Open Access. Powered by Scholars. Published by Universities.®

Law Commons

Open Access. Powered by Scholars. Published by Universities.®

Banking and Finance Law

PDF

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Theses/Dissertations

2020

Articles 1 - 30 of 42

Full-Text Articles in Law

การนำความตกลงความร่วมมือระหว่างประเทศในการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางภาษีอากรมาเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บภาษี กรณีเงินได้จากการลงทุนในตลาดทุน, สิริกาญจน์ ดอกกลาง Jan 2020

การนำความตกลงความร่วมมือระหว่างประเทศในการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางภาษีอากรมาเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บภาษี กรณีเงินได้จากการลงทุนในตลาดทุน, สิริกาญจน์ ดอกกลาง

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

เอกัตศึกษาฉบับนี้มุ่งเน้นศึกษาในเรื่องความตกลงร่วมมือระหว่างประเทศในการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางภาษีอากร โดยศึกษาถึงที่มาและหลักการความร่วมมือระหว่างประเทศ กฎหมายภายในของประเทศไทย ตลอดจนผลิตภัณฑ์ทางการเงินและภาษีเงินได้ของนักลงทุนในตลาดทุนไทย เพื่อนํามาปรับใช้กับการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากรไทยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึง เสนอแนวทางแก้ไขปรับปรุงกฎหมายภายในของประเทศไทยที่ไม่สอดคล้องกับความร่วมมือระหว่างประเทศการเข้าถึงข้อมูลทางภาษีของนักลงทุนของกรมสรรพากรไทยอาจมีข้อจํากัดในด้านอํานาจและขอบเขต ดังนั้น หากมีการนําส่งข้อมูลของนักลงทุนจากสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจตัวกลางในตลาดทุนให้แก่กรมสรรพากรไทย ประกอบกับการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางภาษีอากรระหว่างประเทศผ่านพันธกรณีความร่วมมือระหว่างประเทศ จะส่งผลให้กรมสรรพากรไทยสามารถจัดเก็บข้อมูลทางภาษีได้อย่างครบถ้วน จากการศึกษา พบว่า OECD มีรูปแบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลทั้งหมด 3 ประเภท และมีกรอบความร่วมในการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางภาษีที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือ Global Forum on Transparency and Exchange of Information for Tax Purposes (Global Forum) ซึ่งการแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบอัตโนมัติโดยชุดข้อมูล Common Reporting Standard (CRS) จะมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลทางการเงินของนักลงทุนที่สถาบันทางการเงินเป็นผู้นําส่ง ดังนั้น เมื่อประเทศไทยได้เข้าร่วมในกรอบความร่วมมือดังกล่าว จะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานที่ Global Forum ได้กําหนดไว้และด้วยเหตุนี้เองประเทศไทยต้องแก้ไขปรับปรุงข้อบทในประมวลรัษฎากร เพื่อให้สามารถแลกเปลี่ยนขอมูลทางภาษีระหว่างประเทศได้ตามมาตรฐานและครอบคลุมทุกรูปแบบ


ข้อพิจารณาตามหลักการประมวลผลข้อมูลเท่าที่จำเป็น (Data Minimization) ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล (Personally Identifiable Information) ของกรมสรรพากร, นิสากร ทองประเสริฐ Jan 2020

ข้อพิจารณาตามหลักการประมวลผลข้อมูลเท่าที่จำเป็น (Data Minimization) ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล (Personally Identifiable Information) ของกรมสรรพากร, นิสากร ทองประเสริฐ

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

แบบแสดงรายการภาษีของกรมสรรพากรมีลักษณะใช้ร่วมกันสําหรับเงินได้พึงประเมินทุกประเภท ส่งผลให้กรมสรรพากรจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้มีเงินได้หลายรายการ ซึ่งทําให้มีประเด็นปัญหาว่า การจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของกรมสรรพากรเป็นไปตามหลักการประมวลผลข้อมูลเท่าที่จําเป็นแห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือไม่ ด้วยเหตุนี้ผู้วิจัยจึงศึกษารายการข้อมูลส่วนบุคคลในแบบแสดงรายการภาษีของกรมสรรพากรโดยพิจารณาตามหลักการประมวลผลข้อมูลเท่าที่จําเป็นในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของกรมสรรพากร โดยการเทียบเคียงแบบแสดงรายการภาษีของต่างประเทศ พบว่าแบบแสดงรายการภาษีของประเทศไทยมีลักษณะการใช้ร่วมกันสําหรับทุกประเภทเงินได้ การจัดเก็บข้อมูลจึงไม่มีความเฉพาะเจาะจงสําหรับเงินได้แต่ละประเภท มีการจัดเก็บข้อมูลบางรายการซ้ำากันหลายครั้งทำให้การจัดเก็บข้อมูลเกิดความซ้ําซ้อน และมีการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลมากเกินความจําเป็นเนื่องจากข้อมูลบางรายการที่ไม่มีความเกี่ยวข้องต่อการใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดเก็บภาษีจึงเห็นว่าการปรับเปลี่ยนแบบแสดงรายการภาษีโดยการแยกออกตามประเภทของเงินได้พึงประเมิน เพื่อให้การจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลมีความเฉพาะเจาะจง และจัดเก็บข้อมูลเป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการจัดเก็บภาษีจากเงินได้แต่ละประเภท ส่งผลให้ข้อมูลที่จัดเก็บนั้นไม่ซ้ำซ้อนและไม่มากเกินกว่าความจําเป็นตามหลักการประมวลผลข้อมูลเท่าที่จําเป็น


ปัญหาเกี่ยวกับมาตรการในการดำเนินการกับของกลางที่เป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560, ศจิกา ว่องวัฒนธรรม Jan 2020

ปัญหาเกี่ยวกับมาตรการในการดำเนินการกับของกลางที่เป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560, ศจิกา ว่องวัฒนธรรม

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

เอกัตศึกษาฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา วิเคราะห์ ถึงปัญหาเกี่ยวกับมาตรการในการดําเนินการกับของกลางที่เป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์เนื่องจากการต้องปฏิบัติตามมาตรการตามกฎหมายศุลกากรที่บังคับใช้เกี่ยวกับของกลางที่เป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งไม่สามารถผลักดันขยะอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ส่งคืนไปยังประเทศต้นทางได้ ก่อให้เกิดภาระการบริหารจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งเจตนารมณ์ที่แท้จริงของกฎหมายมุ่งเอาผิดผู้กระทําความผิดเพื่อปราบปรามและสกัดกั้นการนําเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ แต่เมื่อนํามาตรการที่ใช้บังคับกับของกลางมาใช้กับขยะอิเล็กทรอนิกส์แล้วนั้นกลับมีความไม่ตรงตามเจตนารมณ์ในการสกัดกั้นการนําเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว โดยกฎหมายศุลกากรตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ได้มีการบัญญัติหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการดําเนินการกับของตกค้าง ของผ่านแดน และของถ่ายลําไว้เหมาะสมแล้วแต่ยังไม่มีวิธีดําเนินการที่เหมาะสมกับขยะอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งเป็นของกลาง ในความผิดฐานลักลอบหนีศุลกากร ตามมาตรา 242 ฐานหลีกเลี่ยงข้อห้ามหรือข้อจํากัด ตามมาตรา 244 และฐานหลีกเลี่ยงข้อห้ามหรือข้อจํากัดประกอบฐานสําแดงเท็จ ตามมาตรา 244 ประกอบมาตรา 202 แล้วแต่กรณี ผู้เขียนจึงมุ่งทําการศึกษาวิจัยเพื่อเสนอแนะแนวทางปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้เกิดความเหมาะสมและทําให้การบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพ


แนวทางการออกมาตรการทางภาษีเพื่อส่งเสริมการผลิตพลังงานไฟฟ้าของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์, ยุพเรศ มีความดี Jan 2020

แนวทางการออกมาตรการทางภาษีเพื่อส่งเสริมการผลิตพลังงานไฟฟ้าของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์, ยุพเรศ มีความดี

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

No abstract provided.


