Open Access. Powered by Scholars. Published by Universities.®

Medicine and Health Sciences Commons

Open Access. Powered by Scholars. Published by Universities.®

Articles 1 - 30 of 434

Full-Text Articles in Medicine and Health Sciences

ผลของการเดินสมาธิต่อการทำงานของหลอดเลือดในผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมระหว่างรับยาเคมีบำบัดกลุ่มแอนทราไซคลิน, เสาวลักษณ์ ศิริปัญญา Jan 2017

ผลของการเดินสมาธิต่อการทำงานของหลอดเลือดในผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมระหว่างรับยาเคมีบำบัดกลุ่มแอนทราไซคลิน, เสาวลักษณ์ ศิริปัญญา

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษาวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการเดินสมาธิต่อการทำงานของหลอดเลือดในผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมระหว่างรับยาเคมีบำบัดกลุ่มแอนทราไซคลิน กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมระยะที่ 1 และ 2 อายุระหว่าง 30-70 ปี จำนวน 22 คน ทำการสุ่มแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมที่ใช้ชีวิตตามปกติ จำนวน 11 คน และกลุ่มผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมที่ออกกำลังกายด้วยการเดินสมาธิ จำนวน 11 คน ทั้งสองกลุ่มจะได้รับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัดกลุ่มแอนทราไซคลินจำนวน 4 รอบ ระยะห่างระหว่างรอบ 3 สัปดาห์ รวม 12 สัปดาห์ กลุ่มเดินสมาธิทำการฝึกเดินด้วยตนเองที่บ้าน ซึ่งประกอบไปด้วยการบีบ-คลายลูกบอลยางในมือทั้งสองข้างเป็นจังหวะขณะก้าวเดินเพื่อเป็นการฝึกสมาธิ และเดินออกกำลังกายที่ความหนัก 60-70% ของอัตราการเต้นหัวใจสำรอง เวลา 30 นาทีต่อครั้ง 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เป็นเวลาทั้งสิ้น 12 สัปดาห์ กลุ่มตัวอย่างทั้งสองกลุ่มจะได้รับการทดสอบทางสรีรวิทยาทั่วไป การทำงานระบบหัวใจและไหลเวียนโลหิต การทำงานของหลอดเลือด สารชีวเคมีในเลือด ความเครียด ความเหนื่อยล้า กิจกรรมทางกาย และคุณภาพชีวิต ในช่วงก่อนรับยาเคมีบำบัดกลุ่มแอนทราไซคลิน หลังรับยาเคมีบำบัดกลุ่มแอนทราไซคลิน 2 สัปดาห์ และหลังรับยาเคมีบำบัดกลุ่มแอนทราไซคลินครบ 12 สัปดาห์ ทำการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติด้วยการทดสอบความแปรปรวนสองทางแบบวัดซ้ำ 2x3 (กลุ่มxเวลา) และเปรียบเทียบความแตกต่างแบบรายคู่ โดยใช้วิธีการทดสอบของแอลเอสดี (LSD) พิจารณาความแตกต่างที่ระดับความมีนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 ผลการวิจัย พบว่า การทำงานของเซลล์เยื่อบุผนังหลอดเลือด ความสามารถในการใช้ออกซิเจนสูงสุด กิจกรรมทางกายและคะแนนคุณภาพชีวิตเพิ่มสูงขึ้นในกลุ่มเดินสมาธิ ความดันโลหิตขณะหัวใจบีบตัว ระดับความเครียด และสัดส่วนความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจความถี่ต่ำต่อความถี่สูงลดลง เมื่อเทียบกับก่อนเดินสมาธิอย่างนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 สรุปได้ว่า โปรแกรมการออกกำลังกายด้วยการเดินสมาธิมีประสิทธิภาพในการพัฒนาสมรรถภาพของระบบหัวใจและหลอดเลือด การตอบสนองของหลอดเลือด และคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมระหว่างการรักษาด้วยยาเคมีบำบัดให้ดีขึ้นได้


ผลแบบทันทีของการรักษาด้วยเลเซอร์ความยาวคลื่นผสม 808 และ 905 นาโนเมตรต่อหญิงที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อบดเคี้ยวเฉียบพลัน: การศึกษาทางคลินิกแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุม, ธนธรณ์ พินธุโสภณ Jan 2017

ผลแบบทันทีของการรักษาด้วยเลเซอร์ความยาวคลื่นผสม 808 และ 905 นาโนเมตรต่อหญิงที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อบดเคี้ยวเฉียบพลัน: การศึกษาทางคลินิกแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุม, ธนธรณ์ พินธุโสภณ

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลแบบทันทีของการรักษาด้วยเลเซอร์ความยาวคลื่นผสม 808 และ 905 นาโนเมตรในการลดอาการปวดกล้ามเนื้อบดเคี้ยวแบบเฉียบพลันในเพศหญิงโดยใช้การศึกษาทางคลินิกแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุม ทำการศึกษาในผู้ป่วยหญิงที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อบดเคี้ยวจำนวน 42 คน โดยสุ่มออกเป็น กลุ่มทดลอง 21 คนและกลุ่มควบคุม 21 คน ทำการวัดผลก่อนการรักษา หลังการรักษารวมทั้ง 1สัปดาห์หลังการรักษา วัดผลโดยมาตรวัดระดับความเจ็บปวดด้วยสายตา (VAS) ค่าแรงกดที่น้อยที่สุดที่ทำให้เริ่มรู้สึกเจ็บ (PPT) และระยะอ้าปากกว้างสุด (MMO) ทำการเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างกลุ่มโดยใช้การทดสอบสถิติแมนวิทนีย์ยู ผลการวิจัยพบว่าเมื่อเปรียบเทียบค่า VAS ของกลุ่มทดลองกับกลุ่มควบคุมกลุ่มทดลองมีค่ามัธยฐานก่อน,หลัง และ 1 สัปดาห์หลังการรักษา ดังต่อไปนี้ 54.00(41.75-70.50), 35.00(22.00-61.00) และ 9.00(2.00-31.00) กลุ่มควบคุม 61.00(43.50-74.00), 51.00(37.00-65.50) และ 26.50(13.00-49.00) ค่า PPT ของกลุ่มทดลองมีค่ามัธยฐานก่อน,หลัง และ 1 สัปดาห์หลังการรักษา ดังต่อไปนี้ 55.00(35.25-75.50 กิโลปาสคาล), 62.50(43.25-78.00 กิโลปาสคาล) และ 64.00(49.00-84.00 กิโลปาสคาล) กลุ่มควบคุม 55.00(35.00-80.75 กิโลปาสคาล), 49.00(41.25-77.25 กิโลปาสคาล) และ 63.00 (51.50-82.50 กิโลปาสคาล) ค่า MMO ของกลุ่มทดลองมีค่ามัธยฐานก่อน,หลังและ 1 สัปดาห์หลังการรักษา ดังต่อไปนี้ 40.00(33.00-43.50 มิลลิเมตร), 40.00(35.00-43.50 มิลลิเมตร) และ 40.00(37.00-43.00 มิลลิเมตร) กลุ่มควบคุม 42.00(32.00-45.00 มิลลิเมตร), 42.00 (31.50-45.00 มิลลิเมตร) และ 42.00 (34.00-45.00 มิลลิเมตร) ผลพบว่า VAS,PPT และ MMO หลังการรักษาและ 1 สัปดาห์หลังการรักษาไม่แตกต่างกับก่อนการรักษาอย่างมีนัยสำคัญ (p=0.159, 0.070, 0.365, 0.930, 0.422 และ 0.278 …


