Open Access. Powered by Scholars. Published by Universities.®

Digital Commons Network

Open Access. Powered by Scholars. Published by Universities.®

Articles 1 - 30 of 1724

Full-Text Articles in Entire DC Network

การท่องเที่ยวโดยชุมชนเป็นฐาน : กรณีศึกษา บ้านร่องฟอง ตำบลร่องฟอง อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่, ชุติกาญจน์ กันทะอู Jan 2017

การท่องเที่ยวโดยชุมชนเป็นฐาน : กรณีศึกษา บ้านร่องฟอง ตำบลร่องฟอง อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่, ชุติกาญจน์ กันทะอู

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การวิจัยครั้งนี้ เป็นการศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพ มีวัตถุประสงค์ในการศึกษา 1) เพื่อศึกษาศักยภาพของบ้านร่องฟองในการพัฒนาเป็นหมู่บ้านเพื่อการท่องเที่ยวโดยชุมชนเป็นฐาน 2) เพื่อเสนอแนวทางในการเสริมศักยภาพบ้านร่องฟองเป็นหมู่บ้านเพื่อการท่องเที่ยวโดยชุมชนเป็นฐาน เก็บรวบรวมข้อมูลจากการสัมภาษณ์เชิงลึก การสนทนากลุ่มจากผู้ให้ข้อมูลสำคัญ เช่น ผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่ภาครัฐ หน่วยงานท้องถิ่น และประชาชนที่เกี่ยวข้อง และการสังเกตแบบไม่มีส่วนร่วม ผลการศึกษาวิจัยพบว่า บ้านร่องฟองมีศักยภาพเบื้องต้นใน 5 ด้านได้แก่ 1.ด้านทรัพยากรท่องเที่ยว มีทรัพยากรท่องเที่ยวประเภทภูมิปัญญาพื้นบ้าน วิถีชีวิตและการประกอบอาชีพ เช่น แหล่งตีเหล็กทำเครื่องมือ อุปกรณ์การเกษตร แหล่งผลิตตัดเย็บเสื้อผ้า มัดย้อมผ้า 2.ด้านการเข้าถึงทรัพยากรท่องเที่ยว มีเส้นทางคมนาคมที่เข้าถึงสะดวกและปลอดภัยเดินทางเข้าถึงชุมชนได้ทั้งรถยนต์ส่วนบุคคลและรถโดยสารสาธารณะ ตลอดจนมีเส้นทางเชื่อมโยงพื้นที่ใกล้เคียงแหล่งท่องเที่ยวชุมชนอื่นๆ 3.ด้านสิ่งอำนวยความสะดวก มีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน มาตรฐานครบถ้วนและเพียงพอ เช่น ไฟฟ้า น้ำประปา เครือข่ายอินเทอร์เน็ต สถานพยาบาลชุมชน ร้านค้า 4.ด้านความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยว สามารถรองรับนักท่องเที่ยวทั้งไปและกลับ หรือพักค้างคืน 5.การจัดการการท่องเที่ยว มีการวางแผนและดำเนินการโดยผู้นำท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและการมีส่วนร่วมจากประชาชน ศักยภาพบ้านร่องฟองมีความพร้อมรองรับการท่องเที่ยว แต่ไม่สามารถดำเนินการจัดการท่องเที่ยวได้ตามการคัดเลือกจากสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดให้เป็นหมู่บ้านเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ทั้งนี้บ้านร่องฟองต้องเพิ่มศักยภาพในการจัดการท่องเที่ยวโดยเฉพาะการมีส่วนร่วมจากประชาชนโดยเร่งประชาสัมพันธ์และสร้างเครือข่ายระหว่างชุมชน หน่วยงานในท้องถิ่นเพื่อขับเคลื่อนการท่องเที่ยวให้ยั่งยืนต่อไป


การเปลี่ยนผ่านเป็นประชาธิปไตยที่ไม่ตั้งมั่น: ความล้มเหลวของการทำให้เป็นประชาธิปไตยในประเทศไทย, จิราภรณ์ ดำจันทร์ Jan 2017

การเปลี่ยนผ่านเป็นประชาธิปไตยที่ไม่ตั้งมั่น: ความล้มเหลวของการทำให้เป็นประชาธิปไตยในประเทศไทย, จิราภรณ์ ดำจันทร์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัญหาในกระบวนการทำให้เป็นประชาธิปไตยของไทย โดยใช้วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพด้วยการวิจัยเอกสารบนฐานของข้อมูลเชิงประจักษ์ และการทำความเข้าใจการเมืองไทยผ่านแนวคิดการทำให้เป็นประชาธิปไตย แนวคิดการเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตย แนวคิดการตั้งมั่นของประชาธิปไตย แนวคิดฉันทามติ และทฤษฎีชนชั้นนำ วิทยานิพนธ์นี้ศึกษากระบวนการทำให้เป็นประชาธิปไตยไทยที่สำคัญ 4 ช่วงเวลา ได้แก่ ช่วงแรกปี 2475 - 2490 สอง ระหว่างปี 2516 - 2519 สาม ระยะเวลาตั้งแต่ปี 2540 - 2549 และสี่ ช่วงเวลาปี 2550 - 2557 ผลการศึกษาพบว่า ความล้มเหลวในกระบวนการทำให้เป็นประชาธิปไตยใน 4 ช่วงเวลานี้เกิดขึ้นจากการที่ชนชั้นนำ ทั้งในฝ่ายอนุรักษนิยมและชนชั้นนำที่มาจากการเลือกตั้งไม่มีเจตนาที่จะสถาปนาและจรรโลงประชาธิปไตยให้ยั่งยืน ความขัดแย้งระหว่างชนชั้นนำ 2 กลุ่มหลักทำให้รัฐธรรมนูญแทบทุกฉบับไม่ได้รับฉันทามติและมักขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน ขณะที่การประนีประนอมในกลุ่มชนชั้นนำด้วยกันเองส่งผลให้การออกแบบสถาบันทางการเมือง เช่น วุฒิสภาและองค์กรอิสระขาดการเชื่อมโยงกับประชาชน นอกจากปัญหารัฐธรรมนูญและสถาบันทางการเมืองแล้วยังพบว่า ทั้ง 4 ช่วงเวลาที่ศึกษา ตัวแสดงทางการเมืองยังแสดงบทบาทเหนี่ยวรั้งแทนส่งเสริมการจรรโลงประชาธิปไตยอีกด้วย เช่น การทุจริตคอร์รัปชัน การไม่พร้อมรับผิดชอบและยอมรับการตรวจสอบ และการที่สังคมยอมรับบทบาทของกองทัพในการแทรกแซงทางการเมือง โดยรวมแล้วพบว่า การขับเคี่ยวระหว่างพลังอนุรักษนิยมกับพลังที่ต้องการเดินหน้าสู่ประชาธิปไตยในทุกช่วงเวลา มักจบลงด้วยชัยชนะของพลังอนุรักษนิยมในการร่างรัฐธรรมนูญและออกแบบสถาบันทางการเมืองเพื่อรักษาและคงไว้ซึ่งอำนาจของกลุ่มชนชั้นนำอนุรักษนิยม