ปัญหาการชำระเงินเพิ่มจากการไม่เสียอากรหรือการเสียอากรไม่ครบถ้วนที่เกิดขึ้นก่อนการใช้บังคับพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560, พาทิศ เกษมคุณ Jan 2020

ปัญหาการชำระเงินเพิ่มจากการไม่เสียอากรหรือการเสียอากรไม่ครบถ้วนที่เกิดขึ้นก่อนการใช้บังคับพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560, พาทิศ เกษมคุณ

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

บทบัญญัติว่าด้วยการชําระเงินเพิ่มจากการไม่เสียอากรหรือการเสียอากรไม่ครบถ้วนของพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 มีความเปลี่ยนแปลงไปเมื่อเปรียบเทียบกับพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 โดยพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ได้กําหนดให้ผู้นําของเข้าหรือผู้ส่งของออกจะต้องชําระเงินเพิ่มจากกรณีดังกล่าวในอัตราร้อยละ 1 ต่อเดือนของอากรที่ต้องเสียหรือเสียเพิ่มแต่เงินเพิ่มดังกล่าวจะต้องไม่เกินอากรที่ต้องเสียหรือเสียเพิ่ม ในขณะที่พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 ไม่ได้กําหนดให้เงินเพิ่มดังกล่าวจะต้องไม่เกินอากรที่ต้องเสียหรือเสียเพิ่มแต่อย่างใด ผู้ศึกษาวิจัยพบว่ามีแนวคําพิพากษาของศาลที่ได้ตัดสินให้ผู้นําของเข้าต้องชําระเงินเพิ่มจากการเสียอากรขาเข้าไม่ครบถ้วนที่ได้เกิดขึ้นก่อนการใช้บังคับพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 แต่เงินเพิ่มดังกล่าวจะต้องไม่เกินอากรขาเข้าที่ต้องเสียเพิ่มตามบทบัญญัติของกฎหมายฉบับดังกล่าว ซึ่งจากการศึกษาบรรดาหลักกฎหมายภาษีอากรที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นหลักการใช้บังคับของกฎหมายภาษีอากรในแง่ของเวลา หลักกฎหมายภาษีอากรไม่มีผลย้อนหลัง และหลักกฎหมายอาญาย้อนหลังเป็นคุณได้ ผู้ศึกษาวิจัยเห็นว่าแนวคําพิพากษาของศาลดังกล่าวไม่สอดคล้องกับบรรดาหลักกฎหมายภาษีอากรที่เกี่ยวข้องดังกล่าว และแนวคําพิพากษาของศาลดังกล่าวย่อมส่งผลกระทบอย่างมีนัยสําคัญต่อรัฐและผู้มีหน้าที่เสียอากร ผู้ศึกษาวิจัยจึงเห็นสมควรเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการเสนอให้ศาลตัดสินคดีที่เกี่ยวข้องกับปัญหาดังกล่าวให้สอดคล้องกับบรรดาหลักกฎหมายภาษีอากรที่เกี่ยวข้องดังกล่าว และแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายฉบับดังกล่าวให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับหลักความแน่นอนของหลักการจัดเก็บภาษีอากรที่ดีของอดัม สมิธ (Adam Smith)


ปัญหาการตีความนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กัน ตามมาตรา 71 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร, กัญจนภัคยฐ์ นวลมณี Jan 2020

ปัญหาการตีความนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กัน ตามมาตรา 71 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร, กัญจนภัคยฐ์ นวลมณี

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

No abstract provided.


ปัญหาการนำหนังสือตอบข้อหารือภาษีอากรแบบกลุ่ม (Class Ruling) มาปรับใช้กับการเก็บภาษีฝ่ายสรรพากร, อัษฎาวุธ ไกรสิทธิ์ Jan 2020

ปัญหาการนำหนังสือตอบข้อหารือภาษีอากรแบบกลุ่ม (Class Ruling) มาปรับใช้กับการเก็บภาษีฝ่ายสรรพากร, อัษฎาวุธ ไกรสิทธิ์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

เอกัตศึกษาฉบับนี้จัดทําขึ้นเพื่อมุ่งศึกษาเกี่ยวกับการนําหนังสือตอบข้อหารือภาษีอากรแบบกลุ่ม(Class Rulings) ในกรณีที่มีกลุ่มผู้เสียภาษีเดียวกันเช่น กลุ่มผู้ถือหุ้นของบริษัท กลุ่มนายจ้างหรือกลุ่มลูกจ้างในธุรกิจเครือ เดียวกันที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกรรมทางภาษีเดียวกัน มีข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายภาษีอากรแบบเดียวกัน ซึ่งใน ปัจจุบันฝ่ายสรรพากรไทยยังไม่มีการนําหนังสือตอบข้อหารือภาษีอากรแบบกลุ่ม(Class Rulings) มาปรับใช้กับการ ให้คําแนะนําทางกฎหมายโดยการตอบหนังสือข้อหารือภาษีอากรทําให้ผู้เสียภาษีไม่สามารถรวมตัวกันเพื่อขอ หนังสือตอบข้อหารือภาษีอากรไปในคราวเดียวกันได้ อีกทั้งปัจจุบันหนังสือตอบข้อหารือภาษีอากรมีสถานะเป็น เพียงการให้บริการแก่ประชาชนหรือการให้ความเห็นในทางกฎหมายเท่านั้นไม่มีผลบังคับผูกพันฝ่ายสรรพากรและ ผู้เสียภาษีส่งผลกระทบแก่ผู้เสียภาษีที่เชื่อโดยสุจริตและได้ปฏิบัติตามหนังสือตอบข้อหารือภาษีอากรนั้น ดังนั้นผู้ศึกษาจึงได้ศึกษาแนวความคิดและหลักเกณฑ์หนังสือตอบข้อหารือภาษีอากรแบบกลุ่ม(Class Rulings) ของฝ่ายสรรพากรออสเตรเลียเพื่อหารูปแบบและแนวทางที่เหมาะสมในการนําหนังสือตอบข้อหารือภาษี อากรแบบกลุ่ม(Class Rulings) มาปรับใช้กับการเก็บภาษีฝ่ายสรรพากร ผู้เขียนมีความเห็นว่าฝ่ายสรรพากรไทยสมควรนําระบบหนังสือตอบข้อหารือภาษีอากรแบบกลุ่ม (Class Rulings) ของฝ่ายสรรพากรออสเตรเลียมาปรับใช้สำหรับการให้คำในเรื่องการส่งเสริมการส่งออกแนะนําทางกฎหมายโดยการตอบหนังสือข้อหารือภาษีอากรในกรณีที่มีกลุ่มผู้เสียภาษีเดียวกัน มีความเกี่ยวข้องกับธุรกรรมทางภาษีเดียวกัน มีข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายภาษีอากรแบบเดียวกันเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาการขัดแย้งกันของหนังสือตอบข้อหารือภาษีอากรและแก้ไขปัญหาสถานะทางกฎหมายของหนังสือตอบข้อหารือภาษีอากรที่ไม่มีผลบังคับผูกพันฝ่ายสรรพากรและผู้เสียภาษีเพื่อให้เป็นประโยชน์ในการบริหารจัดเก็บภาษีอากรและเพื่อให้สอดคล้องกับการคุ้มครองสิทธิของผู้เสียภาษีต่อไป