การยึดอยู่ของสะพานฟันรูปแบบใหม่ที่กรอฟันน้อย ภายหลังได้รับแรงกระทำแบบเป็นวัฏจักร, รุจิรา ภัทรทิวานนท์ Jan 2017

การยึดอยู่ของสะพานฟันรูปแบบใหม่ที่กรอฟันน้อย ภายหลังได้รับแรงกระทำแบบเป็นวัฏจักร, รุจิรา ภัทรทิวานนท์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อออกแบบสะพานฟันที่ยึดด้วยวัสดุเรซินชนิดกรอฟันน้อยในฟันหลังรูปแบบใหม่ โดยเปรียบเทียบการยึดอยู่ระหว่าง 3 รูปแบบที่แตกต่างกันภายหลังได้รับแรงกระทำแบบเป็นวัฏจักร โดยใช้ฟันมนุษย์ที่ได้รับการถอนจำนวน 60 ซี่ เป็นฟันกรามน้อย 30 ซี่ และฟันกรามแท้ 30 ซี่ นำฟันกรามน้อยและฟันกรามแท้อย่างละซี่ยึดเข้ากับอะคริลิกเรซินชนิดบ่มตัวด้วยตัวเองที่ระยะห่าง 11 มิลลิเมตรเพื่อจำลองการสูญเสียฟันกรามแท้ซี่ที่หนึ่ง แบ่งบล็อกฟันออกเป็น 3 กลุ่มๆ ละ 10 บล็อก ตามรูปแบบการออกแบบชิ้นงาน โดยกลุ่มที่ 1 ชิ้นงานเป็นส่วนพักนอกตัวฟันด้านบดเคี้ยวที่มีลักษณะเช่นเดียวกับออนเลย์ กลุ่มที่ 2 ชิ้นงานเป็นส่วนพักในตัวฟันด้านประชิดร่วมกับข้อต่อขยับได้ และกลุ่มที่ 3 ชิ้นงานเป็นส่วนพักในตัวฟันด้านประชิดร่วมกับข้อต่อขยับไม่ได้ ชิ้นงานทำด้วยโลหะผสมไร้สกุล ปรับสภาพพื้นผิวด้านในด้วยอะลูมินาขนาด 50 ไมโครเมตร และยึดด้วยเรซินซีเมนต์ชนิดซุปเปอร์บอนด์ซีแอนด์บี ทดสอบชิ้นตัวอย่างด้วยแรงกดในแนวตรงลงบนฟันหลักทั้ง 2 ซี่และฟันแขวน ด้วยแรงขนาด 50 – 800 นิวตัน ที่ความถี่ 4 รอบต่อวินาที จำนวน 2,500,000 รอบ ภายหลังทดสอบด้วยแรงกด ถ้าชิ้นงานไม่เกิดความล้มเหลวจะนำไปทดสอบด้วยแรงดึงขึ้นในแนวตรงจนกระทั่งเกิดความล้มเหลวของชิ้นงาน และประเมินความล้มเหลวที่เกิดขึ้นว่าเกิดที่ระดับใด ผลการทดสอบพบว่าชิ้นตัวอย่างของทุกกลุ่มอยู่รอดภายหลังทดสอบด้วยแรงกดแบบเป็นวัฏจักร เมื่อทดสอบด้วยแรงดึงพบว่าค่าเฉลี่ยแรงยึดของชิ้นงานทั้ง 3 กลุ่มมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) โดยกลุ่มที่ 3 มีค่าแรงยึดสูงที่สุดโดยเฉลี่ย 529.9 ± 86.2 นิวตัน รองลงมาคือกลุ่มที่ 1 ที่มีค่า 396.7 ± 73.2 นิวตัน และกลุ่มที่ 2 มีค่าต่ำที่สุดโดยเฉลี่ย 228.3 ± 52.5 นิวตัน โดยรูปแบบความล้มเหลวของชิ้นงานจะเกิดการหลุดบริเวณรอยต่อระหว่างชิ้นงานและเรซินซีเมนต์และ/หรือภายในเรซินซีเมนต์เป็นส่วนใหญ่ ผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าสะพานฟันหลังชนิดกรอฟันน้อยที่ชิ้นงานมีส่วนพักในตัวฟันด้านประชิดร่วมกับการใช้ข้อต่อขยับไม่ได้อาจส่งผลให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าชิ้นงานที่มีลักษณะเป็นส่วนพักนอกตัวฟันด้านบดเคี้ยวที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน


Generation And Characterization Of Hla-Universal, Ipsc-Derived Platelets, Phatchara Norbnop Jan 2017

Generation And Characterization Of Hla-Universal, Ipsc-Derived Platelets, Phatchara Norbnop

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Platelet demand has been increased around the world resulting from many factors including the rise of aging population, hematological malignancy incidence, and hematopoietic stem cell transplantation. In addition, inadequacy of donors or matched donors, time consuming, cost, the risk of transfusion-transmitted infections and transfusion-associated reactions, and platelet transfusion refractoriness are limits of this approach. To solve these problems, here we propose to generate platelets in vitro which do not induce alloimmunity to HLA class I, a major cause of immune factors in platelet transfusion refractoriness. In this study, we have knocked out β2-microglobulin gene (β2m) in iPSCs using paired CRISPR/Cas9 …


Probiotic Properties And Anti-Helicobacter Pylori Activity Of Lactic Acid Bacteria From Plant And Fermented Food Products, Sujitra Techo Jan 2017

Probiotic Properties And Anti-Helicobacter Pylori Activity Of Lactic Acid Bacteria From Plant And Fermented Food Products, Sujitra Techo

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Two hundred and thirty-eight strains of lactic acid bacteria (LAB) isolated from several plant-materials and fermented food products collected in Thailand were screening for antibacterial activity. Fifty-three strains which exhibited antimicrobial activity against Helicobacter pylori clinical strains, were selected and identified based on the phenotypic, chemotaxonomic characteristics and 16S rRNA gene sequence analysis. They were identified as Lactobacillus (Lb.) plantarum subsp. plantarum (3 strains), Lb. pentosus (10 starins), Pediococcus (P.) pentosaceus (2 strains), Lb. paracasei subsp. tolerans (1 strain), Lb. fermentum (5 strains), Enterococcus (En.) faecium (2 strains), En. casseliflavus (1 strain), Lactococcus (Lc.) garvieae subsp. garvieae (1 strain), Lc. …


Effect Of 3-Methacryloxypropyltrimethoxysilane Modified Zinc Oxide Nanoparticles Incorporated In Polymethylmethacrylate Material On Antifungal, Optical And Mechanical Properties, Krid Kamonkhantikul Jan 2017

Effect Of 3-Methacryloxypropyltrimethoxysilane Modified Zinc Oxide Nanoparticles Incorporated In Polymethylmethacrylate Material On Antifungal, Optical And Mechanical Properties, Krid Kamonkhantikul

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

This study aimed to evaluate 1) the characteristics of different amount of 3-methacryloxypropyltrimethoxysilane (MPS) deposited on zinc oxide nanoparticles (ZnOnps) by Fourier transform infrared spectroscopy (FTIR) and thermogravimetric analysis (TGA) before and after tetrahydrofuran washing, 2) the effect of different MPS amount deposited on ZnOnps incorporated in PMMA material on mechanical properties, and 3) the effect of different ZnOnps amounts with or without MPS incorporated in PMMA material on antifungal, optical and mechanical properties. The FTIR and TGA results showed the success of silanization. The monolayered silane molecules were parallelly oriented on the ZnOnps surface. The different MPS amounts (0-14.4 …


Prevalence And Factors Associated With Sexual Activites Among High School Students In Kendal Regency, Indonesia, Ekha Rifki Fauzi Jan 2017