ผลของการเดินสมาธิต่อการทำงานของหลอดเลือดในผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมระหว่างรับยาเคมีบำบัดกลุ่มแอนทราไซคลิน, เสาวลักษณ์ ศิริปัญญา Jan 2017

ผลของการเดินสมาธิต่อการทำงานของหลอดเลือดในผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมระหว่างรับยาเคมีบำบัดกลุ่มแอนทราไซคลิน, เสาวลักษณ์ ศิริปัญญา

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษาวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการเดินสมาธิต่อการทำงานของหลอดเลือดในผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมระหว่างรับยาเคมีบำบัดกลุ่มแอนทราไซคลิน กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมระยะที่ 1 และ 2 อายุระหว่าง 30-70 ปี จำนวน 22 คน ทำการสุ่มแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมที่ใช้ชีวิตตามปกติ จำนวน 11 คน และกลุ่มผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมที่ออกกำลังกายด้วยการเดินสมาธิ จำนวน 11 คน ทั้งสองกลุ่มจะได้รับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัดกลุ่มแอนทราไซคลินจำนวน 4 รอบ ระยะห่างระหว่างรอบ 3 สัปดาห์ รวม 12 สัปดาห์ กลุ่มเดินสมาธิทำการฝึกเดินด้วยตนเองที่บ้าน ซึ่งประกอบไปด้วยการบีบ-คลายลูกบอลยางในมือทั้งสองข้างเป็นจังหวะขณะก้าวเดินเพื่อเป็นการฝึกสมาธิ และเดินออกกำลังกายที่ความหนัก 60-70% ของอัตราการเต้นหัวใจสำรอง เวลา 30 นาทีต่อครั้ง 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เป็นเวลาทั้งสิ้น 12 สัปดาห์ กลุ่มตัวอย่างทั้งสองกลุ่มจะได้รับการทดสอบทางสรีรวิทยาทั่วไป การทำงานระบบหัวใจและไหลเวียนโลหิต การทำงานของหลอดเลือด สารชีวเคมีในเลือด ความเครียด ความเหนื่อยล้า กิจกรรมทางกาย และคุณภาพชีวิต ในช่วงก่อนรับยาเคมีบำบัดกลุ่มแอนทราไซคลิน หลังรับยาเคมีบำบัดกลุ่มแอนทราไซคลิน 2 สัปดาห์ และหลังรับยาเคมีบำบัดกลุ่มแอนทราไซคลินครบ 12 สัปดาห์ ทำการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติด้วยการทดสอบความแปรปรวนสองทางแบบวัดซ้ำ 2x3 (กลุ่มxเวลา) และเปรียบเทียบความแตกต่างแบบรายคู่ โดยใช้วิธีการทดสอบของแอลเอสดี (LSD) พิจารณาความแตกต่างที่ระดับความมีนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 ผลการวิจัย พบว่า การทำงานของเซลล์เยื่อบุผนังหลอดเลือด ความสามารถในการใช้ออกซิเจนสูงสุด กิจกรรมทางกายและคะแนนคุณภาพชีวิตเพิ่มสูงขึ้นในกลุ่มเดินสมาธิ ความดันโลหิตขณะหัวใจบีบตัว ระดับความเครียด และสัดส่วนความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจความถี่ต่ำต่อความถี่สูงลดลง เมื่อเทียบกับก่อนเดินสมาธิอย่างนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 สรุปได้ว่า โปรแกรมการออกกำลังกายด้วยการเดินสมาธิมีประสิทธิภาพในการพัฒนาสมรรถภาพของระบบหัวใจและหลอดเลือด การตอบสนองของหลอดเลือด และคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมระหว่างการรักษาด้วยยาเคมีบำบัดให้ดีขึ้นได้


การกำหนดแนวทางของไทยเพื่อพิจารณาประเมินโครงการความช่วยเหลือด้านการคมนาคมขนส่งในประเทศเพื่อนบ้าน, ฐิฏิพัศถ์ ทรัพย์สอาด Jan 2017

การกำหนดแนวทางของไทยเพื่อพิจารณาประเมินโครงการความช่วยเหลือด้านการคมนาคมขนส่งในประเทศเพื่อนบ้าน, ฐิฏิพัศถ์ ทรัพย์สอาด

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

งานวิจัยนี้เป็นการทบทวนและวิเคราะห์แนวทางการให้ความช่วยเหลือโครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งในประเทศพม่า, สปป.ลาวและกัมพูชาที่รัฐบาลไทยได้ให้การสนับสนุน โดยได้ศึกษาข้อมูลหลักเกณฑ์ของโครงการที่ให้ความช่วยเหลือ, ข้อมูลการจัดลำดับความสำคัญของโครงการ รวมถึงการพิจารณาการประเมินความช่วยเหลือ จากรายงานต่างๆและเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการให้ความช่วยเหลือจากทั้งหน่วยงานในไทยและต่างประเทศ หลังจากนั้นจึงสรุปภาพรวมโครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งที่ทำการคัดเลือก และการสัมภาษณ์เชิงลึกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการวิเคราะห์เชิงลึกโครงการตัวอย่างทั้ง 7 โครงการ พบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นหลัก ได้แก่ การพิจารณาเป็นรายโครงการโดยไม่ได้มองภาพรวมของอนุภูมิภาค การเน้นก่อสร้างโครงการใหม่มากกว่าบำรุงเส้นทางเดิม การขาดความร่วมมือแบบพหุภาคีกับประเทศผู้ให้ทุนอื่นๆ รวมถึงความช่วยเหลือที่เน้นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมากกว่าประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับ อีกทั้งยังขาดการใช้มาตรฐานในระดับสากลโดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม และขาดการวางแผนการบำรุงรักษาโครงการเมื่อสร้างแล้วเสร็จ จากปัญหาข้างต้น งานวิจัยนี้ได้เสนอให้ไทยต้องกำหนดหลักเกณฑ์ที่เหมาะสมเพื่อส่งผลประโยชน์สูงสุดกับประเทศไทยและอนุภูมิภาค โดยเสนอให้มีการประยุกต์มาตรฐาน OECD/DAC เพื่อตรวจสอบโดยมีการประเมินหลักเกณฑ์แบ่งเป็น 5 ด้านคือ 1) ความสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 2) ด้านประสิทธิภาพในการบริหารจัดการโครงการและงบประมาณ 3) ด้านประสิทธิผลโดยดูผลประโยชน์ของการลงทุนต่อเงินทุน 4) ด้านสิ่งแวดล้อม เสนอให้ใช้มาตรฐานสากลเพื่อป้องกันปัญหาระยะยาว และ 5) ด้านความยั่งยืน เสนอให้มีข้อกำหนดในสัญญาเกี่ยวกับการดูแลและรับผิดชอบโครงการ เพื่อให้โครงการมีประสิทธิภาพตลอดการใช้งาน นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอแนะอื่นๆ ที่ประเทศไทยควรใช้เพื่อพิจารณาประเมินโครงการความช่วยเหลือด้านการคมนาคมขนส่งในประเทศเพื่อนบ้านในอนาคต


