยนไป ในด้านปัจจัยความไว้วางใจ (Trust) ที่ส่งผลต่อปัจจัยความภักดีของลูกค้า (Customer Loyalty) ที่ .501 อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับความเชื่อมั่นที่ 0.05 และปัจจัยความไว้วางใจ (Trust) ที่ส่งผลต่อปัจจัยการแนะนำแบบบอกต่อ (Recommendation by …


การพัฒนากรอบการวัดสมรรถนะสำหรับโซ่อุปทานอุตสาหกรรมการผลิตยาแผนโบราณและสมุนไพรในประเทศไทย, อริสรา จันทรโยธา Jan 2022

การพัฒนากรอบการวัดสมรรถนะสำหรับโซ่อุปทานอุตสาหกรรมการผลิตยาแผนโบราณและสมุนไพรในประเทศไทย, อริสรา จันทรโยธา

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการพัฒนากรอบการวัดสมรรถนะและตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องในการวัดผลการดำเนินงานของโซ่อุปทานอุตสาหกรรมการผลิตยาแผนโบราณและสมุนไพร เพื่อจัดลำดับความสำคัญของตัวชี้วัดในโซ่อุปทานอุตสาหกรรมการผลิตยาแผนโบราณและสมุนไพรในประเทศไทย โดยทำการศึกษาจากผู้เชี่ยวชาญในบริษัทที่ผลิตยาแผนโบราณและสมุนไพรในประเทศไทยที่ผ่านการรับรองมาตรฐานการผลิตยาจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ในการศึกษาประกอบด้วย 2 ส่วน คือ 1) แบบสอบถามเรื่องตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมการผลิตยาแผนโบราณและสมุนไพรที่ใช้ตัวเลือกตอบเป็นมาตรส่วนประมาณค่าแบบลิเคิร์ต 4 ระดับ และ 2) แบบสอบถามการประเมินตัวชี้วัดที่สำคัญและเหมาะสมสำหรับอุตสาหกรรมการผลิตยาแผนโบราณและสมุนไพรด้วยวิธีกระบวนการวิเคราะห์เชิงลำดับชั้น (Analytic Hierarchy Process, AHP) ที่ใช้มุมมองตามหลัก Balanced Scorecard (BSC) 4 มุมมองประกอบกับเพิ่มมุมมองในด้านคุณภาพของยารวมด้วย ผลการวิจัยพบว่าตัวชี้วัดที่มีค่าคะแนนเฉลี่ยสูงสุดและควรนำมาเป็นตัวชี้วัดอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมการผลิตยาแผนโบราณและสมุนไพรตามกรอบการวัดสมรรถนะ แต่ละมุมมอง มีดังนี้ 1.มุมมองด้านการเงิน คือ ต้นทุนการจัดการโซ่อุปทานทั้งหมดและต้นทุนรวมสินค้าต่อหน่วย 2.มุมมองด้านลูกค้า คือ ความพึงพอใจของลูกค้าด้านคุณภาพของสินค้า 3.มุมมองด้านกระบวนการภายใน คือ ประสิทธิภาพการผลิต 4.มุมมองด้านการเรียนรู้และการเติบโต ประกอบด้วย 3 ตัวชี้วัด คือ 1) มีนโยบายสนับสนุนการสร้างนวัตกรรมหรือมีการร่วมมือระหว่างโรงงานและหน่วยงานอื่น 2) ด้านเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐาน และ 3) ด้านการพัฒนาบรรจุภัณฑ์หรือผลิตภัณฑ์ให้มีความทันสมัยหรือปรับเปลี่ยนรูปแบบยาให้เหมาะสม และ 5.มุมมองด้านคุณภาพของยา คือ ความปลอดภัยของยา รวมถึงผู้เชี่ยวชาญให้มุมมองด้านคุณภาพของยาเป็นกรอบการวัดสมรรถนะที่มีความสำคัญมากที่สุด รองลงมาคือมุมมองด้านการเรียนรู้และการเติบโต สำหรับการจัดลำดับตัวชี้วัดที่มีความสำคัญมากที่สุดใน 5 อันดับแรกในการศึกษานี้ ได้แก่ ความปลอดภัยของยา ประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการรักษา การพัฒนาบรรจุภัณฑ์หรือผลิตภัณฑ์ให้มีความทันสมัย และเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานตามลำดับ ซึ่งผลการวิจัยนี้แสดงให้เห็นว่ากรอบการวัดสมรรถนะและตัวชี้วัดในมุมมองด้านคุณภาพของยาควรนำมาเป็นส่วนหนึ่งในการวัดผลการดำเนินงานของอุตสาหกรรมการผลิตยาแผนโบราณและสมุนไพร