Prevalence And Factors Associated With Sexual Activites Among High School Students In Kendal Regency, Indonesia, Ekha Rifki Fauzi

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Background: The risk of sexual activities among adolescents is high in globally. Unwanted pregnancy, sexual transmitted infections, and HIV are still the big problem in adolescents. This study was involved to exam the prevalence and factor associated with sexual activities among high school students. Methods: A cross-sectional study was conducted around 145 male students and 315 female students. The total populations was 460 students with multistage random sampling technique. A self-reported questionnaire was used including Illustrative Questionnaire for Interview-Surveys with Young People, Sexual Activity Scale and Sex Education Inventory. Descriptive statistics, Chi-square test, and multivariate logistic regression were used to …


Intelligent Pill Box To Improve Medical Adherence In Elderly With Hypertension : A Randomized Controlled Trial, Nanthakan Sungsuman Woodham Jan 2017

Intelligent Pill Box To Improve Medical Adherence In Elderly With Hypertension : A Randomized Controlled Trial, Nanthakan Sungsuman Woodham

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Background: Antihypertension medical adherence is important for controlling blood pressure in hypertension patients. Adherence to antihypertension medication among elderly Thai persons in the rural area is low, which contributes to uncontrolled blood pressure.
Objective: To examine whether an intreated education program and innovative pill box improves adherence to medications and to improve controlling blood pressure among Thai elderly persons with hypertension.
Methods: A randomized controlled trial. 200 elderly persons with hypertension who received at least one hypertension medication, at least once daily, were randomized into two groups. One group received the usual education program (control group) and the second group …


Residential Environments And Sleep-Disordered Breathing In Bangkok Thailand: A Repeated Cross-Sectional Study, Sattamat Lappharat Jan 2017

Residential Environments And Sleep-Disordered Breathing In Bangkok Thailand: A Repeated Cross-Sectional Study, Sattamat Lappharat

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Since epidemiological associations have demonstrated the effects of long-term air pollution to OSA through a physiological mechanism linking particulate matter exposure to OSA. We enrolled 81 participants from the Excellence Center for Sleep Disorders at King Chulalongkorn Memorial hospital, Bangkok, Thailand. This study consists of two seasons (the wet and the dry seasons), which it started during the period of January in 2016 to April in 2017. Personal information, bedroom environmental characteristics, subjective sleep quality, underlying diseases, bedroom environmental conditions (PM10, temperature, and relative humidity), and urinary melatonin were obtained by a face-to-face interview, medical record, field analysis, and laboratory …


Effectiveness Of Integrated Health Literacy And Self-Management Model For Hypertension Control In Urban Community, Nakhonratchasima Province, Thailand, Sawitree Visanuyothin Jan 2017

Effectiveness Of Integrated Health Literacy And Self-Management Model For Hypertension Control In Urban Community, Nakhonratchasima Province, Thailand, Sawitree Visanuyothin

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Background: Hypertension (HT) response a half of death from heart disease and stroke due to poorly-controlled hypertension. Many strategies have been approached poorly-controlled HT. The integrated health literacy and self-management model led care on poorly-controlled HT in urban area were few on reviewing. This study aimed to determine effectiveness of integrated program for poorly-controlled HT in urban community, Nakhorn Ratchasima, Thailand in experimental group comparing with usual care. Methods: This was a quasi-experiment during January 2017- March 2018 of The catchment areas of two primary care unit (PCU) in urban area of Nakhorn Ratchasima, Thailand were selected to be one …


Pesticides Exposure And Health Risk Assessment : A Case Studyof Health Effect On Male Ground-Nut Farmers’ Reproductive System In Kyauk-Kan Village Of Nyaung-U District, Mandalay Region, Myanmar, Thant Zaw Lwin Jan 2017

Pesticides Exposure And Health Risk Assessment : A Case Studyof Health Effect On Male Ground-Nut Farmers’ Reproductive System In Kyauk-Kan Village Of Nyaung-U District, Mandalay Region, Myanmar, Thant Zaw Lwin

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Exposure to pesticides affects many body organs including reproductive system. This is the first of its kind pioneering study in Myanmar and the main objective of the present study review was to explore knowledge and practice on safe use of pesticide among farmers and to find out the effects of pesticide on male reproductive system by using biomarkers (semen, serum hormone and blood cholinesterase level) among male farmers in Kyauk Kan village of Nyaung-U District, Mandalay Region, Myanmar and accompanied with nine specific objectives. There were 3 phases, the first phase was cross-sectional study named as observational study, identified the …


Monitoring Of Antibiogram And Resistance Gene Profiles Among Escherichia Coli In Pig Production System, Kittitat Lugsomya Jan 2017

Monitoring Of Antibiogram And Resistance Gene Profiles Among Escherichia Coli In Pig Production System, Kittitat Lugsomya

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

The antimicrobial resistant (AMR) bacteria in pig farms have been believed as an important source in food chain with public health concern. While some studies suggested transmission of AMR from pigs to humans may occur, but there was still needing to combine high resolution genomic data analysis with systematically collected epidemiological evidence to reconstruct patterns of AMR transmission between pigs and humans. The objectives of this study were to determine the occurrence and characterization the AMR phenotypes against 18 antimicrobials in pig producing system in both cross-sectional from fattening and longitudinal studies from newborn to slaughtering pigs and to evaluate …


ภาวะซึมเศร้า และปัจจัยที่เกี่ยวข้องของพนักงานเกษียณอายุการไฟฟ้านครหลวง ที่คลินิกผู้ป่วยนอก แผนกอายุรกรรม โรงพยาบาลการไฟฟ้านครหลวง, อรกนก สังข์พระกร Jan 2017

ภาวะซึมเศร้า และปัจจัยที่เกี่ยวข้องของพนักงานเกษียณอายุการไฟฟ้านครหลวง ที่คลินิกผู้ป่วยนอก แผนกอายุรกรรม โรงพยาบาลการไฟฟ้านครหลวง, อรกนก สังข์พระกร