โมโนโคลนอลแอนติบอดีต่อโปรตีน Vp1 ของไวรัสโลหิตจางในไก่ และการระบุเอพิโทป, เอกราช สิทธิเดช Jan 2017

โมโนโคลนอลแอนติบอดีต่อโปรตีน Vp1 ของไวรัสโลหิตจางในไก่ และการระบุเอพิโทป, เอกราช สิทธิเดช

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

โรคโลหิตจางในไก่ เกิดจากไวรัส Chicken anemia virus (CAV) ไก่ที่ติดไวรัส จะมีภาวะโลหิตจางอย่างรุนแรงตัวแคระแกร็น ต่อมธัยมัสฝ่อ เซลล์ไขกระดูกลดลง และภูมิคุ้มกันบกพร่อง โปรตีน VP1 เป็นโปรตีนโครงสร้างของไวรัส ทำหน้าที่ในการรวมกันเป็นอนุภาคไวรัส มีคุณสมบัติในการเป็นแอนติเจน CAV งานวิจัยก่อนหน้านี้ สามารถผลิตรีคอมบิแนนท์โปรตีน Δ60N_VP1 ของไวรัสโลหิตจางในไก่ จึงเป็นที่มาของวัตถุประสงค์ของงานวิจัยนี้ คือ ผลิตโมโนโคลนอลแอนติบอดีต่อโปรตีน VP1 และ ระบุเอพิโทปต่อโมโนโคลนอลแอนติบอดี โดยนำม้ามที่ได้จากการใช้รีคอมบิแนนท์โปรตีน Δ60N_VP1 กระตุ้นภูมิคุ้มกันในหนูเม้าส์ มาหลอมรวมกับเซลล์ไมอีโลมา พบว่าได้ เซลล์ไฮบริโดมาที่ผลิตโมโนโคลนอลแอนติบอดีจำนวน 5 โคลน ได้แก่ โคลนที่ 1, 2, 3, 7 และ 21 สามารถจำแนกชนิดของแอนติบอดีได้เป็น IgG2a, IgM, IgG2b, IgM และ IgG1 ตามลำดับ การระบุเอพิโทป ทำโดยแบ่งชิ้นส่วนสารพันธุกรรม Δ60N_VP1 เป็น 6 ส่วน ได้แก่ Fragment 1(F1), F2, F3, F4 และ Separating 1(S1) และ S2 ซึ่งแยกมาจากชิ้น F1 จากนั้นเพิ่มปริมาณสารพันธุกรรมด้วยไพรเมอร์จำเพาะ และทำการย้ายชิ้นส่วนแต่ละชิ้นเข้าสู่เวกเตอร์ pET28a นำไปชักนำให้เกิดการแสดงออกใน E. coli Rosetta-gami รีคอมบิแนนท์โปรตีนแต่ละชนิดจะถูกใช้เป็นแอนติเจนเพื่อใช้ระบุเอพิโทปต่อโมโนโคลนอลแอนติบอดี ด้วยวิธี western blotting analysis ผลการทดลองพบโมโนโคลนอลแอนติบอดี ทั้ง 5 โคลน มีความจำเพาะต่อแอนติเจน Δ60N_VP1 และ ไม่เกิดปฏิกิริยาข้ามกับรีคอมบิแนนท์โปรตีนที่มี His-Tag ชนิดอื่น ในการศึกษานี้ใช้ โมโนโคลนอลแอนติบอดีชนิด IgG เท่านั้น ที่จะถูกนำไประบุเอพิโทป ผลการทดลองพบว่าโมโนโคลนอลแอนติบอดีโคลนที่ 1 ทำปฏิกริยาจำเพาะกับโปรตีน …


การนำเสนอกิจกรรมดนตรีเพื่อส่งเสริมเจตคติทางดนตรี สำหรับเด็กด้อยโอกาส, คณิต พรมนิล Jan 2017

การนำเสนอกิจกรรมดนตรีเพื่อส่งเสริมเจตคติทางดนตรี สำหรับเด็กด้อยโอกาส, คณิต พรมนิล

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การวิจัยครั้งนี้มี วัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพการจัดกิจกรรมดนตรีเพื่อส่งเสริมเจตคติดนตรีสำหรับเด็กด้อยโอกาส 2) นำเสนอแนวทางการจัดกิจกรรมดนตรีเพื่อส่งเสริมเจตคติดนตรีสำหรับเด็กด้อยโอกาส โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบวิจัยและพัฒนา ในการเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล มีการเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพ ออกแบบกิจกรรมโดยวิเคราะห์เอกสารและศึกษาเกี่ยวกับสภาพบริบทเด็กด้อยโอกาสที่เกี่ยวข้องกับดนตรี นำกิจกรรมไปทดลองใช้กับโรงเรียนอนุบาลหมู่บ้านเด็กสานรัก มูลนิธิเด็ก จังหวัดนครปฐม จำนวน 10 คน ด้วยวิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Sampling) โดยเด็กที่เข้าร่วมกิจกรรมไม่มีพื้นฐานด้านดนตรีมาก่อน ศึกษาผลการใช้กิจกรรมด้วยวิธีการสัมภาษณ์ผู้เรียน ผู้สอนประจำชั้นเรียนและการสังเกตเจตคติในการเรียนการสอนดนตรีและพัฒนาการทางดนตรี โดยศึกษาจากพฤติกรรมการร่วมกิจกรรม ความสนใจ ทัศนคติต่อการเรียนการสอนดนตรี การวิจัยครั้งนี้ตรวจสอบข้อมูลด้วยวิธีการสามเส้า ประกอบด้วยข้อมูลจาก 1) การสัมภาษณ์ผู้เรียน 2) การสัมภาษณ์ผู้สอนประจำชั้นเรียนของมูลนิธิ 3) การสังเกตการเรียนการสอนโดยผู้สอนดนตรีเป็นผู้บันทึกหลังกิจกรรมการเรียนการสอน ผลการวิจัยพบว่า 1) ห้องเรียนไม่มีผู้สอนวิชาดนตรีและไม่มีหลักสูตรการเรียนการสอนดนตรีที่ต่อเนื่อง ผู้เรียนมีพัฒนาการทางด้านสติปัญญาและอารมณ์ช้ากว่าปกติ การจัดการเรียนการสอนเป็นลักษณะการเรียนร่วม นอกจากนี้ยังพบว่าในห้องเรียนมีเครื่องดนตรี เช่น อูคูเลเล่ ระนาดขนาดเล็ก กลองยาวเล็ก แทมบูริน เป็นต้น 2) แนวทางการจัดกิจกรรมดนตรี ฯ แบ่งเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงต้นมุ่งเน้นกิจกรรมการเคลื่อนไหวและการฟังเพื่อให้ผู้เรียนเกิดประสบการณ์เบื้องต้น ช่วงกลางมุ่งเน้นกิจกรรมการร้องเพื่อให้สามารถร้องและเคลื่อนไหวประกอบเพลงได้ ช่วงสุดท้ายมุ่งเน้นกิจกรรมการเล่นระนาดขนาดเล็กเพื่อให้เกิดประสบการณ์ด้านทักษะดนตรี 3) ผลการจัดกิจกรรมดนตรี ฯ ด้านทักษะทางดนตรี สามารถปฏิบัติดนตรีได้ดีขึ้น สำหรับด้านเนื้อหาดนตรี สามารถอธิบายเนื้อหาดนตรีได้ดี ด้านเจตคติทางดนตรี ผู้เรียนมีความสนใจต่อกิจกรรมเป็นอย่างดีและผู้เรียนแสดงความเอื้อเฟื้อแบ่งปันระหว่างผู้เรียนและผู้เรียน


