Open Access. Powered by Scholars. Published by Universities.®
Articles 1 - 2 of 2
Full-Text Articles in Medicine and Health Sciences
ความรู้และทัศนคติเกี่ยวกับโรคปริทันต์ของผู้ป่วยที่มารับบริการในแผนกทันตกรรมของโรงพยาบาลรัฐบาลและโรงพยาบาลเอกชน ในเขตกรุงเทพมหานคร, ชิตนี วีระประดิษฐ์ศิลป, ศิริพร รัตเชตกุล, สุรสา ตั้งใจตรง, ณรงค์ศักดิ์ เหล่าศรีสิน
ความรู้และทัศนคติเกี่ยวกับโรคปริทันต์ของผู้ป่วยที่มารับบริการในแผนกทันตกรรมของโรงพยาบาลรัฐบาลและโรงพยาบาลเอกชน ในเขตกรุงเทพมหานคร, ชิตนี วีระประดิษฐ์ศิลป, ศิริพร รัตเชตกุล, สุรสา ตั้งใจตรง, ณรงค์ศักดิ์ เหล่าศรีสิน
Chulalongkorn University Dental Journal
งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาถึงความรู้และทัศนคติเกี่ยวกับโรคปริทันต์ของผู้ป่วยที่มารับบริการในแผนกทันตกรรมของโรงพยาบาลของรัฐบาล และโรงพยาบาลเอกชน ในเขตกรุงเทพมหานคร จํานวนกลุ่มละ 100 คน ผู้ป่วยทั้งสองกลุ่มมีความรู้ที่ถูกต้องในประเด็นที่ว่า สุขภาพเหงือกและฟันเป็นสิ่งสําคัญ ควรไปพบทันตแพทย์เป็นประจํา และการใช้แรงที่เหมาะสมในการแปรงฟัน แต่พบว่ามีความรู้เกี่ยวกับแผ่นคราบจุลินทรีย์ หรือสาเหตุของการเกิดโรคปริทันต์น้อยมาก อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยกลุ่มโรงพยาบาลเอกชนจะมีความรู้และทัศนคติที่ถูกต้องมากกว่าผู้ป่วยกลุ่มโรงพยาบาลรัฐบาล (P < 0.05) ซึ่งความแตกต่างของระดับความรู้และทัศนคติดังกล่าวอาจเป็นผลมากจาก อายุ เพศ อาชีพ และรายได้ของผู้ป่วย จากผลการวิจัยครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า ยังคงมีความจําเป็นต้องให้ความรู้เกี่ยวกับโรคปริทันต์แก่ผู้ป่วยให้มากขึ้นในขณะบําบัดรักษาทางทันตกรรม
ความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรม การป้องกันโรคเอดส์ของทันตแพทย์, กมลเนตร โอฆานุรักษ์, สันต์ศิริ ศรมณี, ลัคนา เหลืองจามีกร, Jeffrey Mandel
ความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรม การป้องกันโรคเอดส์ของทันตแพทย์, กมลเนตร โอฆานุรักษ์, สันต์ศิริ ศรมณี, ลัคนา เหลืองจามีกร, Jeffrey Mandel
Chulalongkorn University Dental Journal
แบบสอบถามแบ่งออกได้เป็น 6 ส่วนคือ 1) ข้อมูลส่วนบุคคลและการอบรมเกี่ยวกับโรคเอดส์ 2) ความรู้เกี่ยวกับโรคเอดส์ 3) ทัศนคติโดยทั่วไปเกี่ยวกับโรคเอดส์ 4) ทัศนคติต่อความตั้งใจที่จะให้บริการผู้ป่วยโรคเอดส์หรือผู้ติดเชื้อโรคเอดส์ 5) การประเมินความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคเอดส์ในระหว่าง การให้บริการทางทันตกรรม และ 6) พฤติกรรมการป้องกันโรคเอดส์ ทันตแพทย์จํานวน 130 คน ได้ตอบแบบสอบถาม ส่วนใหญ่ยังปฏิบัติงานทันตกรรมอยู่ และ 71% ของผู้ตอบแบบสอบถามเคยได้รับการอบรมเกี่ยวกับโรคเอดส์แล้ว แต่มีเพียง 15% เท่านั้นที่เคยให้บริการแก่ผู้ป่วยโรคเอดส์ นอกจากนั้นพบว่ากว่า 90% ของทันตแพทย์กลุ่มนี้มีความรู้เกี่ยวกับโรคเอดส์ในระดับที่ดี หากแต่ทัศนคติต่อโรคเอดส์โดยทั่วไปหรือต่อความตั้งใจที่จะให้บริการผู้ป่วยโรคเอดส์นั้น พบว่ามีค่าบวกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทันตแพทย์ทุกคนในการศึกษานี้คิดว่าตนเองจะอยู่ในฐานะที่เสี่ยงต่อการติดโรคเอดส์ ถ้าเขาต้องให้บริการผู้ป่วยเหล่านี้ เมื่อพิจารณาถึงพฤติกรรมการป้องกันแล้วจะพบว่า ทันตแพทย์กลุ่มนี้ขณะที่ตอบแบบสอบถามยังมีพฤติกรรมการป้องกันที่ไม่เพียงพอ สิ่งที่น่าสนใจมากอีกประการหนึ่งก็คือ ทันตแพทย์ที่ผ่านการอบรมเรื่องโรคเอดส์แล้วนั้น มีความรู้เกี่ยวกับโรคเอดส์ดีขึ้น แต่ยังไม่มีการเปลี่ยนทัศนคติหรือพฤติกรรมการป้องกันโรคเอดส์อย่างจริงจัง