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

วัตถุประสงค์ เพื่อหาความชุกของภาวะซึมเศร้า และศึกษาปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับภาวะซึมเศร้าของพนักงานเกษียณอายุการไฟฟ้านครหลวง ที่คลินิกผู้ป่วยนอก แผนกอายุรกรรม โรงพยาบาลการไฟฟ้านครหลวง วิธีการศึกษา ศึกษาในพนักงานเกษียณอายุการไฟฟ้านครหลวง ที่คลินิกผู้ป่วยนอก แผนกอายุรกรรม โรงพยาบาลการไฟฟ้านครหลวง จำนวน 115 คน โดยให้กลุ่มตัวอย่างตอบแบบสอบถาม 6 ชุด ได้แก่ แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล แบบประเมินสมองเบื้องต้น แบบวัดความเศร้าในผู้สูงอายุของไทย แบบสอบถามเหตุการณ์ความเครียดในชีวิตในช่วงหนึ่งปี แบบประเมินการสนับสนุนทางสังคม และแบบสอบถามการมีส่วนร่วมในสังคมของผู้สูงอายุ ใช้โปรแกรม SPSS เพื่อหาสถิติเชิงพรรณนา คำนวณสถิติเชิงอนุมานเพื่อหาปัจจัยที่เกี่ยวข้อง และวิเคราะห์การถดถอยลอจิสติกเพื่อหาปัจจัยทำนายภาวะซึมเศร้า ผลการศึกษา กลุ่มตัวอย่าง 115 คน ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย ร้อยละ 62.6 มีอายุเฉลี่ย 68.8 ปี พบความชุกของภาวะซึมเศร้า คิดเป็นร้อยละ 35.6 แบ่งเป็นภาวะซึมเศร้าเล็กน้อย ร้อยละ 33.0 และภาวะซึมเศร้าปานกลาง ร้อยละ 2.6 โดยปัจจัยส่วนบุคคลที่สัมพันธ์กับภาวะซึมเศร้า ได้แก่ เพศชาย มีอายุมากกว่า 66 ปีขึ้นไป ระดับการศึกษาชั้นมัธยม รายได้ปัจจุบันน้อยกว่าเท่ากับ 10,000 บาท/เดือน รายได้ไม่เพียงพอและมีหนี้สิน จำนวนสมาชิกในครอบครัวน้อยกว่าเท่ากับ 2 คน ปัจจัยด้านการทำงานที่สัมพันธ์กับภาวะซึมเศร้า ได้แก่ ตำแหน่งงานก่อนเกษียณอายุระดับน้อยกว่าเท่ากับซี 6 กองทุนสำรองเลี้ยงชีพน้อยกว่าเท่ากับ 3 ล้านบาท รายได้ก่อนเกษียณอายุน้อยกว่าเท่ากับ 60,000 บาท/เดือน รายได้หลังเกษียณอายุน้อยกว่าเท่ากับ 10,000 บาท/เดือน ปัจจัยด้านสุขภาพและการเจ็บป่วยที่สัมพันธ์กับภาวะซึมเศร้า ได้แก่ มีโรคประจำตัวมากกว่า 2 โรค การเป็นโรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ โรคไต โรคต่อมลูกมากโต ได้รับยารักษาโรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ โรคต่อมลูกมากโต และปัจจัยทางจิตสังคมที่สัมพันธ์กับภาวะซึมเศร้า ได้แก่ การมีเหตุการณ์ความเครียดในชีวิตระดับสูง การสนับสนุนทางสังคมระดับต่ำ และการมีส่วนร่วมในสังคมระดับต่ำ จากการวิเคราะห์พหุสัมพันธ์พบว่าที่เสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า ได้แก่ อายุมากกว่า 66 ปี ขึ้นไป …


การศึกษาการส่องกล้องสปายกลาสเพื่อตัดชิ้นเนื้อร่วมกับการตรวจความผิดปกติโครโมโซมด้วยเทคนิคแพนครีทิโคบิริอะรี่ฟิชในการวินิจฉัยผู้ป่วยที่สงสัยมะเร็งท่อน้ำดีและตับอ่อน, จีรวัชร์ เมธาภา Jan 2017

การศึกษาการส่องกล้องสปายกลาสเพื่อตัดชิ้นเนื้อร่วมกับการตรวจความผิดปกติโครโมโซมด้วยเทคนิคแพนครีทิโคบิริอะรี่ฟิชในการวินิจฉัยผู้ป่วยที่สงสัยมะเร็งท่อน้ำดีและตับอ่อน, จีรวัชร์ เมธาภา

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษาการส่องกล้องสปายกลาสเพื่อตัดชิ้นเนื้อร่วมกับการตรวจความผิดปกติโครโมโซมด้วยเทคนิคแพนครีทิโคบิริอะรี่ฟิชในการวินิจฉัยผู้ป่วยที่สงสัยมะเร็งท่อน้ำดีและตับอ่อน บทนำ การส่องกล้องทางเดินน้ำดี (ERCP) เป็นหัตถการที่นิยมในปัจจุบันในการวินิจฉัยผู้ป่วยที่มาด้วยท่อน้ำดีตีบตัน เนื่องมาจากสามารถทำการตัดชิ้นเนื้อและเก็บเซลล์ภายใต้ฟลูโอโรสโครปี้ แต่อย่างไรก็ตามยังมีข้อจำกัดในการวินิจฉัยภาวะท่อน้ำดีตีบตันเนื่องจากความไวในการวินิจฉัยค่อนข้างต่ำ ปัจจุบันมีอุปกรณ์ในการส่องกล้องท่อน้ำดีชนิดใหม่ คือ กล้องสปายกลาส ซึ่งสามารถแสดงให้เห็นลักษณะท่อน้ำดีที่ชัดเจนและสามารถบอกตำแหน่งของความผิดปกติได้ การศึกษานี้มีจุดประสงค์ในการหาความไวและความจำเพาะท่อน้ำดีตีบตันที่สงสัยมะเร็ง โดยการตัดชิ้นเนื้อด้วยกล้องสปายกลาสร่วมกับการตรวจหาความผิดปกติของโครโมโซมด้วยเทคนิคฟิช วิธีการวิจัย ผู้ป่วยที่สงสัยภาวะท่อน้ำดีตีบตันที่เกิดจากมะเร็งจะได้รับการส่องกล้องทางเดินน้ำดี (ERCP) ร่วมกับการส่องกล้องทำการตัดชิ้นเนื้อด้วยกล้องสปายกลาส (Spybite) เก็บเซลล์วิทยา (brush cytology) จากนั้นนำชิ้นเนื้อและเซลล์ที่ได้ไปส่งพยาธิวิทยาและทำการตรวจความผิดปกติของโครโมโซมด้วยเทคนิคแพนครีทิโคบิริอะรี่ฟิช คือ การใช้ตัวตรวจจับ (probe) ที่เรืองแสงฟลูออเรสเซนต์ไปจับกับโครโมโซมที่ตำแหน่งที่เฉพาะเจาะจง โดยตัวตรวจจับของโครโมโซมแพนครีทิโคบิริอะรี่ฟิช (PB probe) คือ โครโมโซม 1q21 (สีเหลือง), 7p12 (สีเขียว), 8q24 (สีฟ้า) และ 9p21 (สีแดง) โดยเซลล์มะเร็งสามารถตรวจพบการเพิ่มหรือลดของจำนวนโครโมโซมได้ การศึกษานี้เปรียบเทียบความไวและความจำเพาะการตรวจชิ้นเนื้อที่ได้จากกล้องสปายกลาสร่วมกับการตรวจหาความผิดปกติของโครโมโซมด้วยเทคนิคฟิช (Spybite FISH), การตรวจชิ้นเนื้อจากกล้องสปายกลาสด้วยพยาธิวิทยา (Spybite), การตรวจเซลล์วิทยาร่วมกับการตรวจหาความผิดปกติของโครโมโซมด้วยเทคนิชฟิช (FISH brushing) และการตรวจเซลล์โดยพยาธิวิทยา (cytology) ผลการวิจัย ผู้ป่วยมีภาวะท่อน้ำดีตีบตันที่สงสัยมะเร็งจำนวน 30 รายเข้าร่วมการวิจัย โดย 27 รายได้รับการวินิจฉัยภาวะท่อน้ำดีตีบตันที่เกิดจากมะเร็ง โดยสาเหตุเกิดจากมะเร็งท่อน้ำดีมากที่สุด (15 ราย, 55.6%), รองลงมาคือมะเร็งตับอ่อนและมะเร็งท่อน้ำดีชนิด IPNB (3 ราย, 11.1%). ความไวในการวินิจฉัยภาวะท่อน้ำดีที่เกิดจากมะเร็งด้วยการตรวจเซลล์วิทยาร่วมกับการตรวจหาความผิดปกติของโครโมโซมด้วยเทคนิชฟิช (FISH brushing) และการตรวจเซลล์โดยพยาธิวิทยา (cytology) คือ 33.3% และ 75% ตามลำดับ ความไวในการวินิจฉัยภาวะท่อน้ำดีที่เกิดจากมะเร็งด้วยการตรวจชิ้นเนื้อที่ได้จากกล้องสปายกลาสร่วมกับการตรวจหาความผิดปกติของโครโมโซมด้วยเทคนิคฟิช (Spybite FISH) และการตรวจชิ้นเนื้อที่ได้จากกล้องสปายกลาสด้วยพยาธิวิทยา (Spybite) คือ 96.3% และ 62.9% ความจำเพาะเท่ากับ 33.3% and 100% ตามลำดับ สรุปผลการวิจัย การตรวจชิ้นเนื้อด้วยกล้องสปายกลาสร่วมกับการตรวจหาความผิดปกติของโครโมโซม (Spybite FISH) สามารถเพิ่มความไวในการวินิจฉัยภาวะท่อน้ำดีตีบตันที่สงสัยมะเร็งได้มากกว่าเมื่อเทียบกับการตรวจชิ้นเนื้อที่ได้จากกล้องสปายด้วยพยาธิวิทยา (Spybite) เพียงอย่างเดียว ดังนั้นการตรวจชิ้นเนื้อด้วยกล้องสปายกลาสร่วมกับการตรวจความผิดปกติของโครโมโซมด้วยเทคนิคฟิชสามารถนำมาใช้วินิจฉัยภาวะท่อน้ำดีตีบตันทางคลินิก ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากแก่ผู้ป่วยที่มาด้วยภาวะท่อน้ำดีตีบตันที่สงสัยมะเร็งในการวางแผนรักษาต่อในอนาคต