ปัญหาของกระบวนการในการบังคับหลักประกันทางธุรกิจ, ชนาธิป ลิ้มขจรเดช Jan 2020

ปัญหาของกระบวนการในการบังคับหลักประกันทางธุรกิจ, ชนาธิป ลิ้มขจรเดช

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

วิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ในการศึกษาปัญหาของกระบวนการในการบังคับหลักประกันทางธุรกิจตามพระราชบัญญัติหลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ. 2558 ซึ่งกระบวนการในการบังคับหลักประกันทางธุรกิจยังมีความไม่ ชัดเจนในบางเรื่อง บางเรื่องกฎหมายมิได้กำหนดไว้ ทำให้เกิดปัญหาในการปรับใช้และตีความเกี่ยวกับกระบวนการ ในการบังคับหลักประกัน เอกัตศึกษานี้ทำการศึกษาโดยการสัมภาษณ์ เก็บรวบรวมข้อมูลถึงสภาพปัญหาของกระบวนการบังคับ หลักประกันทางธุรกิจ โดยศึกษาค้นคว้ารวบรวมข้อมูลจากกฎหมายที่เกี่ยวข้อง บทความและหนังสือต่างๆ ซึ่ง นำมาวิเคราะห์กับหลักกฎหมาย Uniform Commercial Code ของประเทศสหรัฐอเมริกาและหลัก Floating Charge ของประเทศอังกฤษ วิจัยนี้พบว่ามีปัญหาในการบังคับหลักประกันทางธุรกิจในเรื่องการใช้สิทธิของผู้รับหลักประกันในการ บังคับหลักประกันทางธุรกิจ ขั้นตอนการบังคับหลักประกัน การใช้สิทธิทางศาลเกี่ยวกับการขอบังคับหลักประกัน และการขอเปลี่ยนแปลงข้อมูลทางทะเบียนกับหน่วยงานของรัฐ ทำให้ผู้รับหลักประกันบังคับหลักประกันได้ช้าลง ซึ่งไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการบัญญัติกฎหมายฉบับนี้ เอกัตศึกษานี้ได้เสนอแนวทางการปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติหลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ. 2558 โดย การตัดเงื่อนไขในการบังคับหลักประกันออกบางส่วน เพื่อให้ผู้รับหลักประกันมีสิทธิในการบังคับหลักประกันได้ อย่างมีประสิทธิภาพ และกำหนดขั้นตอนในการบังคับหลักประกันไว้เป็นการเฉพาะ โดยไม่ต้องอาศัยการตีความ จากบทบัญญัติกฎหมายฉบับอื่น และกำหนดอำนาจในการใช้สิทธิทางศาลเพิ่มเติม เพื่อลดโอกาสในการยักย้าย ถ่ายเททรัพย์สิน และกำหนดเอกสารให้มีรูปแบบมาตรฐานและขั้นตอนในการติดต่อกับหน่วยงานของรัฐให้ชัดเจน ยิ่งขึ้น


ปัญหาของมาตรการบังคับเพื่อการจัดเก็บภาษีตามพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562, พรรษา ณะบุตรจอม Jan 2020

ปัญหาของมาตรการบังคับเพื่อการจัดเก็บภาษีตามพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562, พรรษา ณะบุตรจอม

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

No abstract provided.


ปัญหาความสัมฤทธิ์ผลในทางปฏิบัติของพระราชบัญญัติสถาบันการเงิน ประชาชน พ.ศ. 2562, ฐตรัชต์ อินทรสุขศรี Jan 2020

ปัญหาความสัมฤทธิ์ผลในทางปฏิบัติของพระราชบัญญัติสถาบันการเงิน ประชาชน พ.ศ. 2562, ฐตรัชต์ อินทรสุขศรี

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

พระราชบัญญัติสถาบันการเงินประชาชน พ.ศ.2562 เป็นกฎหมายฉบับใหม่ที่พึ่งออกมาได้ไม่นาน โดยมี เจตนารมณ์เพื่อจะช่วยแก้ปัญหาให้แก่ประชาชนในระดับฐานรากที่มีปัญหาในการเข้าถึงบริการทางการเงินที่มี ประสิทธิภาพและเป็นธรรม อีกทั้งช่วยแก้ปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำโดยเฉพาะในเรื่องการเข้าถึง บริการทางการเงินที่มีคุณภาพของประชาชนระดับฐานราก และเป็นการเพิ่มทางเลือกการให้บริการทางการเงิน ระดับชุมชนประเภทใหม่ รวมถึงเป็นการวางกรอบนโยบายที่ชัดเจนให้แก่หน่วยงานรัฐเพื่อทำการช่วยเหลือส่งเสริม ให้สถาบันการเงินประชาชนตามพระราชบัญญัตินี้ให้เข้มแข็ง เช่น การมีธนาคารรัฐเป็นผู้ประสานงานดูแลให้ คำแนะนำ ที่สำคัญคือ สถาบันการเงินประชาชนนี้จะไม่เป็นภาระต่องบประมาณแผ่นดิน กล่าวคือ ไม่มีการใช้เงิน อุดหนุนจากภาครัฐเป็นทุนในการดำเนินงาน ทุนทั้งหมดเป็นของประชาชนในการดำเนินงานของสถาบันการเงิน ประชาชน ซึ่งเงินเหล่านั้นอาจได้มาจากส่วนลงหุ้น หรือ เงินฝาก โดยสถาบันการเงินประชาชนนี้เป็นระบบการเข้า เป็นสมาชิกและจัดตั้งสถาบันแบบสมัครใจ เพื่อทำให้องค์กรทางการเงินชุมชนที่มีอยู่แล้วแต่เดิม ไม่ว่าจะเป็นนิติ บุคคลหรือไม่ก็ตาม ได้มีโอกาสยื่นขอแปลงสภาพให้มีความเป็นทางการและได้รับการคุ้มครองที่แน่นอน งานวิจัยฉบับนี้เน้นการศึกษาตัวบทและเจตนารมณ์เบื้องหลังกฎหมายของพระราชบัญญัติสถาบันการเงิน ประชาชน พ.ศ.2562 และ ทางปฏิบัติในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าว ศึกษาสภาพสังคมของผู้ที่ไม่มี โอกาสเข้าถึงบริการทางการเงิน และ ผู้มีรายได้น้อยในประเทศไทยเป็นหลัก รวมถึงศึกษากฎเกณฑ์ ทฤษฎีที่ เกี่ยวข้องทั้งในประเทศและต่างประเทศประกอบ ซึ่งภายหลังการศึกษากลับพบว่ากฎหมายฉบับนี้ยังไม่อาจใช้ บังคับได้ผลในทางปฏิบัติอย่างที่ควรจะเป็น เนื่องจากมีอุปสรรคในเรื่องของ ความทับซ้อนของกฎหมาย กฎหมาย ขาดสิทธิประโยชน์และแรงจูงใจในการให้องค์การเงินชุมชนยกระดับเป็นสถาบันการเงินประชาชน เงื่อนไขในการยกระดับจัดตั้งเป็นสถาบันการเงินประชาชนตามกฎหมายนั้นเข้มงวดเกินไปไม่สอดคล้องกับสภาพสังคมของ กลุ่มเป้าหมาย และ มีกลุ่มเป้าหมายบางส่วนยังไม่ทราบความมีอยู่ของกฎหมาย งานวิจัยฉบับนี้จึงเสนอให้มีการพิจารณาแก้ไขหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ตามกฎหมายให้สอดคล้องกับสภาพสังคม ตามความเป็นจริงเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย แต่ต้องกระทำอย่างระมัดระวัง รวมถึงให้รัฐ ประชาสัมพันธ์กฎหมายให้แพร่หลาย และ พยายามหาสิทธิประโยชน์ในการจูงใจให้องค์กรการเงินชุมชนยกระดับ ขึ้นเป็นสถาบันการเงินประชาชน เพราะเมื่อเกิดมีสถาบันการเงินประชาชนเกิดขึ้นได้มากตามเป้าหมายย่อมเป็น ประโยชน์ต่อสังคมในวงกว้าง


ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการจัดเก็บและประเมินภาษีอากรของหน่วยงานจัดเก็บภาษีที่ไม่สอดคล้องกับคำพิพากษาของศาลภาษีอากร : ศึกษากรณีการประเมินเงินเพิ่มตามมาตรา 67 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร, ธันวาเทพ กานต์สมเกียรติ Jan 2020

ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการจัดเก็บและประเมินภาษีอากรของหน่วยงานจัดเก็บภาษีที่ไม่สอดคล้องกับคำพิพากษาของศาลภาษีอากร : ศึกษากรณีการประเมินเงินเพิ่มตามมาตรา 67 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร, ธันวาเทพ กานต์สมเกียรติ