ผลแบบทันทีของการรักษาด้วยเลเซอร์ความยาวคลื่นผสม 808 และ 905 นาโนเมตรต่อหญิงที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อบดเคี้ยวเฉียบพลัน: การศึกษาทางคลินิกแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุม, ธนธรณ์ พินธุโสภณ Jan 2017

ผลแบบทันทีของการรักษาด้วยเลเซอร์ความยาวคลื่นผสม 808 และ 905 นาโนเมตรต่อหญิงที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อบดเคี้ยวเฉียบพลัน: การศึกษาทางคลินิกแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุม, ธนธรณ์ พินธุโสภณ

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลแบบทันทีของการรักษาด้วยเลเซอร์ความยาวคลื่นผสม 808 และ 905 นาโนเมตรในการลดอาการปวดกล้ามเนื้อบดเคี้ยวแบบเฉียบพลันในเพศหญิงโดยใช้การศึกษาทางคลินิกแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุม ทำการศึกษาในผู้ป่วยหญิงที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อบดเคี้ยวจำนวน 42 คน โดยสุ่มออกเป็น กลุ่มทดลอง 21 คนและกลุ่มควบคุม 21 คน ทำการวัดผลก่อนการรักษา หลังการรักษารวมทั้ง 1สัปดาห์หลังการรักษา วัดผลโดยมาตรวัดระดับความเจ็บปวดด้วยสายตา (VAS) ค่าแรงกดที่น้อยที่สุดที่ทำให้เริ่มรู้สึกเจ็บ (PPT) และระยะอ้าปากกว้างสุด (MMO) ทำการเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างกลุ่มโดยใช้การทดสอบสถิติแมนวิทนีย์ยู ผลการวิจัยพบว่าเมื่อเปรียบเทียบค่า VAS ของกลุ่มทดลองกับกลุ่มควบคุมกลุ่มทดลองมีค่ามัธยฐานก่อน,หลัง และ 1 สัปดาห์หลังการรักษา ดังต่อไปนี้ 54.00(41.75-70.50), 35.00(22.00-61.00) และ 9.00(2.00-31.00) กลุ่มควบคุม 61.00(43.50-74.00), 51.00(37.00-65.50) และ 26.50(13.00-49.00) ค่า PPT ของกลุ่มทดลองมีค่ามัธยฐานก่อน,หลัง และ 1 สัปดาห์หลังการรักษา ดังต่อไปนี้ 55.00(35.25-75.50 กิโลปาสคาล), 62.50(43.25-78.00 กิโลปาสคาล) และ 64.00(49.00-84.00 กิโลปาสคาล) กลุ่มควบคุม 55.00(35.00-80.75 กิโลปาสคาล), 49.00(41.25-77.25 กิโลปาสคาล) และ 63.00 (51.50-82.50 กิโลปาสคาล) ค่า MMO ของกลุ่มทดลองมีค่ามัธยฐานก่อน,หลังและ 1 สัปดาห์หลังการรักษา ดังต่อไปนี้ 40.00(33.00-43.50 มิลลิเมตร), 40.00(35.00-43.50 มิลลิเมตร) และ 40.00(37.00-43.00 มิลลิเมตร) กลุ่มควบคุม 42.00(32.00-45.00 มิลลิเมตร), 42.00 (31.50-45.00 มิลลิเมตร) และ 42.00 (34.00-45.00 มิลลิเมตร) ผลพบว่า VAS,PPT และ MMO หลังการรักษาและ 1 สัปดาห์หลังการรักษาไม่แตกต่างกับก่อนการรักษาอย่างมีนัยสำคัญ (p=0.159, 0.070, 0.365, 0.930, 0.422 และ 0.278 …


การยึดอยู่ของสะพานฟันรูปแบบใหม่ที่กรอฟันน้อย ภายหลังได้รับแรงกระทำแบบเป็นวัฏจักร, รุจิรา ภัทรทิวานนท์ Jan 2017

การยึดอยู่ของสะพานฟันรูปแบบใหม่ที่กรอฟันน้อย ภายหลังได้รับแรงกระทำแบบเป็นวัฏจักร, รุจิรา ภัทรทิวานนท์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อออกแบบสะพานฟันที่ยึดด้วยวัสดุเรซินชนิดกรอฟันน้อยในฟันหลังรูปแบบใหม่ โดยเปรียบเทียบการยึดอยู่ระหว่าง 3 รูปแบบที่แตกต่างกันภายหลังได้รับแรงกระทำแบบเป็นวัฏจักร โดยใช้ฟันมนุษย์ที่ได้รับการถอนจำนวน 60 ซี่ เป็นฟันกรามน้อย 30 ซี่ และฟันกรามแท้ 30 ซี่ นำฟันกรามน้อยและฟันกรามแท้อย่างละซี่ยึดเข้ากับอะคริลิกเรซินชนิดบ่มตัวด้วยตัวเองที่ระยะห่าง 11 มิลลิเมตรเพื่อจำลองการสูญเสียฟันกรามแท้ซี่ที่หนึ่ง แบ่งบล็อกฟันออกเป็น 3 กลุ่มๆ ละ 10 บล็อก ตามรูปแบบการออกแบบชิ้นงาน โดยกลุ่มที่ 1 ชิ้นงานเป็นส่วนพักนอกตัวฟันด้านบดเคี้ยวที่มีลักษณะเช่นเดียวกับออนเลย์ กลุ่มที่ 2 ชิ้นงานเป็นส่วนพักในตัวฟันด้านประชิดร่วมกับข้อต่อขยับได้ และกลุ่มที่ 3 ชิ้นงานเป็นส่วนพักในตัวฟันด้านประชิดร่วมกับข้อต่อขยับไม่ได้ ชิ้นงานทำด้วยโลหะผสมไร้สกุล ปรับสภาพพื้นผิวด้านในด้วยอะลูมินาขนาด 50 ไมโครเมตร และยึดด้วยเรซินซีเมนต์ชนิดซุปเปอร์บอนด์ซีแอนด์บี ทดสอบชิ้นตัวอย่างด้วยแรงกดในแนวตรงลงบนฟันหลักทั้ง 2 ซี่และฟันแขวน ด้วยแรงขนาด 50 – 800 นิวตัน ที่ความถี่ 4 รอบต่อวินาที จำนวน 2,500,000 รอบ ภายหลังทดสอบด้วยแรงกด ถ้าชิ้นงานไม่เกิดความล้มเหลวจะนำไปทดสอบด้วยแรงดึงขึ้นในแนวตรงจนกระทั่งเกิดความล้มเหลวของชิ้นงาน และประเมินความล้มเหลวที่เกิดขึ้นว่าเกิดที่ระดับใด ผลการทดสอบพบว่าชิ้นตัวอย่างของทุกกลุ่มอยู่รอดภายหลังทดสอบด้วยแรงกดแบบเป็นวัฏจักร เมื่อทดสอบด้วยแรงดึงพบว่าค่าเฉลี่ยแรงยึดของชิ้นงานทั้ง 3 กลุ่มมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) โดยกลุ่มที่ 3 มีค่าแรงยึดสูงที่สุดโดยเฉลี่ย 529.9 ± 86.2 นิวตัน รองลงมาคือกลุ่มที่ 1 ที่มีค่า 396.7 ± 73.2 นิวตัน และกลุ่มที่ 2 มีค่าต่ำที่สุดโดยเฉลี่ย 228.3 ± 52.5 นิวตัน โดยรูปแบบความล้มเหลวของชิ้นงานจะเกิดการหลุดบริเวณรอยต่อระหว่างชิ้นงานและเรซินซีเมนต์และ/หรือภายในเรซินซีเมนต์เป็นส่วนใหญ่ ผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าสะพานฟันหลังชนิดกรอฟันน้อยที่ชิ้นงานมีส่วนพักในตัวฟันด้านประชิดร่วมกับการใช้ข้อต่อขยับไม่ได้อาจส่งผลให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าชิ้นงานที่มีลักษณะเป็นส่วนพักนอกตัวฟันด้านบดเคี้ยวที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน


แนวทางของระบอบกฎหมายในการจัดการความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเลในพื้นที่นอกเขตอำนาจรัฐ, นิพิฐพนธ์ ฮุ่นตระกูล Jan 2017

แนวทางของระบอบกฎหมายในการจัดการความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเลในพื้นที่นอกเขตอำนาจรัฐ, นิพิฐพนธ์ ฮุ่นตระกูล

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

พื้นที่นอกเขตอำนาจรัฐ (areas beyond national jurisdiction) ซึ่งได้แก่ทะเลหลวงและบริเวณพื้นที่ (the Area) มีขนาดกว้างใหญ่ไพศาลและเป็นแหล่งของสิ่งมีชีวิตหลากหลายชนิด ในปัจจุบัน มีการใช้สิ่งมีชีวิตในรูปแบบใหม่โดยอาศัยคุณสมบัติทางพันธุกรรมและมีการทำกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความเสื่อมโทรมต่อความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเลในพื้นที่ดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ไม่มีกฎหมายระหว่างประเทศโดยเฉพาะที่กำหนดหลักเกณฑ์การจัดการความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเลในพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ ค.ศ. 1992 มีขอบเขตการใช้บังคับเฉพาะกับความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ภายใต้เขตอำนาจของรัฐภาคี ส่วนอนุสัญญาว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1982 ก็ไม่มีบทบัญญัติที่กล่าวถึงความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเลโดยตรง จึงนำมาสู่ปัญหาที่น่าพิจารณาว่า ในปัจจุบันมีกฎหมายระหว่างประเทศใดบ้างที่กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจัดการความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเลในพื้นที่นอกเขตอำนาจรัฐ และหากกฎหมายที่มีอยู่ไม่เพียงพอ จะมีหนทางแก้ไขสถานการณ์ในปัจจุบันเพื่อนำไปสู่การอนุรักษ์และการใช้ความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเลอย่างยั่งยืนได้อย่างไร ผลการศึกษาพบว่า กฎหมายระหว่างประเทศที่มีอยู่ไม่เพียงพอต่อการจัดการความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเลในพื้นที่นอกเขตอำนาจรัฐ เนื่องจากมุ่งเน้นกำหนดหลักเกณฑ์การอนุรักษ์จัดการชนิดพันธุ์บางอย่างที่มีการแสวงประโยชน์เป็นหลัก โดยให้น้ำหนักแก่การคุ้มครองระบบนิเวศอย่างเป็นองค์รวมน้อยกว่า ซึ่งจะเห็นได้จากบทบัญญัติที่กำหนดเพียงหลักการทั่วไป แม้จะมีกฎหมายบางฉบับกำหนดมาตรการปฏิบัติแต่ก็มีขอบเขตการใช้บังคับไม่ครอบคลุมพื้นที่นอกเขตอำนาจรัฐทั้งหมด อีกทั้งยังไม่มีกฎหมายกำหนดหลักเกณฑ์การใช้ทรัพยากรพันธุกรรมทางทะเลในพื้นที่ดังกล่าว ดังนั้น จึงจำเป็นต้องจัดทำความตกลงฉบับใหม่เพื่อวางระบอบกฎหมายเฉพาะในการอนุรักษ์และการใช้ความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเลในพื้นที่นอกเขตอำนาจรัฐอย่างยั่งยืน โดยกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรพันธุกรรมทางทะเล การอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพโดยใช้มาตรการคือพื้นที่คุ้มครองทางทะเลและการประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งให้ความคุ้มครองอย่างครอบคลุมทั้งระบบนิเวศและชนิดพันธุ์สิ่งมีชีวิตจากผลกระทบของกิจกรรมต่างๆ การเสริมสร้างความสามารถและการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อให้รัฐภาคีโดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนาสามารถใช้สิทธิและปฏิบัติหน้าที่ที่ความตกลงกำหนด รวมถึงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับองค์กรและกลไกในการดำเนินการตามความตกลง และกระบวนการเกี่ยวกับการปฏิบัติตามและการบังคับใช้กฎหมาย


แนวทางการพัฒนาครูโรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็ก กลุ่มจังหวัดภาคกลางปริมณฑล ตามแนวคิดการเรียนรู้จากการปฏิบัติ และการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ, กมลพร อ่วมเพ็ง Jan 2017

แนวทางการพัฒนาครูโรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็ก กลุ่มจังหวัดภาคกลางปริมณฑล ตามแนวคิดการเรียนรู้จากการปฏิบัติ และการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ, กมลพร อ่วมเพ็ง