The Application Of Prostacyclin In Promoting Angiogenesis Of Dental Pulp Tissue In A Three Dimensional Organ Culture System, Sonntana Seang Jan 2017

The Application Of Prostacyclin In Promoting Angiogenesis Of Dental Pulp Tissue In A Three Dimensional Organ Culture System, Sonntana Seang

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Background: Dental pulp vitality can be threatened by carious or iatrogenic exposure that can lead to pulp tissue loss. The formation of a vascular network is crucial to provide a suitable environment for tissue regeneration. Thus, promoting angiogenesis is essential for successful pulpal repair in regenerative endodontics therapy. Iloprost, a prostacyclin analog, promotes vascularization in several organs such as, heart, lung, and corneal. Previously, it has been demonstrated that, iloprost induced pulpal blood flow and enhanced dentin formation in a rat mechanical pulp exposure model. However, the angiogenic effect of iloprost on the human dental pulp vasculature remains unknown. Objective: …


The Inflammatory Response Of Epithelial Cell To Corrosion Products From Recast Palladium -Silver Alloy, Verapol Singkarlsiri Jan 2017

The Inflammatory Response Of Epithelial Cell To Corrosion Products From Recast Palladium -Silver Alloy, Verapol Singkarlsiri

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

In dentistry, there is an increase in alternative metals such as palladium or silver to add into noble metal alloys in order to improve properties and reduce cost. Apart from using other metals to replace gold or platinum, reuse is another way to save the cost. There are many studies on the recast dental alloys on mechanical properties and how many percentages of new alloys needed to add in the recasting process. It has been well accepted that amount of new and used alloys would affect the mechanical and physical properties. The biocompatibility of the alloys, however, has not been …


Migration And Malaria Infection In Myanmar-Thailand Border Area Of Tanintharyi Region, Myanmar: A Case-Control Study, Soe Lin Thu Jan 2017

Migration And Malaria Infection In Myanmar-Thailand Border Area Of Tanintharyi Region, Myanmar: A Case-Control Study, Soe Lin Thu

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Nowadays, malaria did not exist as a forest-dependent disease and mainly impacted by migration, mostly to border areas. Migrant workers are distributor of Plasmodium species and their patterns of migration affected on malaria transmission. The study aimed to identify migration pattern of border migrant people and the factors associated with malaria infection in Myanmar-Thailand border area especially in Tanintharyi region, Myanmar. An unmatched case-control was conducted among 320 migrant people living in Dawei, Thayetchaung and Palaw Townships, 160 cases and 160 controls. Cases and controls were confirmed by rapid diagnostic test and data collection was done by using structure questionnaires …


Effectiveness Of Healthy E-Elderly People Intervention (Hepi) Application For Reduction Health Effects From Mobile Communication Device And Application Usages Among Elderly People In Thailand, Wachiraporn Wilaiwan Jan 2017

Effectiveness Of Healthy E-Elderly People Intervention (Hepi) Application For Reduction Health Effects From Mobile Communication Device And Application Usages Among Elderly People In Thailand, Wachiraporn Wilaiwan

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

The trend of using mobile devices amongst the elderly population is continuously increasing. This study consisted of three phases. The first phase aimed to survey the situation of mobile communication device and application usages among elderly users in Thailand through the use a questionnaire survey as well as face-to-face interviews was used for data collection. The number of the participants in first phase was 448 elderly people. The participants mostly used mobile communication devices and applications in the morning and in the evening. The information in first phase was used to develop mobile applications in this study. The second phase …


Macroscopic, Microscopic And Molecular Evaluations For The Identification Of Erythrina Species Distributed In Thailand, Kitipan Khaonim Jan 2017

Macroscopic, Microscopic And Molecular Evaluations For The Identification Of Erythrina Species Distributed In Thailand, Kitipan Khaonim

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Plants in the genus Erythrina belong to the family FABACEAE. There are six species distributed in Thailand (Erythrina fusca Lour., Erythrina stricta Roxb., Erythrina crista-galli L., Erythrina subumbrans (Hassk) Merr., Erythrina variegata L., and Erythrina indica Lam.). Due to the similarity of the morphological characters and synonym in a vernacular name, the identification of these species is ambiguous. Therefore, an accurate investigation of their identities is essential. This research aimed to distinguish six Erythrina spp. through the macroscopic, microscopic, and molecular genetic analyses. The anatomical characteristics of each species (cross section of midrib) and the constant values of leaves including …


Standardization Of Chromolaena Odorata, Kaempferia Parviflora And Zanthoxylum Piperitum, Yamon Pitakpawasutthi Jan 2017

Standardization Of Chromolaena Odorata, Kaempferia Parviflora And Zanthoxylum Piperitum, Yamon Pitakpawasutthi

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Chromolaena odorata (L.) R.M. King & H. Rob. or Sabsue is a species in family Asteraceae. In Thailand, it is locally used to treat skin diseases, diabetes, as well as insect bites. Kaempferia parviflora Wall. ex Baker or Krachai Dum belongs to Zingiberaceae family. In herbal medicine, it is generally used to promote health, to cure gastrointestinal disorder and anti-inflammation. Zanthoxylum piperitum (L.) DC., belonging to the Rutaceae family, is known in Thai name as Prig Horm. All parts of Z. piperitum are used to treat abdominal pain, vomiting and diarrhea. Chlorogenic acid, 5,7-dimethoxyflavone and xanthoxylin are the active components …


Oral Fluid Samples Used For Prrs Diagnosis And Management, Yonlayong Woonwong Jan 2017

Oral Fluid Samples Used For Prrs Diagnosis And Management, Yonlayong Woonwong

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Porcine reproductive and respiratory syndrome (PRRS) is an economically significant swine disease having a negative impact to the swine industry worldwide. Appropriate management strategies and diagnostic tests are crucial to successfully control PRRS virus (PRRSV). However, the application for oral fluid-based diagnosis has not been evaluated in the Thai farms previously. In this study, pre-extraction methods of oral fluids were evaluated to improve the PCR product yielded. Moreover, the oral fluids utilization for PRRSV monitoring during the gilt acclimatization and farrowing to nursery period was investigated. The results demonstrated that increasing sample volume might be a suitable simple method for …


ประสิทธิผลของการออกกำลังกายแบบชี่กงต่อภาวะซึมเศร้าในผู้สูงอายุไทย, เพ็ญภพ พันธุ์เสือ Jan 2017

ประสิทธิผลของการออกกำลังกายแบบชี่กงต่อภาวะซึมเศร้าในผู้สูงอายุไทย, เพ็ญภพ พันธุ์เสือ