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การจัดเก็บเงินเพิ่มภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 67 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร กฎหมายไม่ได้กำหนดบทบัญญัติไว้อย่างชัดเจนถึงวิธีการคำนวณภาษีที่ต้องชำระในกรณีเกี่ยวกับภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายทำให้เกิดวิธีการคำนวณหลายแนวทางจากการตีความกฎหมายของหน่วยงานที่มีหน้าที่จัดเก็บภาษีตามประมวลรัษฎากร คือ กรมสรรพากร คำนวณโดยไม่คำนึงถึงภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย และจากองค์กรที่มีอำนาจหน้าที่วินิจฉัยชี้ขาดตัดสินข้อพิพาททางภาษีอากร คือ ศาลภาษีอากร ตีความในทางตรงกันข้าม จากการคำนวณที่แตกต่างกันนี้ส่งผลให้ได้ผลลัพธ์จำนวนภาษีที่ต้องช าระหลายจำนวนแตกต่างกันและเกิดการดำเนินการจัดเก็บและประเมินภาษีอากรของกรมสรรพากรโดยอาศัยความไม่ชัดเจนของกฎหมายอย่างไม่สอดคล้องกับคำพิพากษาของศาล ความไม่ชัดเจนของบทบัญญัติกฎหมายเป็นสาเหตุก่อให้เกิดปัญหาและผลกระทบต่อผู้เสียภาษีให้ไม่สามารถปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง ตลอดจนสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้เสียภาษีขาดสิทธิเรียกร้องต่อฝ่ายปกครองจากการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายในการใช้สิทธิทางศาล ประสบภาระเกี่ยวกับการอุทธรณ์การประเมินภาษีอากรและการลิดรอนสิทธิในทรัพย์สินจากเงินที่ต้องชำระตามการประเมินหรือการทุเลาการเสียภาษีอากร จากการศึกษาพบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นสามารถได้รับการแก้ไขอย่างเหมาะสมด้วยการกำหนดบทบัญญัติกฎหมายให้เกิดความชัดเจนตามแนวทางคำพิพากษาของศาลภาษีอากร


พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 : ศึกษากรณีการฟอกเงินโดยใช้เงินเสมือนในการพนันออนไลน์, วีรภัทร พัฒนะโชติกุล Jan 2020

พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 : ศึกษากรณีการฟอกเงินโดยใช้เงินเสมือนในการพนันออนไลน์, วีรภัทร พัฒนะโชติกุล

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

เอกัตศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและวิเคราะห์ถึงปัญหาและผลกระทบจากปัญหาช่องว่างของกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในประเทศไทยกรณีการฟอกเงินโดยใช้เงินเสมือนในการพนันออนไลน์ การกำหนดความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ และแนวทางเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วยการศึกษากับแนวทางสากล รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับของสหรัฐอเมริกาและสิงคโปร์ จากการศึกษาพบว่ามีกฎหมายที่เกี่ยวข้องอยู่สามฉบับ คือ พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินพระราชบัญญัติการพนัน และ พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล อย่างไรก็ดีบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวมิได้บัญญัติมาตรการในการป้องกันและปราบปรามเงินเสมือนจากการกระทำผิดฐานฟอกเงินในธุรกิจการพนันออนไลน์ ทำให้เกิดช่องว่างทางกฎหมายส่งผลให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินไม่สามารถดำเนินการป้องกันและยึดอายัดเงินเสมือนได้ นอกจากนี้ยังไม่ได้กำหนดคำนิยามของ "การพนันออนไลน์" ไว้ชัดเจนอันเป็นองค์ประกอบสำคัญของความผิดมูลฐาน ทำให้ขัดต่อหลักการตีความโดยเคร่งครัดตามหลักกฎหมายอาญาและส่งผลให้เกิดการตีความเกินเจตนารมณ์ของกฎหมาย ดังนั้นผู้เขียนจึงได้เสนอให้มีการออกกฏกระทรวงตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินกำหนดมาตรการในการป้องกันและปราบปรามเงินเสมือนในการกระทำความผิดฐานฟอกเงินในธุรกิจการพนันออนไลน์และกำหนดนิยามของ "การพนันออนไลน์" ไว้ในพระราชบัญญัติการพนันโดยนำแนวทางสากลและกฎหมายพนันออนไลน์ของสหรัฐอเมริกาและสิงคโปร์ที่เกี่ยวข้องมาปรับใช้เพื่อขจัดปัญหาช่องว่างทางกฎหมาย เพื่อให้การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินโดยใช้เงินเสมือนในการพนันออนไลน์มีประสิทธิภาพ


ราคาประเมินโอนหุ้นเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล : ศึกษากรณีซื้อขายหุ้นนอกตลาดหลักทรัพย์, พหล คันธคามชิต Jan 2020

ราคาประเมินโอนหุ้นเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล : ศึกษากรณีซื้อขายหุ้นนอกตลาดหลักทรัพย์, พหล คันธคามชิต

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

No abstract provided.


แนวทางการกำหนดภาระภาษีของการส่งตัวพนักงานต่างชาติเข้ามาทำงานให้กับบริษัทในเครือในประเทศไทย, ดวงแข กสิผล Jan 2020

แนวทางการกำหนดภาระภาษีของการส่งตัวพนักงานต่างชาติเข้ามาทำงานให้กับบริษัทในเครือในประเทศไทย, ดวงแข กสิผล

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

No abstract provided.


แนวทางการพัฒนามาตรการทางภาษีอากรเพื่อส่งเสริมการลงทุนในประเทศไทย : ศึกษากรณีมาตรการเพื่อส่งเสริมศูนย์กลางทางธุรกิจระหว่างประเทศและ มาตรการขจัดภาษีซ้อนในเงินปันผลที่ได้จากการลงทุนในต่างประเทศ, ณัฐกนก บุญยประภา Jan 2020

แนวทางการพัฒนามาตรการทางภาษีอากรเพื่อส่งเสริมการลงทุนในประเทศไทย : ศึกษากรณีมาตรการเพื่อส่งเสริมศูนย์กลางทางธุรกิจระหว่างประเทศและ มาตรการขจัดภาษีซ้อนในเงินปันผลที่ได้จากการลงทุนในต่างประเทศ, ณัฐกนก บุญยประภา

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

No abstract provided.


แนวทางในการจัดเก็บภาษีเงินได้สำหรับบริษัทจำกัดคนเดียว, ธิติณัฎฐ์ ปรีดิพานิจวิภา Jan 2020

แนวทางในการจัดเก็บภาษีเงินได้สำหรับบริษัทจำกัดคนเดียว, ธิติณัฎฐ์ ปรีดิพานิจวิภา

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษานี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อการวิเคราะห์แนวทางการจัดเก็บภาษีเงินได้สําหรับบริษัทจํากัดคนเดียวโดยใช้หลักการจัดเก็บภาษีเงินได้ที่เหมาะสมกับบริบทของบริษัทจํากัดคนเดียวที่กําลังจะเกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งเป็นการศึกษากฎหมายเชิงเปรียบเทียบ โดยรวบรวมข้อมูลของประเทศที่ได้จัดตั้งบริษัทจํากัดคนเดียวและมีหลักปฏิบัติสําหรับการจัดเก็บภาษีเงินได้บริษัทจํากัดคนเดียว เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และอินเดีย เพื่อให้ได้หลักการจัดเก็บภาษีเงินได้สําหรับบริษัทจํากัดคนเดียวที่เหมาะสมที่สุดสําหรับประเทศไทย ซึ่งจากการศึกษาเปรียบเทียบการจัดเก็บภาษีเงินได้บริษัทจํากัดคนเดียวในประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศฝรั่งเศส พบว่าบริษัทจํากัดคนเดียวถูกจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยใช้แนวความคิดระบบส่งผ่านเงินได้ประกอบกับการพิจารณาลักษณะและคุณสมบัติพิเศษของบริษัทจํากัดคนเดียว โดยไม่คํานึงว่า บริษัทจํากัดคนเดียวจะมีสถานะเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายก็ตาม ซึ่งเมื่อนํามาวิเคราะห์ประกอบกับบริบทของบริษัทจํากัดคนเดียวในประเทศไทยที่มีโอกาสเกิดขึ้นแล้ว การจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสําหรับบริษัทจํากัดคนเดียวถือเป็นแนวคิดการจัดเก็บภาษีเงินได้ที่สอดคล้องกับหลักการจัดเก็บภาษีอากรที่ดีและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย ดังนั้น จึงเสนอแนะให้ประเทศไทยรับแนวคิดการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดามาปรับปรุงประมวลรัษฎากรและกฎหมายภาษีอากรที่เกี่ยวข้องเพื่อบังคับใช้ต่อไป


การพัฒนารูปแบบการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม : กรณีการนำเข้าสินค้าในยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล, ปัญญ์ จิตระดับ Jan 2020

การพัฒนารูปแบบการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม : กรณีการนำเข้าสินค้าในยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล, ปัญญ์ จิตระดับ

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

No abstract provided.