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ในการพัฒนาครูโรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็ก กลุ่มจังหวัดภาคกลางปริมณฑล ตามแนวคิดการเรียนรู้จากการปฏิบัติ และการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ 2) วิเคราะห์ความต้องการจำเป็นในการพัฒนาครู 3) นำเสนอแนวทางการพัฒนาครู ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงบรรยาย ประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือ โรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็ก กลุ่มจังหวัดภาคกลางปริมณฑล ภายใต้สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 178 โรงเรียน กลุ่มตัวอย่าง คือ โรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็ก กลุ่มจังหวัดภาคกลางปริมณฑลมีจำนวนทั้งสิ้น 123 โรงเรียนผู้ให้ข้อมูล คือ ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 102 คน และครูจำนวน 249 คน รวมทั้งสิ้น 351 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย มีจำนวนทั้งสิ้น 2 ชุด คือ แบบสอบถามาตรประมาณค่า และแบบประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของ (ร่าง) แนวการพัฒนาครูโรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็ก กลุ่มจังหวัดภาคกลางปริมณฑล สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลประกอบด้วย การแจกแจงความถี่ หาค่าร้อยละ การหาค่าเฉลี่ยเลขคณิต ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความต้องการจำเป็น ฐานนิยม และการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ในการพัฒนาครูโรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็ก กลุ่มจังหวัดภาคกลางปริมณฑลตามแนวคิดการเรียนรู้จากการปฏิบัติ และการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก และมากที่สุดตามลำดับ (สภาพปัจจุบัน = 4.015, SD = 0.749 สภาพที่พึงประสงค์ = 4.602, SD = 0.583) 2) ลำดับความต้องการจำเป็นในการพัฒนาครูที่สูงสุดคือ การประเมินผลการพัฒนาครู (PNImodified = 0.146) 3) แนวทางการพัฒนาครูโรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็ก ประกอบด้วย 5 แนวทางดังนี้ 1) พัฒนาครูเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียนโดยเน้นผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการ ด้านความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดวิจารณญาณ อภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแก้ปัญหาของผู้เรียน 2) พัฒนาครูเพื่อเสริมสร้างความสามารถของครูในกระบวนการเรียนรู้จากการปฏิบัติโดยเน้นการสะท้อนคิดเกี่ยวกับการยกระดับคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน 3) พัฒนาครูเพื่อเสริมสร้างความสามารถของครูในการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการโดยเน้นการจัดประสบการณ์ตรงให้แก่ผู้เรียนเกี่ยวกับการยกระดับคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน 4) ปรับปรุงการประเมินผลการพัฒนาครูโดยเน้นการประเมินผล 3 ลักษณะ 5) ปรับปรุงการนำแผนพัฒนาครูไปปฏิบัติโดยเน้นการพัฒนาครูเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการในด้านการส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ทำงานเป็นกลุ่มอย่างหลากหลายร่วมมือรวมพลังเพื่อยกระดับคุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการ


แนวทางการบริหารโรงเรียนสาธิตเพื่อเสริมสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่มีความสนุกสนานสำหรับนักเรียน, บุญฤทธิ์ บุญมา Jan 2017

แนวทางการบริหารโรงเรียนสาธิตเพื่อเสริมสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่มีความสนุกสนานสำหรับนักเรียน, บุญฤทธิ์ บุญมา

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการบริหารโรงเรียนสาธิตที่เสริมสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่มีความสนุกสนานสำหรับนักเรียน 2) นำเสนอแนวทางการบริหารโรงเรียนสาธิตที่เสริมสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่มีความสนุกสนานสำหรับนักเรียน กรอบแนวคิดของการวิจัยประกอบด้วย 1) งานผู้บริหารสถานศึกษา (เฉพาะด้านการบริหารวิชาการและด้านกิจการนักเรียน) 2) องค์ประกอบของความสนุกสนาน และ 3) การเสริมสร้างบรรยากาศแห่งความสนุกสนาน ประชากร คือ โรงเรียนสาธิตที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะครุศาสตร์หรือศึกษาศาสตร์ในมหาวิทยาลัยรัฐของประเทศไทย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา จำนวน 22 โรงเรียน ผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ ผู้อำนวยการโรงเรียนหรืองานบริหารวิชาการและงานกิจการนักเรียน ครูประจำชั้น และนักเรียน เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดย ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยสรุปได้ ดังนี้ 1) การบริหารโรงเรียนสาธิตที่เสริมสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่สนุกสนาน ประกอบด้วย งานผู้บริหารสถานศึกษา 2 ด้าน องค์ประกอบของความสนุกสนาน 5 องค์ประกอบ และการเสริมสร้างบรรยากาศแห่งความสนุกสนาน 8 องค์ประกอบ 2) แนวทางการบริหารโรงเรียนสาธิตที่เสริมสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่มีความสนุกสนานสำหรับนักเรียน ได้แก่ 2.1) ด้านวิชาการ ผู้บริหารโรงเรียนควรจัดให้มีสภาพแวดล้อมในการเรียนรู้สำหรับนักเรียนที่เอื้อต่อการทำงานร่วมกัน การพักผ่อน และการคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ และ 2.2) ด้านกิจการนักเรียน ผู้บริหารโรงเรียนควรเปิดโอกาสให้ครูและนักเรียนมีเวลาพักผ่อนหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจของโรงเรียน และควรสอดแทรกอารมณ์ขันระหว่างทำกิจกรรมร่วมกับครูและนักเรียน


Role Of Assurance On The Enhancement Of Value-Relevance Of Corporate Social Responsibility Disclosure, Pimolwan Chayapornkul Jan 2017

Role Of Assurance On The Enhancement Of Value-Relevance Of Corporate Social Responsibility Disclosure, Pimolwan Chayapornkul

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Investors have become increasingly aware that annual financial reporting alone cannot provide all salient information about a firm. The non-financial information such as CSR information is also important and useful. However, the disclosure of non-financial information, especially the separate CSR report, is voluntary. In addition, the assurance for CSR reporting is also currently the firm's voluntary. Therefore, this research aims to investigate whether the disclosure of CSR represents the value-relevant information for investors and to investigate whether the assurance of CSR disclosure also represents the value-relevant information. Unlike prior studies which focused on the availability of assurance statement, this research …


Ammonium Removal And Biomass Production By Unicellular Cyanobacterium Synechococcus Sp., Piroonporn Srimongkol Jan 2017

Ammonium Removal And Biomass Production By Unicellular Cyanobacterium Synechococcus Sp., Piroonporn Srimongkol

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Using microalgae as a biofuel feedstock has played more attention over a decade. The cultivation of microalgae requires high water use and high initial investment that can make the process still not economically appealing. This study attempted to examine the potential for using brackish shrimp aquaculture effluents as culture medium for algal biomass production. To investigate whether algae could be used to remove ammonium from brackish shrimp aquaculture wastewater, marine cyanobacterium, Synechococcus sp. was cultured in BG-11 medium supplemented with Turks Island salt solution and different concentrations of NH4Cl (10-40 mg N L-1) for 18 days. The results showed that, …


A Study Of Catalyst Type And Dispersion On Pyrolysis Of High Density Polyethylene, Ratchanon Chantanuson Jan 2017

A Study Of Catalyst Type And Dispersion On Pyrolysis Of High Density Polyethylene, Ratchanon Chantanuson