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษาวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาวิจัยเชิงทดลองแบบสุ่มชนิดมีกลุ่มควบคุม วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการออกกำลังกายแบบชี่กงในกลุ่มผู้สูงอายุกรุงเทพมหานครที่มีภาวะซึมเศร้าในระดับเล็กน้อย และปานกลาง จำนวน 66 คน แบ่งออกเป็นกลุ่มทดลอง และกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 33 คน โดยการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) โปรแกรมออกกำลังกายแบบชี่กงเป็นครั้งละ 1 ชั่วโมง 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ติดต่อกัน 36 ครั้ง; 2) แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล แบบวัดความเศร้าในผู้สูงอายุของไทย; และ 3) แบบประเมินคุณภาพการนอนหลับฉบับภาษาไทย โดยกลุ่มทดลองได้รับโปรแกรมการออกกำลังแบบชี่กง ส่วนในกลุ่มควบคุมได้รับโปรแกรมดั้งเดิมตามปกติ คือ สวดมนต์ และร้องเพลง เริ่มดำเนินการทดลอง และเก็บรวบรวมข้อมูลในวันที่ 1 มิถุนายน 2560 ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2560 ณ ศูนย์บริการสาธารณสุข วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติความถี่ร้อยละ ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน paired t-test และ independent t-test ผลการวิจัยพบว่า ผลการออกกำลังกายแบบชี่กงส่งผลให้ระดับภาวะซึมเศร้าลดลง ในกลุ่มที่ได้รับโปรแกรมเมื่อเทียบกับก่อนได้รับการฝึก (p < .001) และเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม (p < .001) โดยผลของการออกกำลังกายแบบชี่กงต่อคุณภาพการนอนหลับพบว่า ในกลุ่มผู้สูงอายุที่ได้รับโปรแกรมชี่กง เทียบกับก่อนได้รับฝึกมี คุณภาพการนอนดีกว่าก่อนได้รับการฝึก (p < .001) และมีคุณภาพการนอนดีขึ้นเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม (p = .001) จากผลการครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าโปรแกรมการออกกำลังแบบชี่กงสามารถลดภาวะซึมเศร้าในกลุ่มผู้สูงอายุที่เริ่มมีภาวะซึมเศร้า และเพิ่มคุณภาพการนอนให้ดีขึ้น รวมถึงส่งผลทางบวกเมื่อเทียบกับกิจกรรมดั้งเดิมอีกด้วย


อาการผิดปกติที่มือและแขนจากแรงสั่นสะเทือนของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะในกรุงเทพมหานคร, มารุต ตำหนักโพธิ Jan 2017

อาการผิดปกติที่มือและแขนจากแรงสั่นสะเทือนของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะในกรุงเทพมหานคร, มารุต ตำหนักโพธิ

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษาเชิงพรรณานี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาอาการผิดปกติที่มือและแขนจากแรงสั่นสะเทือนและลักษณะอาการที่เด่นชัดในกลุ่มผู้มีอาชีพขับรถจักรยานยนต์สาธารณะในกรุงเทพมหานครจำนวน 401 คนที่ถูกเลือกมาด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามแบบตอบด้วยตนเอง ระยะเวลาการศึกษาตั้งแต่ มิถุนายน พ.ศ. 2560 ถึง กันยายน พ.ศ.2560 มีอัตราการตอบกลับร้อยละ 100 ผลการศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศชายร้อยละ 93.8 อายุเฉลี่ย 40.1 ปี (SD=11.0) น้ำหนักตัวเฉลี่ย 67.9 กิโลกรัม (SD=11.4) ค่ามัธยฐานของจำนวนผู้โดยสารต่อวัน 48.0 คน [IQR=30.0,50.0] ค่ามัธยฐานของระยะเวลาที่ประกอบอาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง 6 ปี [IQR=3.0,12.0] ร้อยละ 68.8 สวมถุงมือระหว่างการขับขี่ ผลการศึกษา พบว่า ร้อยละ 49.1 ของกลุ่มตัวอย่างพบอาการผิดปกติที่มือและแขนจากแรงสั่นสะเทือน ลักษณะอาการที่เด่นชัดมากที่สุด คือ อาการเกี่ยวกับกล้ามเนื้อบริเวณนิ้วมือ มือ แขน ข้อนิ้ว ข้อมือ ข้อศอก (ร้อยละ 26.4) รองลงมาคือ นิ้วมือ ชา เสียว ซ่า ๆ แปลบ ๆ ต่อเนื่องเกิน 20 นาที (ร้อยละ 24.2) ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับอาการ HAVs ได้แก่ สภาพถนนขรุขระมาก (ORadj=3.42, 95% CI=1.288-9.125) การสวมถุงมือ (ORadj=1.85, 95% CI=1.163-2.951) รถจักรยานยนต์เกียร์ธรรมดา (ORadj=0.62, 95% CI=0.394-0.992) อายุ (ORadj=1.02, 95% CI=1.009-1.050) และ จำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยต่อวัน (ORadj=1.01, 95% CI=1.002-1.022) กลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะในกรุงเทพมหานครแสดงลักษณะอาการของ HAVsเกือบร้อยละ 50 ดังนั้นหน่วยงานสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องควรมีแนวทางการดูแลตนเองและแนวทางการป้องกันการเกิดกลุ่มอาการ HAVsเพื่อลดความเสี่ยงต่อสุขภาพที่เกิดจาการทำงานให้กลุ่มอาชีพต่อไป


ประสิทธิผลโปรแกรมลดดัชนีมวลกายตามอายุโดยประยุกต์ใช้แบบจำลองความเชื่อด้านสุขภาพในนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นที่มีภาวะน้ำหนักเกิน, วราภรณ์ คำรศ Jan 2017

ประสิทธิผลโปรแกรมลดดัชนีมวลกายตามอายุโดยประยุกต์ใช้แบบจำลองความเชื่อด้านสุขภาพในนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นที่มีภาวะน้ำหนักเกิน, วราภรณ์ คำรศ

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ภาวะน้ำหนักเกินเป็นผลจากการมีปฏิสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างกรรมพันธุ์และสิ่งแวดล้อม แบบจำลองความเชื่อด้านสุขภาพเป็นแบบจำลองหนึ่งที่มีการนำไปใช้เพื่อแก้ปัญหาทางสุขภาพได้ผลเป็นอย่างดี แต่ยังไม่พบนำมาประยุกต์ใช้แก้ปัญหาภาวะน้ำหนักเกินของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น วัตถุประสงค์การวิจัย เพื่อศึกษาประสิทธิผลโปรแกรมลดดัชนีมวลกายตามอายุโดยประยุกต์ใช้แบบจำลองความเชื่อด้านสุขภาพในนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นที่มีภาวะน้ำหนักเกิน การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงทดลองแบบสุ่มชนิดกลุ่มมีกลุ่มควบคุม ทำการศึกษากับนักเรียนที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นปีที่ 1-2 อายุระหว่าง 12-15 ปีที่มีภาวะน้ำหนักเกิน โดยพิจารณาจากดัชนีมวลกายตามอายุ (body mass index-for-age) มีค่า ≥ median +1 SD จาก 48 ห้องเรียน (479 คน) ทำการสุ่มเลือก 24 ห้องเรียน (248 คน) เข้ากลุ่มทดลองได้รับโปรแกรมลดดัชนีมวลกายตามอายุโดยประยุกต์ใช้แบบจำลองความเชื่อด้านสุขภาพเป็นระยะเวลา 6 เดือนและกลุ่มควบคุม 24 ห้องเรียน (231 คน) ได้รับโปรแกรมสุขศึกษาทั่วไปในการเรียนการสอนปกติ จำนวน 6 เดือน แล้วเปรียบเทียบดัชนีมวลกาย ความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพเพื่อป้องกันภาวะอ้วน ระหว่างทดลองและกลุ่มควบคุม ผลการศึกษาพบว่าเมื่อวิเคราะห์แบบ Intention-to-Treat หลังเข้าร่วมโครงการวิจัยเดือนที่ 6 กลุ่มทดลองมีระดับดัชนีมวลกายเฉลี่ยลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม -2.88 กก./ม.2 (95% CI = -3.01 ถึง -2.75, p-value < 0.001) คะแนนความรอบรู้ด้านสุขภาพเฉลี่ยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม 27.79 คะแนน (95% CI = 26.98 ถึง 28.60, p-value < 0.001) และคะแนนพฤติกรรมสุขภาพโดยรวมเฉลี่ยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม 23.61 คะแนน (95% CI = 22.68 ถึง 24.54, p-value < 0.001) แบบจำลองความเชื่อด้านสุขภาพนำมาประยุกต์พัฒนาโปรแกรมเพื่อลดดัชนีมวลกายในนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นได้ผลเป็นอย่างดี แม้ว่าจะจัดโปรแกรมต่อเนื่องในระยะสั้น 6 เดือน