ข้อพิจารณาตามหลักการจำกัดขอบเขตการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Purpose Limitation) ตามภารกิจของกรมสรรพากร, พิชชาภา นิลละออ Jan 2020

ข้อพิจารณาตามหลักการจำกัดขอบเขตการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Purpose Limitation) ตามภารกิจของกรมสรรพากร, พิชชาภา นิลละออ

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

No abstract provided.


ปัญหาความไม่ชัดเจนของกฎหมายกับการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการให้บริการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book), พภัสสรณ์ พัฒนฉัตรรุ่งรุจ Jan 2020

ปัญหาความไม่ชัดเจนของกฎหมายกับการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการให้บริการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book), พภัสสรณ์ พัฒนฉัตรรุ่งรุจ

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

เอกัตศึกษาฉบับนี้ มุ่งศึกษาประเด็นปัญหาความไม่ชัดเจนของกฎหมายในการกำหนดประเภทและขอบเขตของหนังสือหรือหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงรูปแบบของการให้บริการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ และแนวทางการคำนวณภาษีกรณีธุรกรรมที่ไม่สามารถแบ่งแยกราคาได้ อีกทั้งได้เสนอให้มีการจัดเก็บภาษีอัตราศูนย์สำหรับการจำหน่ายหนังสือหรือการให้บริการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ประเภทตำราเรียน เนื่องจากประมวลรัษฎากรกำหนดให้มีการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับการจำหน่ายหนังสือหรือการให้บริการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ประเภทหนังสือพิมพ์ นิตยสาร และตำราเรียน แต่อย่างไรก็ดี กฎหมายดังกล่าวไม่มีความชัดเจนแต่อย่างใด ทั้งกรณีการกำหนดประเภทและขอบเขตของหนังสือหรือหนังสืออิเล็กทรอนิกส์และรูปแบบการให้บริการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่จะได้รับยกว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงวิธีการคำนวณภาษีกรณีการทำธุรกรรมที่ไม่สามารถแบ่งแยกราคาได้ ก็มิได้มีการกำหนดแนวทางในการคำนวณภาษีไว้ อันทำให้รัฐอาจสูญเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษี นอกจากนี้ ควรกำหนดให้มีการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราศูนย์สำหรับการจำหน่ายหนังสือหรือการให้บริการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ประเภทตำราเรียน เพื่อให้ปลอดภาระภาษีโดยสิ้นเชิง ผู้เขียนจึงได้ศึกษาแนวคิดและกฎหมาย โดยพิจารณาเปรียบเทียบกับแนวทางการจัดเก็บภาษีหรับการจำหน่ายหนังสือหรือการให้บริการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ในสหราชอาณาจักร เพื่อเสนอแนะแนวทางอันทำให้กฎหมายมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น


ปัญหาค่าอากร ภาษีสรรพสามิตและภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีของที่เก็บในคลังสินค้าทัณฑ์บนสูญหายโดยธรรมชาติ, กรกนก มะณี Jan 2020

ปัญหาค่าอากร ภาษีสรรพสามิตและภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีของที่เก็บในคลังสินค้าทัณฑ์บนสูญหายโดยธรรมชาติ, กรกนก มะณี

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

เอกัตศึกษาฉบับนี้จัดทําขึ้นเพื่อมุ่งศึกษาเกี่ยวกับ ปัญหาค่าอากร ภาษีสรรพสามิตและภาษีมูลค่าเพิ่มกรณีของที่เก็บในคลังสินค้าทัณฑ์บนสูญหายโดยธรรมชาติยังไม่มีความชัดเจนของกฎหมายในกรณีถ้าของที่เก็บในคลังสินค้าทัณฑ์บนสูญหายโดยธรรมชาตินั้นจะต้องเสียภาษีหรือไม่ โดยหลักการของคลังสินค้าทัณฑ์บนถ้าผู้นําเข้าได้นําเข้าของจากนอกราชอาณาจักรและได้นําเข้าเก็บในคลังสินค้าทัณฑ์บนมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งออกนอกราชอาณาจักร ผู้นําเข้าจะได้รับยกเว้นอากรขาเข้า แต่หากมีการนําเข้าบริโภคในประเทศ ผู้นําเข้าจะต้องเสียภาษีนําเข้า หากพิจารณาของที่เก็บในคลังสินค้าทัณฑ์บนสูญหายโดยธรรมชาติ ผู้นําเข้าจะต้องเสียภาษีในกรณีของดังกล่าวสูญหายโดยที่มิได้มีการนําออกนอกราชอาณาจักรหรือไม่นั้นเห็นว่า เมื่อพิจารณาตามพระราชบัญญัติศุลกากรพบว่าตามมาตรา 125 วางหลักว่า ของที่สูญหายนั้น ถ้ามีเหตุอันสมควรจะได้รับยกเว้นอากร ซึ่งไม่มีความชัดเจนของกฎหมายว่าเหตุใดถือว่ามีเหตุอันสมควรและการสูญหายโดยธรรมชาติถือว่ามีเหตุอันสมควรหรือไม่ ทั้งเมื่อพิจารณาตามพระราชบัญญัติสรรพสามิต พ.ศ.2560 ไม่มีการบัญญัติในเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว มีเพียงตัวอย่างหนังสือยอมรับอัตราการสูญหาย(การระเหย) ที่ออกโดยอธิบดีให้เฉพาะรายที่ได้มีคําขอว่าหากมีการสูญหายจากการผลิตตามอัตราที่ยอมรับได้จะได้รับยกเว้นภาษีมิได้ผูกพันต่อผู้เสียภาษีรายอื่นว่าจะได้รับยกเว้นภาษีตามหนังสือฉบับดังกล่าวหรือไม่ และเมื่อพิจารณาภาษีมูลค่าเพิ่มตามประมวลรัษฎากร คําพิพากษาฎีกาที่ 7839-7840/2560 วางหลักว่า การสูญหายคือการขาย ซึ่งไม่มีกฎหมายบัญญัติเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวไว้โดยเฉพาะ ผู้นําเข้าจึงต้องรับผิดในการเสียภาษี และเสียเงินเพิ่มเป็นจำนวนมาก ผู้เขียนจึงมีความเห็นว่าจะกฎหมายดังกล่าวมีความไม่ชัดเจนต่อผู้ประกอบการส่งผลต่อการลงทุนในประเทศ จึงเห็นสมควรมีการแก้ไขกฎหมายให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถแข่งขันกับประเทศทั่วโลกได้โดยเฉพาะในเรื่องการส่งเสริมการส่งออก


ปัญหาความไม่เหมาะสมของพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 กับสิทธิของผู้เสียภาษีอากร ศึกษากรณีการชำระค่าอากรแทนการวางประกัน, กัลยกร ภมรบุตร Jan 2020

ปัญหาความไม่เหมาะสมของพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 กับสิทธิของผู้เสียภาษีอากร ศึกษากรณีการชำระค่าอากรแทนการวางประกัน, กัลยกร ภมรบุตร