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

The study of catalyst type and dispersion on pyrolysis of high density polyethylene (HDPE) was investigated in batch and semi-batch reactor system. The separation system in semi-batch was rapidly separated between oil and gas products while in batch system was separated after cooling down process. The obtained oil products in semi-batch system had higher in short-chain hydrocarbon. Because the increased pressure and the high severity in batch system led to occur side reactions. Two types of catalyst were studied, Cat A was acid catalyst with 200 m2/g surface area and 20 A average pore diameter and HZSM-5 zeolite was stronger …


Chromatographic Separation Of Free Lutein And Fatty Acids In De-Esterified Marigold Oleoresin And Its Mathematical Modelling, Weerawat Clowutimon Jan 2017

Chromatographic Separation Of Free Lutein And Fatty Acids In De-Esterified Marigold Oleoresin And Its Mathematical Modelling, Weerawat Clowutimon

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

The petal of marigold flowers has been reported to be the richest source of a xanthophyll, namely lutein which exhibits strong antioxidant and anticancer properties. Although large amount of lutein can be obtained, the compound in the flowers exists as esterified lutein, which is not readily bio-available. As a result, a number of separation and purification steps are required after solvent extraction of marigold flowers. One of the key steps is de-esterification of lutein fatty acid esters in the extract, or namely marigold oleoresin, by the reaction of the oleoresin with alkali solution, e.g., KOH, to obtain free lutein. The …


Development Of Microfluidic Analytical Device For Detection Of Sulfur-Containing Compounds Using Raman Spectroscopy, Duangtip Lawanstiend Jan 2017

Development Of Microfluidic Analytical Device For Detection Of Sulfur-Containing Compounds Using Raman Spectroscopy, Duangtip Lawanstiend

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

In this work, microfluidic systems coupled with Raman detection for analytical applications were developed using both off-chip and on-chip synthesized nanoporous Ag microstructures (np-AgMSs) as SERS substrates. Off-chip synthesized np-AgMSs were used as on-chip SERS substrates for determination of glutathione (GSH) using a reversed reporting technique. The np-AgMSs were drop casted onto the cross channel of a microfluidic device. R6G (a Raman reporter) interacted with the embedded np-AgMSs in the microchannel to form R6G-np-AgMSs which provided high SERS signal. Then, R6G in the R6G-np-AgMSs complex was replaced by GSH, causing the decrease in SERS signal which was related to the …


Synthesis And Cytotoxicity Evaluation Of Gold Nanoparticles/Pullulan Derivatives For Cancer Treatment, Sakchai Laksee Jan 2017

Synthesis And Cytotoxicity Evaluation Of Gold Nanoparticles/Pullulan Derivatives For Cancer Treatment, Sakchai Laksee

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

This study focused on the development of multifunctional gold nanoparticles (AuNPs) using pullulan derivatives as a trifunctional reducing, stabilizing and capping agent for targeted delivery of camptothecin (CPT) or doxorubicin (DOX) in order to enhance their efficacy and reduce side effects. The surface of AuNPs was functionalized to contain 3 beneficial components on pullulan as followed: (i) quat188 as a positive charge to increase cellular uptake and activities, (ii) para-aminobenzoic acid (PABA) as a hydrophobic molecule to enhance biocompatibility, and (iii) folic acid (FA) as a targeting ligand to bind with folate receptor on cancerous cell membranes and enhance intracellular …


Colorimetric Determination Of Thiocyanate Ion Using Modified Polymer Resins, Sujinda Khaosaard Jan 2017

Colorimetric Determination Of Thiocyanate Ion Using Modified Polymer Resins, Sujinda Khaosaard

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

A new method for thiocyanate determination in milk samples based on the formation of dithiocyanato dipyridine copper(II) [Cu(SCN)2(Py)2] complex on polymer resin surface is proposed. Amberlite XAD-7 resin on was modified with copper-pyridine complex and used as the material for detection. The color of resin changed from blue to green with the increase of thiocyanate concentration. It could be observed by naked-eye and the color intensity used as quantitative data was measured via Image-J software. The effect of various parameters was investigated including Cu2+ concentration, time for resin modification with reagents, sample volume, detection time and pyridine volume. Under the …


Developing An Area Classification System From Mobile Phone Usage Data, Naruethai Thongphasook Jan 2017

Developing An Area Classification System From Mobile Phone Usage Data, Naruethai Thongphasook

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Since human activities are vary by time and place, there have been many attempts to extract social behavior in spatial studies which included area use in the city. This information helps gaining advantages in city and facilities planning. Nowadays, many people carry mobile phone with them for communication purpose. This motivates us to analyze mobile phone usage in different area types. This thesis proposes method of an analysis for area use classification from mobile phone usage pattern. CDR data was used to define mobile phone usage pattern by hour from 1:00 to 24:00 and day of week from Monday to …


High Capacity Image Steganography Tolerating Image Compression, Eittipat Kraichingrith Jan 2017

High Capacity Image Steganography Tolerating Image Compression, Eittipat Kraichingrith

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Nowadays, data privacy becomes more important. Most of the existing data protection schemes based on cryptography cannot hide the existence of secret data. Thus, a steganography approach plays an important role to handle this problem. Image steganography can be categorized into two methods which are baesd on spatial domain and transform domain. Methods using spatial domain have high embedding capacity but they are not robust to image compression. On the other hand, methods using transform domain usually work with image compression but have low embedding capacity. In recent image steganography research, many transform domain methods are based on JPEG format …


The Effects Of English Accented Speeches, Specific Content Knowledge, And Test-Taking Strategies On Listening Comprehension Of High And Low Efl Achievers, Pornchanok Sukpan Jan 2017

The Effects Of English Accented Speeches, Specific Content Knowledge, And Test-Taking Strategies On Listening Comprehension Of High And Low Efl Achievers, Pornchanok Sukpan

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

This study aimed to examine (1) the effects of three main variables: English-accented speeches, specific content knowledge, and test-taking strategies on listening comprehension of high and low EFL learners. It also investigated (2) the relationship among these three variables on listening comprehension of high and low EFL achievers, and (3) the attitudes of both high and low EFL achievers towards English-accented speech. Eighty third-year university students from the Faculty of Communication Arts were purposively selected and classified into two different English proficiency groups: high and low regarding the z score of ±1 on the average grades of two prerequisite English …


Coal Combustion Products Utilization For Soil Amendment, Tran Thi Anh Tuyet Jan 2017

Coal Combustion Products Utilization For Soil Amendment, Tran Thi Anh Tuyet

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Nowadays, coal has a crucial role in generating energy all over the world. As a result, the consumption of coal creates a huge amount of coal combustion products, including bottom ash and fly ash. The coal ash has the potential characteristics to become a resource material in agriculture such as its texture, water holding capacity, bulk density, pH etc., and contains almost all the essential plant nutrients. However, most of the coal ash created is dumped into the landfill, which is a contributing factor in the environmental degradation. This study wants to use coal ash in agriculture as a way …


Threshold Of Luminance Contrast And Chromaticity Contrast For Subjects Wearing Simulated Low Vision Glasses, Mintra Manavutt Jan 2017

Threshold Of Luminance Contrast And Chromaticity Contrast For Subjects Wearing Simulated Low Vision Glasses, Mintra Manavutt

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

As reported by WHO in 2010, there are 246 million people with low vision (total population in the world is 6,737 million). The proper environment is important for doing their daily activities not only to be safe and convenient but also to improve the quality of life. This research investigated the threshold of luminance contrast and chromaticity contrast for subjects wearing simulated low vision glasses. The subjests are color normal vision wearing simulated low vision glasses with visual acuity (VA) ranging between 0.05 and 0.3: narrow vision (NV), blur vision (BL), occlusion vision (OLS) and combination of blur and occlusion …


Asean Way: Challenges To Asean Capital Market Integration, Tir Srinopnikom Jan 2017

Asean Way: Challenges To Asean Capital Market Integration, Tir Srinopnikom

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

This research argues that the ASEAN Way of respecting sovereignty, non-interference, consensus and flexibility causes partial success of ASEAN capital market integration. Although the ASEAN Way is vital to the existence of ASEAN, and there are several innovations that were built on the basis of the ASEAN Way, such as regional cooperation concerning bond market development, financial services liberalisation and investor protection. However, the ASEAN Way has significantly influenced the intensity of institutionalisation and legalisation processes of ASEAN regionalisation. Critically, there remain significant disparities in the regulatory, normative, and cognitive institutions in the financial markets among the ASEAN countries. This …


Designing Packing Boxes To Minimize Number Of Box Types, Teeradech Laisupannawong Jan 2017

Designing Packing Boxes To Minimize Number Of Box Types, Teeradech Laisupannawong

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

In a product packing procedure, many types of packing boxes may be used if a factory has several kinds of goods or products. The cost spent for many types of boxes is added to the manufacturing cost. However, it would be more efficient in the aspects of the cost reduction and the production management if we can design reasonable box sizes and can minimize the number of box types for packing goods. In this work, we propose a heuristic rectangular box design algorithm for packing each kind of rectangular goods when the number of goods per box is given. The …


Generation And Characterization Of Hla-Universal, Ipsc-Derived Platelets, Phatchara Norbnop Jan 2017

Generation And Characterization Of Hla-Universal, Ipsc-Derived Platelets, Phatchara Norbnop

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Platelet demand has been increased around the world resulting from many factors including the rise of aging population, hematological malignancy incidence, and hematopoietic stem cell transplantation. In addition, inadequacy of donors or matched donors, time consuming, cost, the risk of transfusion-transmitted infections and transfusion-associated reactions, and platelet transfusion refractoriness are limits of this approach. To solve these problems, here we propose to generate platelets in vitro which do not induce alloimmunity to HLA class I, a major cause of immune factors in platelet transfusion refractoriness. In this study, we have knocked out β2-microglobulin gene (β2m) in iPSCs using paired CRISPR/Cas9 …


Theoretical Studies On Electronic Properties Of Curved Graphene Quantum Dots And Lithium Adsorption On Graphene Quantum Dots, Naruwan Pattarapongdilok Jan 2017

Theoretical Studies On Electronic Properties Of Curved Graphene Quantum Dots And Lithium Adsorption On Graphene Quantum Dots, Naruwan Pattarapongdilok

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Graphene quantum dots (GQDs), with their attractive properties, are of interest to apply for electronic devices. Therefore, this dissertation aimed to investigate the electronic of curved graphene quantum dots (CGQDs) and the adsorption of lithium on GQDs. For the first part, two shapes of flat GQDs, rhomboidal (RGQDs) and hexagonal (HGQDs), were modified to make CGQDs with different folding axes and angles. Stabilities and electronic properties of CGQDs were studied using PBE/DNP. The results showed that the deformation energies of GQDs depend on sizes and folding axes but not their shapes. HOMO-LUMO gap variations, both widening and narrowing the gap, …


Probiotic Properties And Anti-Helicobacter Pylori Activity Of Lactic Acid Bacteria From Plant And Fermented Food Products, Sujitra Techo Jan 2017

Probiotic Properties And Anti-Helicobacter Pylori Activity Of Lactic Acid Bacteria From Plant And Fermented Food Products, Sujitra Techo

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Two hundred and thirty-eight strains of lactic acid bacteria (LAB) isolated from several plant-materials and fermented food products collected in Thailand were screening for antibacterial activity. Fifty-three strains which exhibited antimicrobial activity against Helicobacter pylori clinical strains, were selected and identified based on the phenotypic, chemotaxonomic characteristics and 16S rRNA gene sequence analysis. They were identified as Lactobacillus (Lb.) plantarum subsp. plantarum (3 strains), Lb. pentosus (10 starins), Pediococcus (P.) pentosaceus (2 strains), Lb. paracasei subsp. tolerans (1 strain), Lb. fermentum (5 strains), Enterococcus (En.) faecium (2 strains), En. casseliflavus (1 strain), Lactococcus (Lc.) garvieae subsp. garvieae (1 strain), Lc. …


Effect Of 3-Methacryloxypropyltrimethoxysilane Modified Zinc Oxide Nanoparticles Incorporated In Polymethylmethacrylate Material On Antifungal, Optical And Mechanical Properties, Krid Kamonkhantikul Jan 2017

Effect Of 3-Methacryloxypropyltrimethoxysilane Modified Zinc Oxide Nanoparticles Incorporated In Polymethylmethacrylate Material On Antifungal, Optical And Mechanical Properties, Krid Kamonkhantikul

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

This study aimed to evaluate 1) the characteristics of different amount of 3-methacryloxypropyltrimethoxysilane (MPS) deposited on zinc oxide nanoparticles (ZnOnps) by Fourier transform infrared spectroscopy (FTIR) and thermogravimetric analysis (TGA) before and after tetrahydrofuran washing, 2) the effect of different MPS amount deposited on ZnOnps incorporated in PMMA material on mechanical properties, and 3) the effect of different ZnOnps amounts with or without MPS incorporated in PMMA material on antifungal, optical and mechanical properties. The FTIR and TGA results showed the success of silanization. The monolayered silane molecules were parallelly oriented on the ZnOnps surface. The different MPS amounts (0-14.4 …


Prevalence And Factors Associated With Sexual Activites Among High School Students In Kendal Regency, Indonesia, Ekha Rifki Fauzi Jan 2017

Prevalence And Factors Associated With Sexual Activites Among High School Students In Kendal Regency, Indonesia, Ekha Rifki Fauzi

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Background: The risk of sexual activities among adolescents is high in globally. Unwanted pregnancy, sexual transmitted infections, and HIV are still the big problem in adolescents. This study was involved to exam the prevalence and factor associated with sexual activities among high school students. Methods: A cross-sectional study was conducted around 145 male students and 315 female students. The total populations was 460 students with multistage random sampling technique. A self-reported questionnaire was used including Illustrative Questionnaire for Interview-Surveys with Young People, Sexual Activity Scale and Sex Education Inventory. Descriptive statistics, Chi-square test, and multivariate logistic regression were used to …