การวิเคราะห์มิติทางสังคมของการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์, ณัฐดนยา ทิพยจารุโภคา Jan 2022

การวิเคราะห์มิติทางสังคมของการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์, ณัฐดนยา ทิพยจารุโภคา

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา วิเคราะห์ เพื่อทำความเข้าใจการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในมิติทางสังคม สำรวจประเด็นสำคัญ และผลกระทบที่เกิดขึ้นแล้วและอาจจะเกิดขึ้นทางด้านสังคม สุขภาพ ที่อาจจะมาจากการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ โดยผู้วิจัยได้กำหนดระเบียบวิธีการวิจัยหรือกระบวนวิธีการวิจัยประกอบไปด้วยการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลจากเอกสารและการสัมภาษณ์บุคคลจำนวน 20 คน จากนั้นจึงนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์เชิงเนื้อหาและเขียนรายงานผลงานวิจัยในลักษณะเชิงพรรณนา ผลการศึกษาพบว่า จากวิกฤตเศรษฐกิจในปี พ.ศ.2540 โรงพยาบาลเอกชนต้องหาโอกาสใหม่ๆ ทดแทนการรายได้จากกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนไทย จึงได้หันไปหากลุ่มลูกค้าจากต่างประเทศซึ่งเป็นประเทศที่มีกำลังซื้อสูง ต่อมารัฐบาลประสบปัญหาขาดดุลเดินสะพัดติดต่อกันหลายปี จึงได้มีการกำหนดนโยบายการพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพของเอเชีย โดยไทยมีการท่องเที่ยวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว มีกลุ่มสถานพยาบาลเอกชนที่ได้รับมาตรฐานด้านการบริการด้านสุขภาพหลายแห่ง ด้วยจุดแข็งเหล่านี้ จึงพัฒนาแผนและนโยบายเพื่อการเป็นศูนย์กลางสุขภาพ (Medical hub) ในระดับเอเชีย ซึ่งส่วนใหญ่จะถูกมองไปในด้านของผลดีด้านเศรษฐกิจรายได้กำไรที่เพิ่มขึ้นของประเทศ จึงมีประเด็นว่าผลกระทบการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์นั้นมักจะไม่ได้รับการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนเมื่อมีการผลักดันนโยบายนี้ ดังนั้น การศึกษามิติทางสังคมของการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ได้สำรวจประเด็นสำคัญไว้ดังนี้ 1. แนวคิดและนิยามของการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ (Medical Tourism) และนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ (Medical Tourists) 2. ผลกระทบต่ออัตรากำลังบุคลากรทางการแพทย์และอัตราค่ารักษาพยาบาล 3. ผลกระทบจากโลกาภิวัตน์และกระบวนการทำให้เป็นสินค้า 4. มาตรฐานคุณภาพโรงพยาบาล 5. ผลกระทบด้านการแพร่กระจายปัญหาการแพร่กระจายของเชื้อดื้อยา และโรคติดต่อที่ระบาดครั้งใหญ่ ซึ่งประเด็นเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญ ในอีกมุมหนึ่ง การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์มีส่วนที่ทำให้การรักษาพยาบาลในยุคปัจจุบันเปรียบเสมือนเป็นสินค้าชนิดหนึ่งที่รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติและกลุ่มคนที่มีฐานะด้านการเงิน เรื่องนี้จึงมีความซับซ้อนและต้องทำความเข้าใจจากหลายแง่มุม และจำเป็นอย่างยิ่งที่ควรจะมีการศึกษาพิจารณาจากแง่มุมที่ไม่ได้มีการพูดถึงมากนัก ทั้งในเรื่องของคำนิยามและความหมายของการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ ปรากฏการณ์โลกาภิวัตน์ตามกระแสเสรีนิยมใหม่ซึ่งทำให้เรื่องการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์โยงใยได้กับข้อถกเถียงเรื่องความเป็นธรรมทางสังคมที่เกิดขึ้นจากการส่งเสริมธุรกิจและอุตสาหกรรมนี้ การทำความเข้าใจที่ชัดเจนขึ้นจะนำไปสู่การสร้างแนวทางการเสริมความเป็นธรรมด้านสุขภาพและการกระจายผลประโยชน์ให้สังคมโดยรวมได้ต่อไป


การวิเคราะห์ปัจจัยกำหนดการส่งออกผลิตภัณฑ์พลาสติกของประเทศไทยโดยแบบจำลองแรงโน้มถ่วง, จิดาภา ศรีจำนงค์ Jan 2022