วิธีการเคลือบฟลูออไรด์เจลเฉพาะที่อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเป็นทางเลือกในการเคลือบด้วยถาดเคลือบ, กมลวรรณ ศรีวงษ์ชัย Jan 2017

วิธีการเคลือบฟลูออไรด์เจลเฉพาะที่อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเป็นทางเลือกในการเคลือบด้วยถาดเคลือบ, กมลวรรณ ศรีวงษ์ชัย

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อหาทางเลือกสำหรับการเคลือบฟลูออไรด์เจลเฉพาะที่ ด้วยการเปรียบเทียบวิธีการทาบนตัวฟันด้วยพู่กัน (Paint on) กับวิธีถาดเคลือบ (tray) ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยศึกษาประสิทธิภาพของปริมาณฟลูออไรด์ที่คงค้างอยู่ในน้ำลาย การวิจัยนี้เป็นการวิจัยทางคลินิกแบบไขว้ ใช้อาสาสมัครจำนวน 19 คนที่มีช่วงอายุ 12-15 ปี ทำการเก็บน้ำลายชนิดไม่กระตุ้นก่อนและหลังการเคลือบฟลูออไรด์เจล ที่ 0, 5, 10, 20, 30 และ 60 นาที ระยะพัก (washout) 7 วัน วัดความเข้มข้นของฟลูออไรด์ในน้ำลายด้วยฟลูออไรด์อิเลคโทรด ผลการวิจัยพบว่า ปริมาณฟลูออไรด์เจลที่เหมาะสมในวิธีการทาบนตัวฟัน คือ ปริมาตร 0.4 มิลลิลิตรซึ่งน้อยกว่าวิธีถาดเคลือบถึง 12.5 เท่า ผลของฟลูออไรด์ในน้ำลายและฟลูออไรด์ในช่องปากจากวิธีการทาบนตัวฟันมีปริมาณมากกว่าวิธีถาดเคลือบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (F= 113.458, p= .0001, t = 7.695, p= .0001 ตามลำดับ) อัตราการไหลของน้ำลายไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (F=.121, p=.732 และค่าครึ่งชีวิต (t half-life) ของฟลูออไรด์ในน้ำลายแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (t= 3.505, p= .003) แม้ว่าวิธีการทาจะมีค่าครึ่งชีวิตสั้นกว่าแต่ความเข้มข้นของฟลูออไรด์ในน้ำลายมีค่าสูงกว่าวิธีถาดเคลือบทุกช่วงเวลาที่วัด สรุปได้ว่าการเคลือบฟลูออไรด์เจลด้วยวิธีการทาบนตัวฟันโดยใช้พู่กัน เป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพสำหรับการเคลือบฟลูออไรด์เจลเฉพาะที่โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงในการเกิดโรคฟันผุสูงและไม่สามารถควบคุมการกลืนได้ นอกจากนี้ยังประหยัดทรัพยากร สะดวกในการบริหารจัดการ และอุปกรณ์หาได้ง่าย


บทบาทพยาบาลผู้จัดการการดูแลผู้สูงอายุระยะยาวในชุมชน, เกวลี เชียรวิชัย Jan 2017

บทบาทพยาบาลผู้จัดการการดูแลผู้สูงอายุระยะยาวในชุมชน, เกวลี เชียรวิชัย

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การวิจัยครั้งนี้เป็นงานวิจัยเชิงพรรณนา มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาโครงสร้างและองค์ประกอบย่อยบทบาทหลักแต่ละด้านของบทบาทพยาบาลผู้จัดการการดูแลผู้สูงอายุระยะยาวในชุมชน โดยใช้เทคนิคเดลฟายในการรวบรวมความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ ประกอบด้วย ผู้บริหารเชิงนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข นักวิชาการ/ผู้สอนหลักสูตร Care manager ผู้บริหารทางการพยาบาลโรงพยาบาลชุมชน/โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และผู้ปฏิบัติบทบาทพยาบาลผู้จัดการการดูแลผู้สูงอายุระยะยาวในโรงพยาบาลชุมชน/โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จำนวน 18 คน การดำเนินงานวิจัยประกอบด้วย 3 ขั้นตอน โดยขั้นตอนที่ 1 สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับบทบาทพยาบาลผู้จัดการการดูแลผู้สูงอายุระยะยาวในชุมชน ขั้นตอนที่ 2 นำข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์ในรอบที่ 1 มาวิเคราะห์เนื้อหาจัดหมวดหมู่เนื้อหาสาระในลักษณะเดียวกัน สร้างเป็นแบบสอบถามมาตราประมาณค่า 5 ระดับ ให้ผู้เชี่ยวชาญเขียนตอบระดับความสำคัญขององค์ประกอบย่อยในแต่ละข้อรายการ เพื่อนำมาคำนวณค่ามัธยฐานและค่าพิสัยระหว่างควอไทล์ ขั้นตอนที่ 3 นำข้อมูลที่ได้จากแบบสอบถามให้ผู้เชี่ยวชาญเพื่อยืนยันคำตอบ และนำข้อมูลที่ได้มาคำนวณค่ามัธยฐานและค่าพิสัยระหว่างควอไทล์เพื่อสรุปผลการวิจัย ผลการศึกษาพบว่า บทบาทพยาบาลผู้จัดการการดูแลผู้สูงอายุระยะยาวในชุมชน ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบหลัก และมีองค์ประกอบย่อยจำนวน 47 ข้อรายการ ได้แก่ 1) บทบาทผู้วางแผนการดูแล มีองค์ประกอบย่อยจำนวน 7 ข้อรายการ 2) บทบาทผู้ปฏิบัติการพยาบาล มีองค์ประกอบย่อยจำนวน 9 ข้อรายการ 3) บทบาทผู้ประสานงาน มีองค์ประกอบย่อยจำนวน 7 ข้อรายการ 4) บทบาทผู้นำ มีองค์ประกอบย่อยจำนวน 9 ข้อรายการ 5) บทบาทผู้ให้คำปรึกษา มีองค์ประกอบย่อยจำนวน 9 ข้อรายการ และ 6) บทบาทผู้พิทักษ์สิทธิ์ มีองค์ประกอบย่อยจำนวน 6 ข้อรายการ โดยพบว่าทั้ง 6 องค์ประกอบหลัก มีทุกองค์ประกอบย่อยจำนวน 47 ข้อรายการ มีความสำคัญอยู่ในระดับมากที่สุด