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับค่าอากรเกิดขึ้นขณะของกำลังผ่านพิธีการศุลกากร หากพนักงานศุลกากรมีความเห็นเบื้องต้นในขณะผ่านพิธีการศุลกากรว่าผู้นำของเข้ายังเสียอากรไม่ครบถ้วน และผู้นำของเข้าก็ยินยอมชำระอากรไปตามนั้น แม้ต่อมาจะมีการพิจารณาอย่างละเอียดแล้ว พนักงานศุลกากรยังมีความเห็นตามเดิม ผู้นำของเข้าก็จะไม่มีช่องทางให้อุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 เนื่องจากมีการชำระอากรครบถ้วนแล้ว พนักงานศุลกากรจึงไม่ออกแบบแจ้งการประเมินให้ ผู้นำของเข้าจึงไม่อาจอุทธรณ์ได้ แม้ตามมาตรา 55 จะกำหนดให้ผู้นำของเข้าชำระอากรตามจำนวนที่สำแดงไว้ในใบขนสินค้า และวางเงินเพิ่มเติมเป็นประกันหรือวางประกันเป็นอย่างอื่นจนครบจำนวนเงินอากรสูงสุดที่อาจต้องเสียสำหรับของนั้น แต่ปัญหาที่ตามมาคือ เมื่อผู้นำของเข้าวางประกันเพิ่มเติมเป็นเงิน จะมีค่าเทียบเท่ากับการชำระอากรไปก่อนตามความเห็นเบื้องต้นของพนักงานศุลกากร เพราะหากพนักงานศุลกากรได้วินิฉัยปัญหาค่าอากรและเห็นว่าเงินประกันดังกล่าวคุ้มค่าอากรแล้ว จะผลักเงินประกันนั้นเป็นค่าอากรตามจำนวนที่ประเมิน และถือว่าได้เสียอากรครบถ้วนแล้วเช่นเดียวกัน จึงทำให้ผู้นำของเข้าไม่ได้รับแบบแจ้งการประเมินที่ให้ผู้นำของเข้าที่ไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยสามารถอุทธรณ์ไปยังคณะกรรมการพิจารณอุทธรณ์ได้ กรณีจึงกลายเป็นว่าจะต้องวางประกันด้วยหนังสือค้ำประกันของธนาคารเท่านั้นจึงจะได้รับแบบแจ้งการประเมิน กรณีไม่ได้รับแบบแจ้งการประเมินหากประสงค์ที่จะอุทธรณ์ จะต้องอุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ซึ่งเป็นช่องทางที่ไม่เหมาะสม อันเป็นการทำให้ผู้เสียอากรได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้เสียภาษีอากรที่ไม่เท่เทียมกัน จึงไม่สอดคล้องกับสิทธิของผู้รับคำสั่งทางปกครองสิทธิของผู้เสียภาษีอากร และหลักภาษีอากรที่ดี นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบต่อการอุทธรณ์ภาษีสรรพสามิตและภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย เพราะแบบแจ้งการประเมินของศุลกากรจะมีการระบุถึงภาษีทั้งสองประเภทในฉบับเดียวกันด้วย ทำให้ผู้ที่ประสงค์จะอุทธรณ์ไม่ได้รับหลักฐานในการนำไปประกอบการยื่นอุทธรณ์เช่นเดียวกัน ผู้วิจัยจึงได้ศึกษาหลักเกณฑ์ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 เปรียบเทียบกับพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 และประมวลรัษฎากร ประกอบกับหลักการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับภาษีอากร เพื่อเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไป


ปัญหาและอุปสรรคทางกฎหมายเกี่ยวกับการนำกิจการมาเป็นหลักประกัน ทางธุรกิจตามพระราชบัญญัติหลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ.2558, บุณฑริกา เทพารักษ์ Jan 2020

ปัญหาและอุปสรรคทางกฎหมายเกี่ยวกับการนำกิจการมาเป็นหลักประกัน ทางธุรกิจตามพระราชบัญญัติหลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ.2558, บุณฑริกา เทพารักษ์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

เอกัตศึกษานี้มีวัตถุประสงค์ในการศึกษาเรื่องการนำกิจการมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจเพื่อศึกษาเกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรคทางกฎหมายเกี่ยวกับการนำกิจการมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจตามพระราชบัญญัติหลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ. 2558 เอกัตศึกษานี้ดำเนินการศึกษาโดยวิธีวิจัยทางเอกสารเกี่ยวกับกฎหมายและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องในการรับกิจการเป็นหลักประกันทางธุรกิจเพื่อขอสินเชื่อ โดยศึกษาทั้งกฎหมายของประเทศไทยและกฎหมายของต่างประเทศ และวิเคราะห์ปัญหาที่เกี่ยวกับการรับกิจการเป็นหลักประกันของกฎหมายและหลักเกณฑ์ต่างๆ ของไทยและศึกษาเปรียบเทียบกับกฎหมายของประเทศอังกฤษและประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นแม่แบบในการนำหลักกฎหมายมาร่างพระราชบัญญัติหลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ. 2558 ของประเทศไทย และนำมาวิเคราะห์ถึงปัญหาเกี่ยวกับการรับกิจการเป็นหลักประกันทางธุรกิจของไทยที่มีอัตราที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับการรับหลักประกันทางธุรกิจประเภทอื่น งานวิจัยนี้พบว่า ปัญหาการไม่รับหลักประกันทางธุรกิจประเภทกิจการเพราะผู้รับหลักประกันมีความกังวลเกี่ยวกับการบังคับหลักประกัน วิธีการในการประเมินมูลค่าและคุณสมบัติของผู้ประเมินมูลค่าและผู้บังคับหลักประกัน ทำให้ไม่เกิดการรับหลักประกันประเภทกิจการได้จริงในทางปฏิบัติวิจัยนี้เสนอให้ตรากฎหมายเพิ่มเติมหลักเกณฑ์ในการประเมินมูลค่ากิจการให้ใช้วิธี 4 วิธีในการประเมินและต้องประเมินมูลค่าปีละครั้งและเพิ่มทางเลือกกรณีบังคับกิจการให้สามารถเลือกได้ว่าจะบังคับกิจการออกขายหรือเพียงยึดอำนาจบริหารและกำหนดคุณสมบัติของผู้ประเมินมูลค่าให้เป็นผู้ที่มีหน่วยงานรับรองและคุณสมบัติของผู้บังคับหลักประกันให้มีคุณสมบัติเช่นเดียวกันผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ


แนวทางการพัฒนาการจัดเก็บภาษีการเข้าพักโรงแรมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น : ศึกษากรณีสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม, พัทธมน บุญมี Jan 2020

แนวทางการพัฒนาการจัดเก็บภาษีการเข้าพักโรงแรมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น : ศึกษากรณีสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม, พัทธมน บุญมี

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ภาษีการเข้าพักโรงแรม คือ รายได้ของรัฐที่เรียกเก็บจากการเข้าพักในโรงแรมหรือที่พักประเภทอื่น ๆ ของนักท่องเที่ยว ซึ่งไม่รวมถึงภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยในประเทศไทยจัดเก็บรายได้ดังกล่าวในลักษณะของค่าธรรมเนียมบํารุงองค์การบริหารส่วนจังหวัดและค่าธรรมเนียมบํารุงกรุงเทพมหานครโดยกฎหมายให้อํานาจแก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดและกรุงเทพมหานครซึ่งเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นออกข้อบัญญัติท้องถิ่นเรียกเก็บภาษีการเข้าพักโรงแรมจากผู้พักในโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรมได้ซึ่งกฎหมายว่าด้วยโรงแรม ประเทศไทยมีเพียงฉบับเดียว คือ พระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ.2547 ดังนั้น เฉพาะการเข้าพักในสถานที่พักที่เป็นโรงแรมตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547 เท่านั้น ที่จะต้องเสียภาษีการเข้าพักโรงแรม ทําให้เกิดความไม่เสมอภาคและไม่ยุติธรรมแก่ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเพราะผู้ที่เข้าพักในสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรมตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547 ย่อมไม่ต้องเสียภาษีการเข้าพักโรงแรม เพราะฉะนั้น ควรมีการปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้สามารถจัดเก็บภาษีการเข้าพักโรงแรมจากการเข้าพักในสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรมได้ โดยจากการศึกษาวิเคราะห์ผู้วิจัยเห็นว่าแนวทางการพัฒนาการจัดเก็บภาษีการเข้าพักโรงแรมจากสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เหมาะสม คือ (1) ควรตรากฎหมายภาษีการเข้าพักโรงแรมให้เป็นกฎหมายระดับพระราชบัญญัติเพื่อให้มีความชัดเจนและสอดคล้องกับหลักภาษีอากรที่ดีและ (2) ควรปฎิรูปกฎหมายที่เกี่ยวกับสถานที่พักแรม เพื่อส่งเสริมและควบคุมสถานที่พักแรมที่ยังไม่มีกฎหมายรองรับ ทั้งนี้การปรับปรุงกฎหมายดังกล่าว นอกจากจะทําให้การจัดเก็บภาษีการเข้าพักโรงแรมสอดคล้องกับหลักภาษีอากรที่ดีแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพและอํานวยรายได้ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วย


ปัญหาการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามมาตรา 67 แห่งประมวลรัษฎากร ศึกษากรณีกิจการขนส่งระหว่างประเทศ, วาสิตา วราสิทธิชัย Jan 2020

ปัญหาการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามมาตรา 67 แห่งประมวลรัษฎากร ศึกษากรณีกิจการขนส่งระหว่างประเทศ, วาสิตา วราสิทธิชัย

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ภายหลังการบังคับใช้พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2494 หลักเกณฑ์การจัดเก็บภาษีเงินได้จากกิจการขนส่งระหว่างประเทศ จะเป็นไปตามประเภทของผู้ประกอบการ กล่าวคือนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศจะอยู่ภายใต้บังคับมาตรา 67 โดยต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลเฉพาะรายได้จากการขนส่งระหว่างประเทศก่อนหักรายจ่ายใด ในอัตราร้อยละ 3 ส่วนรายได้อื่นของกิจการเสียภาษีจากกำไรสุทธิ แต่สำหรับนิติบุคคลไทยจะเสียภาษีเงินได้จากกำไรสุทธิซึ่งเป็นรายได้ทั้งหมดของกิจการในอัตราร้อยละ 20 เห็นได้ว่าแม้จะประกอบกิจการประเภทเดียวกันแต่หลักเกณฑ์ที่ใช้จัดเก็บภาษีแตกต่างกัน อย่างไรก็ดีการกำหนดหลักเกณฑ์ดังกล่าวในการจัดเก็บภาษีส่งผลให้ผู้ประกอบการสองประเภทมีภาระภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ไม่เท่ากันซึ่งขัดกับหลักความเป็นธรรมทางภาษี ทั้งยังเกิดปัญหาการแบ่งแยกรายได้จากการเสียภาษีในฐานภาษีที่แตกต่างกันและเมื่อไม่มีการกำหนดขอบเขตที่ชัดเจนของรายได้จากการขนส่งระหว่างประเทศที่ต้องเสียภาษีตามมาตรา 67 ส่งผลให้มีการถ่ายโอนรายได้กันภายในกิจการเพื่อให้ได้เสียภาษีในจำนวนที่น้อยที่สุดอันเป็นการเปิดช่องและนำไปสู่การหลบหลีกภาษีอากร ด้วยเหตุนี้ผู้เขียนจึงทำการศึกษาหลักเกณฑ์การจัดเก็บภาษีจากกิจการขนส่งระหว่างประเทศของต่างประเทศเพื่อหาแนวทางการจัดเก็บภาษีที่เหมาะสมกับกิจการดังกล่าว โดยผู้เขียนเห็นว่าควรเปลี่ยนหลักเกณฑ์ให้จัดเก็บภาษีจากกำไรสุทธิของกิจการซึ่งเป็นหลักเกณฑ์เดียวกันกับการจัดเก็บภาษีจากนิติบุคคลไทยที่ประกอบกิจการขนส่งระหว่างประเทศ นอกจากจะสอดคล้องกับหลักการบริหารภาษีที่ดีแล้ว การเปลี่ยนหลักเกณฑ์เช่นนี้ยังขจัดปัญหาการแบ่งแยกรายได้ภายในกิจการเดียวกันได้อีกด้วย


การกําหนดความรับผิดอาญาในความผิดฐานช่วยเหลือการหนีภาษีอากร : ศึกษาเปรียบเทียบกฎหมายอาชญากรรมทางการเงินของสหราชอาณาจักร, นุชจรินทร์ จินดารัตน์ Jan 2020

การกําหนดความรับผิดอาญาในความผิดฐานช่วยเหลือการหนีภาษีอากร : ศึกษาเปรียบเทียบกฎหมายอาชญากรรมทางการเงินของสหราชอาณาจักร, นุชจรินทร์ จินดารัตน์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

No abstract provided.


การเพิ่มอำนาจหน้าที่ให้กับเจ้าพนักงานในหน่วยงานจัดเก็บภาษีอากรในการดำเนินคดีอาญา : กรณีศึกษาอำนาจฟ้องและดำเนินคดีภาษีอากรที่มีโทษอาญา, ศิรดา อรุณชัยภิรมย์ Jan 2020

การเพิ่มอำนาจหน้าที่ให้กับเจ้าพนักงานในหน่วยงานจัดเก็บภาษีอากรในการดำเนินคดีอาญา : กรณีศึกษาอำนาจฟ้องและดำเนินคดีภาษีอากรที่มีโทษอาญา, ศิรดา อรุณชัยภิรมย์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

เนื่องจากการดำเนินคดีอาญาที่เกี่ยวเนื่องกับภาษีอากรของประเทศไทยในปัจจุบันนั้น ไม่มีกฎหมายวิธีพิจารณาความเป็นบทบัญญัติเฉพาะ กระบวนการทางอาญาที่เกี่ยวข้องกับภาษีอากรจึงเป็นไปตามบทบัญญัติกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาทั่วไป ทำให้เจ้าพนักงานในหน่วยงานจัดเก็บภาษีหรือกรมสรรพากรต้องส่งเรื่องพร้อมด้วยบันทึกข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานต่าง ๆ ไปให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวน และพนักงานสอบสวนจึงส่งสำนวนพร้อมทั้งความเห็นให้พนักงานอัยการพิจารณาและทำคำสั่งฟ้องคดีต่อไป ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้เกิดความล่าช้า แต่ยังทำให้กระบวนการดำเนินคดีอาญาทางภาษีอากรขาดประสิทธิภาพอีกด้วย จากการศึกษาพบว่า จึงควรแก้ไขกฎหมายในส่วนที่เกี่ยวกับการดำเนินคดีอาญาที่เกี่ยวเนื่องกับภาษีอากรโดยการเพิ่มอำนาจฟ้องแก่เจ้าหน้าที่สรรพากร เพื่อให้เจ้าหน้าที่สรรพากรสามารถดำเนินคดีอาญาที่เกี่ยวเนื่องกับภาษีอากรได้


ขอบเขตการบังคับใช้ภาษีการได้รับประโยชน์จากการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐ ศึกษากรณีนิยามของคำว่าที่ดินที่เป็นฐานภาษีและระยะเวลาในการชำระภาษี, ณัฐภัทร เหมวงษ์ Jan 2020

ขอบเขตการบังคับใช้ภาษีการได้รับประโยชน์จากการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐ ศึกษากรณีนิยามของคำว่าที่ดินที่เป็นฐานภาษีและระยะเวลาในการชำระภาษี, ณัฐภัทร เหมวงษ์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

รายงานเอกัตศึกษาฉบับนี้มุ่งเน้นศึกษาปัญหาการกําหนดมูลค่าขั้นต่ำของอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่ดินที่กําหนดให้ถูกจัดเก็บ และระยะเวลาการจัดเก็บภาษีตามร่างพระราชบัญญัติภาษีการได้รับประโยชน์ฯ เพื่อเปรียบเทียบการจัดเก็บภาษีและค่าธรรมเนียมในลักษณะเดียวกันของประเทศโปแลนด์และประเทศอังกฤษและพิจารณาแนวทางการจัดเก็บ เพื่อนํามาปรับปรุงแก้ไขการกําหนดมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์และการกําหนดกรอบระยะเวลาตามร่างพระราชบัญญัติภาษีการได้รับประโยชน์ฯ ให้มีความเหมาะสมและเป็นไปตามหลักการผลประโยชน์และหลักอํานวยรายได้ให้แก่รัฐ จากการศึกษาและวิเคราะห์พบว่า ในการกําหนดเงื่อนไขจัดเก็บภาษีตามร่างพระราชบัญญัติภาษีการได้รับประโยชน์ฯ มาตรา 6 (2)(ก) ที่กําหนดมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่ดินที่ใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ต้องมีมูลค่าที่เกินกว่า 50 ล้านบาท จึงจะถูกจัดเก็บภาษี ทําให้มีอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่ดินจำนวนมากที่ใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ที่อยู่ในเขตรัศมีที่ถูกกําหนดให้จัดเก็บภาษีและได้รับประโยชน์จากการที่รัฐพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของรัฐ แต่ไม่อยู่ในขอบเขตต้องเสียเก็บภาษี ซึ่งขัดกับหลักการผลประโยชน์ เนื่องจากที่ดินเหล่านั้นมีมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาทตามที่ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้กําหนดไว้ เห็นควรแก้ไขบทบัญญัติมาตราดังกล่าวไม่ให้นํามูลค่าขั้นต่ำมาเป็นเงื่อนไขในการจัดเก็บภาษี เพราะภาษีการได้รับประโยชน์ฯ ต้องการจัดเก็บเพื่อนําไปเป็นรายได้ในการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคด้านคมนาคมขนส่งของรัฐ ซึ่งใช้เงินทุนจํานวนมากในการก่อสร้างและดําเนินการ อีกทั้งการจัดเก็บภาษีทําเพียงครั้งเดียว จึงไม่ควรกําหนดเงื่อนไขที่ทําให้ฐานภาษีแคบเกินไปและไม่อํานวยรายได้ให้แก่รัฐ ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์ที่ต้องการจัดเก็บอีกด้วย และปัญหาอีกประการหนึ่งก็คือเงื่อนไขตามามาตรา 6 (2) เรื่องระยะเวลากําหนดหน้าที่ผู้เสียภาษีโดยให้เสียภาษีภายใน 30 วัน นับแต่โครงการของรัฐแล้วเสร็จ ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่สร้างภาระภาษีให้แก่ตัวผู้เสียภาษีเนื่องจากระยะเวลาสั้นเกินไป เมื่อเทียบกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีการกําหนดระยะเวลามากกว่า ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาแจ้งผู้เสียภาษีหรือระยะเวลาการชําระภาษี เห็นควรกําหนดกรอบระยะเวลาการจัดเก็บภาษีให้มากกว่าที่กําหนดไว้ในมาตรา 6 (2) และควรมีกระบวนการแจ้งผู้เสียภาษีให้เตรียมตัวเสียภาษีให้ชัดเจนมากขึ้นเพื่อสร้างความสะดวกแก่ตัวผู้เสียภาษี


ข้อจำกัดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อป้องกันการทุจริตในธุรกิจ ธนาคารพาณิชย์ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข่อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562, ภัคจิรา ตั้งสุทธิมงคล Jan 2020

ข้อจำกัดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อป้องกันการทุจริตในธุรกิจ ธนาคารพาณิชย์ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข่อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562, ภัคจิรา ตั้งสุทธิมงคล

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

กิจกรรมของชมรมตรวจสอบและป้องกันการทุจริตในธุรกิจธนาคารพาณิชย์มีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลระหว่างธนาคารพาณิชย์ ซึ่งทำให้มีประเด็นปัญหาว่ากิจกรรมดังกล่าวเป็นการปฏิบัติสอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562ที่กำหนดห้ามมิให้ผู้ใดเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลหากไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลเว้นแต่กฎหมายจะบัญญัติยกเว้นไว้ หรือไม่ การศึกษาพบว่า กิจกรรมการตรวจสอบและป้องกันการทุจริตของชมรมตรวจสอบและ ป้องกันการทุจริตในภาคธุรกิจธนาคารพาณิชย์ของประเทศไทย ยังมีข้อจำกัด ทำได้เพียงกิจกรรมที่จำกัดเฉพาะเป็นฐานของธนาคารเองเท่านั้น ซึ่งจำเป็นต้องมีกฎหมายรองรับให้ทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์สาธารณะได้มากขึ้น ดังนั้นเพื่อให้สอดคล้องและเป็นไปตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 จึงเสนอแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายโดยยกระดับชมรมตรวจสอบและป้องกันการทุจริต ให้มีฐานะเป็นองค์กรที่มีอำนาจออกกฎหมายเพื่อให้มีผลใช้บังคับสอดคล้องกับการปฏิบัติงานภาคธุรกิจธนาคาร และเพื่อป้องกันผลกระทบเป็นวงกว้างต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศกิจกรรมของชมรมตรวจสอบและป้องกันการทุจริตในธุรกิจธนาคารพาณิชย์มีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลระหว่างธนาคารพาณิชย์ ซึ่งทำให้มีประเด็นปัญหาว่ากิจกรรมดังกล่าวเป็นการปฏิบัติสอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562ที่กำหนดห้ามมิให้ผู้ใดเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลหากไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลเว้นแต่กฎหมายจะบัญญัติยกเว้นไว้ หรือไม่ การศึกษาพบว่า กิจกรรมการตรวจสอบและป้องกันการทุจริตของชมรมตรวจสอบและ ป้องกันการทุจริตในภาคธุรกิจธนาคารพาณิชย์ของประเทศไทย ยังมีข้อจำกัด ทำได้เพียงกิจกรรมที่จำกัดเฉพาะเป็นฐานของธนาคารเองเท่านั้น ซึ่งจำเป็นต้องมีกฎหมายรองรับให้ทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์สาธารณะได้มากขึ้น ดังนั้นเพื่อให้สอดคล้องและเป็นไปตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 จึงเสนอแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายโดยยกระดับชมรมตรวจสอบและป้องกันการทุจริต ให้มีฐานะเป็นองค์กรที่มีอำนาจออกกฎหมายเพื่อให้มีผลใช้บังคับสอดคล้องกับการปฏิบัติงานภาคธุรกิจธนาคาร และเพื่อป้องกันผลกระทบเป็นวงกว้างต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ


ข้อจำกัดทางกฎหมายในการระงับข้อพิพาทตาม พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและปลูกสร้าง พ.ศ.2562 ศึกษากรณีกระบวนการโต้แย้งสิทธิที่มีหลายขั้นตอน, กัญญณัฎฐ์ สิริวรวัชร์ Jan 2020

ข้อจำกัดทางกฎหมายในการระงับข้อพิพาทตาม พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและปลูกสร้าง พ.ศ.2562 ศึกษากรณีกระบวนการโต้แย้งสิทธิที่มีหลายขั้นตอน, กัญญณัฎฐ์ สิริวรวัชร์

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

No abstract provided.


ความผิดจากการเปิดเผยข้อมูลอันเป็นเท็จของบริษัทจำกัดในการเสนอขาย หลักทรัพย์ผ่านระบบคราวด์ฟันดิง (Crowdfunding), ฉัตรนรินทร์ บำเพ็ญวัฒนา Jan 2020

ความผิดจากการเปิดเผยข้อมูลอันเป็นเท็จของบริษัทจำกัดในการเสนอขาย หลักทรัพย์ผ่านระบบคราวด์ฟันดิง (Crowdfunding), ฉัตรนรินทร์ บำเพ็ญวัฒนา

Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

No abstract provided.