การวิเคราะห์ปัจจัยกำหนดการส่งออกผลิตภัณฑ์พลาสติกของประเทศไทยโดยแบบจำลองแรงโน้มถ่วง, จิดาภา ศรีจำนงค์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

มูลค่าการส่งออกพลาสติกของประเทศไทยเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องตามการเพิ่มขึ้นของประชากรและเศรษฐกิจโลก การศึกษาครั้งนี้มุ่งเน้นที่จะศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการส่งออกสินค้าผลิตภัณฑ์พลาสติกของประเทศไทยและการศึกษาครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมการส่งออกสินค้าผลิตภัณฑ์พลาสติกของประเทศไทยต่อไปในอนาคต การศึกษานี้เป็นการสร้างแบบจำลองแรงโน้มถ่วงเพื่อเป็นตัวแทนของการส่งออกสินค้าผลิตภัณฑ์พลาสติกของประเทศไทยไปยังประเทศต่างๆ โดยมีการเสนอแบบจำลองทางเลือกเพื่อทำการประเมินว่าตัวแปรด้านโลจิสติกส์ ได้แก่ ระยะห่าง เวลาที่ใช้ในการขนส่ง และต้นทุนที่ใช้ในการขนส่ง ตัวแปรใดเป็นตัวแปรที่ดีที่สุดของตัวแปรด้านโลจิสติกส์ ในการประมาณค่าแบบจำลองจะทำการศึกษาด้วยวิธี Pooled Regression Model, Fixed Effect Model และ Random Effect เพื่อหาแบบจำลองที่เหมาะสมที่สุด โดยใช้ข้อมูลแบบอนุกรมเวลา (รายปี) ของมูลค่าการส่งออกสินค้าผลิตภัณฑ์พลาสติกของประเทศไทย ในช่วงปี พ.ศ. 2547-2561 จากการศึกษาพบว่าตัวแปรระยะทางเป็นตัวแปรด้านโลจิสติกส์ที่เหมาะสมกับแบบจำลองมากที่สุด โดยมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกผลิตภัณฑ์พลาสติกของประเทศไทย ได้แก่ ขนาดเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า การใช้ภาษากลาง และการใช้พรมแดนร่วมกัน


ปัจจัยในการเกิดอุบัติเหตุของรถบรรทุก 6 ล้อ ในเขตภาคตะวันออก บริษัทกรณีศึกษา Abc, ชนมณีทิวา ชาญสมร Jan 2022

ปัจจัยในการเกิดอุบัติเหตุของรถบรรทุก 6 ล้อ ในเขตภาคตะวันออก บริษัทกรณีศึกษา Abc, ชนมณีทิวา ชาญสมร

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษาค้นคว้าอิสระนี้จะเป็นการศึกษาปัจจัยที่มีผลให้เกิดอุบัติเหตุของรถบรรทุก 6 ล้อ บริษัทกรณีศึกษา เอบีซี วัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่ายที่บริษัทต้องสูญเสียจากการเกิดอุบัติเหตุในแต่ละปี เช่นลดค่าเบี้ยประกันอุบัติเหตุในกรณีที่รถไม่เคยเกิดอุบัติเหตุในปีนั้นจะได้รับส่วนลดค่าเบี้ยประกันในปีต่อไป เพื่อประเมินปัจจัยที่ส่งผลต่อการเกิดอุบัติเหตุจากการขับรถบรรทุกหกล้อของพนักงานและศึกษาพฤติกรรมเสี่ยงในการขับขี่ของพนักงานขับรถบรรทุกเพื่อจัดทำมาตรการป้องกันและแก้ไข ผู้ศึกษาได้ทำการศึกษารวบรวมปัจจัยและคัดเลือกประชากรสมมติฐานด้วยวิธีการ สุ่มเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง จากปัจจัยหลัก 3 ปัจจัย ประกอบด้วย ปัจจัยด้านผู้ขับขี่ปัจจัยด้านยานพาหนะ ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม โดยเมื่อนำเกณฑ์หลักการจัดลำดับมาใช้ในการศึกษานี้ใช้วิธีวิเคราะห์ด้วยวิธี การวิเคราะห์การถดถอยโลจิสติกแบบไบนารี (Binary Logistic Regression) ผู้ศึกษาจะใช้การสุ่มเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงแล้วนำมาวิเคราะห์ ผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยที่มีผลให้เกิดอุบัติเหตุ คือ ความเร็วสูงสุดในการขับต่อเที่ยว และช่วงเวลาในการทำงานต่อวัน มีผลอย่างมีนัยยะสำคัญทางสถิติ