Histopathologic Difference Between Sinonasal Mucosa And Polyp Tissue For Diagnosing Eosinophilic Chronic Rhinosinusitis, Wanrawee Thaitrakool Jan 2017

Histopathologic Difference Between Sinonasal Mucosa And Polyp Tissue For Diagnosing Eosinophilic Chronic Rhinosinusitis, Wanrawee Thaitrakool

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

This study aims to assess the appropriate site for diagnosing eosinophilic chronic rhinosinusitis (ECRS) by histopathology. Patients with chronic rhinosinusitis with polyps (CRSwNP) were enrolled. Specimens were collected from polyp apex, polyp pedicle, polyp scraping and ethmoid mucosa. Number of tissue eosinophil of the four samples was assessed with intrapersonal comparison for diagnosing ECRS. Correlations with clinical characteristics of ECRS were assessed for each site. Results showed that thirty patients with CRSwNP were enrolled. Polyp apex, polyp pedicle and ethmoid mucosa gave similar results for diagnosing ECRS in 16 patients (53.3%). Median tissue eosinophil was greater in polyp apex (84, …


Application Of Radio Frequency Identification (Rfid) Technology For Tracking The Manufacture Of Narcotic Drugs And Psychotropic Substances: A Case Study Of Phenobarbital Tablets Production, Jesdaporn Rachivong Jan 2017

Application Of Radio Frequency Identification (Rfid) Technology For Tracking The Manufacture Of Narcotic Drugs And Psychotropic Substances: A Case Study Of Phenobarbital Tablets Production, Jesdaporn Rachivong

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

This study applied RFID tracking of the manufacturing process and tracing back of product for preventing API loss with phenobarbital tablets as a case study. GPO has produced narcotic drugs, and psychotropic substances complied with GMP, Narcotics Act, and Psychotropic Substances Act. It included designing RFID implementation, determining user requirement and functional specification, selecting suitable devices, evaluating significant parameters and verifying the designed system. The verified software was continuously tested in stages of site testing and was assessed the risk with FMEA tool, user's satisfaction and the impact on the manufacturing process. The risk priority class of a plant which …


ปัจจัยทำนายการมาตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกของแม่บ้านตำรวจในเขตกรุงเทพมหานคร, พรพิมล โสฬสกุลางกูร Jan 2017

ปัจจัยทำนายการมาตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกของแม่บ้านตำรวจในเขตกรุงเทพมหานคร, พรพิมล โสฬสกุลางกูร

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การวิจัยนี้เป็นการวิจัยแบบบรรยายเชิงทำนาย เพื่อศึกษาอัตราการมาตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก และปัจจัยทำนายการมาตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกของแม่บ้านตำรวจในเขตกรุงเทพมหานคร กลุ่มตัวอย่าง คือ แม่บ้านตำรวจที่สามีทำงานสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวนทั้งสิ้น 366 คน คัดเลือกโดยการสุ่มแบบหลายขั้นตอน จากภรรยาข้าราชการตำรวจกองทะเบียนประวัติอาชญากร กองพิสูจน์หลักฐาน กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 สถาบันนิติเวชวิทยา และ กองบังคับการอำนวยการ โรงพยาบาลตำรวจ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วยแบบสอบถาม 7 ส่วน ได้แก่ 1) แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล 2) แบบสอบถามความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งปากมดลูก 3) แบบสอบถามเจตคติต่อการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก 4) แบบสอบถามการสนับสนุนทางสังคม 5) แบบสอบถามการรับรู้โอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรค 6) แบบสอบถามการรับรู้พฤติกรรมเสี่ยงของสามี และ 7) แบบสอบถามการมาตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ซึ่งผ่านการตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหาจากผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 5 คน มีค่าความตรงตามเนื้อหาเท่ากับ .87, 1.00, .85, 1.00 และ 1.00 ตามลำดับ ค่าสัมประสิทธิ์แอลฟ่าของครอนบาคเท่ากับ .85, .89, .73 และ .81 ตามลำดับ แบบสอบถามความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งปากมดลูกมีค่า KR-20 เท่ากับ 0.85 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์ถดถอยแบบไบนารี่โลจิสติก ผลการศึกษา พบว่า 1) แม่บ้านตำรวจมีอัตราการมาตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกคิดเป็น ร้อยละ 45.6 2) ปัจจัยทำนายการมาตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกของแม่บ้านตำรวจประกอบด้วย 4 ปัจจัยคือ เจตคติต่อการตรวจคัดกรอง (OR=3.92) การสนับสนุนทางสังคม (OR=3.49) และความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งปากมดลูก (OR=2.33) และการรับรู้พฤติกรรมเสี่ยงของสามี (OR=.524) โดยสามารถทำนายการมาตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกได้ร้อยละ 22 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 สำหรับปัจจัยด้านอายุ การคุมกำเนิด และการรับรู้โอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรค ไม่สามารถทำนายการมาตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกของแม่บ้านตำรวจได้


ปัจจัยทำนายภาวะซึมเศร้าในผู้ป่วยภายหลังการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน, วรันธร พรมสนธิ์ Jan 2017

ปัจจัยทำนายภาวะซึมเศร้าในผู้ป่วยภายหลังการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน, วรันธร พรมสนธิ์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาความสัมพันธ์เชิงทำนาย เพื่อศึกษาปัจจัยทำนายภาวะซึมเศร้าในผู้ป่วยภายหลังการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันที่มารับบริการที่แผนกตรวจโรคผู้ป่วยนอก ระบบโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลระดับตติยภูมิ เขตกรุงเทพมหานคร จำนวนทั้งสิ้น 202 คน คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างด้วยวิธีการสุ่มแบบเจาะจง เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามสำหรับผู้ป่วยกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน 5 ส่วน คือ 1) แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล 2) แบบสอบถามความกลัว 3) แบบสอบถามการสนับสนุนทางสังคม 4) แบบสอบถามความรู้สึกไม่แน่นอนในความเจ็บป่วย และ 5) แบบสอบถามภาวะซึมเศร้า ผ่านการตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาโดยผู้ทรงคุณวุฒิ 5 คน มีค่าความตรงเชิงเนื้อหาเท่ากับ .83, 1.0, .86, และ .92 ตามลำดับ และผ่านการตรวจสอบความเที่ยงของเครื่องมือ มีค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาครอนบาคเท่ากับ .89, .84, .85, และ .81 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยคำนวณสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์พหุคูณ ผลการศึกษาพบว่า 1. กลุ่มตัวอย่างผู้ป่วยภายหลังการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน มีภาวะซึมเศร้าระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง คิดเป็นร้อยละ 45.5 มีภาวะซึมเศร้าระดับรุนแรง คิดเป็นร้อยละ 13.4 และมีภาวะซึมเศร้าโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง คือ มีคะแนนภาวะซึมเศร้าเฉลี่ยเท่ากับ 90.79 (SD = 18.89) 2. ปัจจัยทำนายภาวะซึมเศร้าในผู้ป่วยภายหลังการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ประกอบด้วย 2 ตัวแปรได้แก่ ความกลัว (Beta = .617) และการสนับสนุนทางสังคม (Beta = -.294) สามารถร่วมกันทำนายภาวะซึมเศร้าในผู้ป่วยภายหลังการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันได้ คิดเป็นร้อยละ 73.3 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 สำหรับตัวแปรระดับการศึกษาและความรู้สึกไม่แน่นอนในความเจ็บป่วยไม่สามารถร่วมกันทำนายภาวะซึมเศร้าในผู้ป่วยภายหลังการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันได้